พระยอดนิยม
-
พระบูชา พระสหธรรมิก พระยอดนิยม
***กองทัพธรรม*** หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง และพระสหธรรมิก
หลวงพ่อฤาษีลิงดำและพระสหธรรมมิกของท่าน ล้วนแต่พระอรหันต์และพุทธภูมิปรมัตถบารมี
1. พระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
2. หลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุนนาค จ.นครสวรรค์
3. หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
4. พระครูสุคันธศีล (หลวงปู่คำแสน) วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่
5. หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล จ.เชียงใหม่
6. พระครูภาวนาภิรัต (ครูบาอินทจักร์รักษา) วัดน้ำบ่อหลวง จ.เชียงใหม่
7. ครูบาพรหมจักสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน
8. ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย จ.ลำพูน
9. หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี
10. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
11. ครูบาชัยยะวงษา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน
12. ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ -
***บูรพาจารย์*** พระอาจารย์ในสายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
ตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้กล่าวถึงไว้ใน “หนังสือคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน” ครูบาอาจารย์ที่สอนในส่วนปฏิบัติกรรมฐานแก่หลวงพ่อจะมีอยู่ด้วยกันหลายท่าน และบางท่านที่หลวงพ่อท่านกล่าวถึงจะเป็นอาจารย์ของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค แต่ท่านขอถือว่าท่านอาจารย์เหล่านั้นเป็นเสมือนครูบาอาจารย์ของท่านด้วย
1. พระครูวิหารกิจจานุการ (หลวงพ่อปาน สุทธาวงษ์) วัดบางนมโค
– ท่านเป็นปฐมาจารย์ผู้สั่งสอนเป็นองค์แรก สอนกรรมฐานทุกอย่างทุกตอนแก่หลวงพ่อ2. หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
– ท่านเป็นพระอาจารย์องค์แรกของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ที่สอนกรรมฐานทุกอย่างให้หลวงปู่ แล้วถ่ายทอดวิชาความรู้มายังหลวงพ่ออีกที3. หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
– ท่านเป็นพระสหายธรรมของหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค4. หลวงพ่อเนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
– ท่านเป็นพระสหธรรมมิกของหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ที่หลวงพ่อสุ่นบอกให้หลวงปู่ปานท่านไปเรียนวิชาความรู้ด้วย5. หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน (วัดอัมพวัน) อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
– ท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย เป็นพระสหธรรมมิกของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อ6. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
– ท่านเป็นพระสหธรรมมิกของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อ7. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สมเด็จนวม) วัดอนงคาราม
– ท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อ ครั้งที่หลวงพ่อเข้ามาเรียนบาลี และพำนักอยู่ที่วัดอนงคาราม8. พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด) วัดปากน้ำภาษีเจริญ
– ท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อ ครั้งที่หลวงพ่อเข้ามาเรียนเปรียญธรรมที่กรุงเทพฯ9. พระครูอุดมสมาจารย์ (หลวงพ่อสังข์) วัดน้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
– ท่านเป็นศิษย์สายกรรมฐานของหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ และเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อ -
***ผงอุดคำข้าวแบบต่างๆ*** พระคำข้าวรุ่นพิเศษ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
ถ้าพูดถึงพระคำข้าวรุ่นพิเศษ จะมีอยู่ด้วยกัน3แบบ คือ
แบบที่1 ด้านหน้าเป็นรูปสมเด็จองค์ปฐม ติดพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุด้านหน้า5องค์ ด้านหลังเป็นรูปยันต์เกราะเพชรและอุดผงคำข้าว จะมีอยู่ด้วยกันสองแบบคือ ยันต์เกราะเพชรที่ปั๊มแบบจมลงไป(พิมพ์ยันต์จม) และยันต์เกราะเพชรเป็นแบบนูนขึ้นมา (พิมพ์ยันต์นูน)
แบบที่2 ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อ ติดพระธาตุข้าวบิณฑ์1องค์ ด้านหลังเป็นรูปยันต์เกราะเพชรและอุดผงคำข้าว
แบบที่3 ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อ ด้านหลังเป็นรูปยันต์เกราะเพชรและอุดผงคำข้าว (ไม่ติดพระธาตุข้าวบิณฑ์)
จุดหลักและเป็นจุดสำคัญในการพิจารณาพระคำข้าวรุ่นพิเศษแบบต่างๆทั้งหมดนี้ คือ “ผงคำข้าวที่อุดด้านหลัง” ซึ่งจะมีทั้งทีเป็น สีเหลือง , สีเทา และสีขาว ในวงการ…ผงคำข้าวนี่แหล่ะ จะเป็นตัววัดและเป็นตัวตัดสินว่าพระองค์นั้นแท้หรือเป็นของเลียนแบบ นำภาพต่างๆแต่ละแบบมาให้ศึกษากัน
********************************
วิธีการอาราธนาพระคำข้าว
คำอาราธนา ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหมด รวมทั้ง เทวดาและพรหม ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ตลอดจนพระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง เป็นที่สุด แล้วตั้งนะโม 3จบ ปฎิบัติตามปกติว่า อิติปิโส 1จบ หลังจากนั้นให้อธิษฐานเอาตามความประสงค์ เมื่ออธิษฐานแล้ว ปลุกด้วยคาถาปลุกพระของหลวงพ่อปานว่า
“ อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่มะอะอุนี้เถิด”
สำหรับพระคำข้าวทำได้ยากมาก เพราะต้องเสกข้าวที่มีรสอร่อยที่สุดนำมาเสก ทำอย่างนี้ครบ ๓ เดือนแล้วจึงทำเป็นผง แล้วนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกวาระหนึ่ง
-
๔. เครื่องราง พระยอดนิยม ศาสตราวุธ - มีดหมอ
***รวมรุ่น*** มีดหมอชาตรี (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
มีดหมอของหลวงพ่อแต่ละเล่มไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ จะมีเทวดาคุ้มครองดูแลอยู่ อธิษฐานอาราธนาขอได้ทุกอย่าง…
หลังพิธีพุทธาภิเษก หลวงพ่อเมตตาเล่าว่า… “สมเด็จองค์ปฐมเสด็จมาเป็นประธานเอง พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ มากันแน่นขนัด กระทั่งสมเด็จองค์ปฐมตรัสเรียกท่านท้าวสหัมบดีพรหมเข้ามาเพื่อสั่งการ ขนาดท่านท้าวสหัมบดีพรหมยังต้องกราบขอทางแทบแย่กว่าจะหลีกเข้าไปได้…” “….ของทุกอย่างในพิธี ไม่ว่าจะเป็นมีดหมอ น้ำมัน ชานหมาก สมเด็จองค์ปฐมตรัสว่า เสกคราวนี้เอาชาตรีนำหน้าทั้งนั้น ทุกครั้งท่านซุกไว้ คราวนี้นำหน้าเลยนะ”
วิธีใช้…ให้อาราธนาพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยเจ้าทั้งหมด พรหมและเทวดาทั้งหมด ครูบาอาจารย์ มีหลวงพ่อปานวัด บางนมโค และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นที่สุด และท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง4
ถ้าใช้รักษาโรค ให้เอามีดเเตะศรีษะแล้วว่าคาถา
” ทุกขา ทุกขัง ปฏิฐิตัง สัมปติฉามิ ”ถ้าใช้ไล่ผี ถ้าชักมีดขึ้นมามันยังไม่ไป ให้เอามีดแตะศรีษะเป่าด้วยคาถา
” นะโมพุทธายะ ”****************************************************************************************************
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
:- มีดหมอทำไมต้องทำปลอกสวมด้วย?
….หลวงพ่อท่านตกลงกับท้าวมหาราชว่า ถ้าใครชักมีดหมอออกจากฝัก แปลว่าต้องการความช่วยเหลือ แต่หลวงพ่อท่านไม่ได้บอกกล่าวให้ลูกหลานได้ทราบกันล่วงหน้าก่อน พอตอนเย็นวันที่ทำพิธีมีดหมอเสร็จ ทางวัดก็นำออกมาแบ่งให้บูชาร่วมบุญกันคืนนั้นเลย จัดสร้างประมาณ 850เล่ม พอเช้าวันรุ่งขึ้น หลวงพ่อท่านฉันอาหารเช้าก็นั่งไปก็หัวเราะไป ท่านบอกว่าท้าวมหาราชท่านมาฟ้องว่าลูกๆหลานๆของหลวงพ่อ ชักมีดหมอเล่น ทำให้ท่านเตรียมพร้อมมาช่วยเหลือกันเก้อ เดี๋ยวคนโน้นชักเดี๋ยวคนนี้ชัก ชักออกมาชมความงามของมีด ชักออกมาดูนั้นดูนี่ แต่ไม่มีใครเดือดร้อนให้ช่วยเหลือ ทำให้เทวดาท่านวิ่งวุ่นกันไปหมด หลวงพ่อจึงบอกลูกหลานว่า อย่าไปชักสุ่มสี่สุ่มห้า จะชักแต่ละทีก็ต้องบอกท่านก่อนว่าจะใช้งานอะไร หรือไม่ก็วันนี้เอามาทำความสะอาดนะครับ ให้ขออนุญาต บอกกล่าวให้ท่านทราบก่อน
-
***รูปในตำนาน*** รูปถ่ายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค – หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ยุคแรกๆ
ถือเป็นสมบัติพ่อให้ที่มีคุณค่าทางจิตใจมากและยากสุดๆที่จะหาได้เจอเป็นภาพขาวดำกระดาษหนังไก่รูปหลวงปู่ปานแบบร่องละเอียด ผิวปรอทของภาพยุคเก่ายังมองเห็นหากได้ดูรูปจริง รูปนี้สร้างครั้งสมัยหลวงพ่อ (พระมหาวีระ ถาวโร) ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดบางนมโค ช่วงปี2494-2500 เก่าๆสุดจะบรรยาย
ส่วนอีกรูปเป็นรูปถ่ายหลวงพ่อภาพขาวดำยุคแรกๆ มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ สร้างออกมาจำนวนไม่มากนัก หลวงพ่อท่านแจกสมัยที่ท่านมาอยู่วัดท่าซุงใหม่ๆ ประมาณปี2511 หาไม่ง่ายนัก ถือเป็นสมบัติพ่อให้อีกหนึ่งชิ้นที่ทรงคุณค่าทางจิตใจ
**********************************************
ปล.รูปหลวงปู่ปานแบบนี้มีให้เห็นเยอะ ตัวจบว่าเป็นของหลวงพ่อแจกแน่นอนหรือเปล่าอยู่ที่บรรทัดสุดท้าย “(พระมหาวีระ ถาวโร) เจ้าอาวาสวัดบางนมโค ถ้าไม่มีระบุไว้ก็คงหาอะไรยืนยันได้ยาก
-
๕. พระรุ่นใหม่ พระยอดนิยม พระรุ่นใหม่-โชว์
***เนื้อทองคำ ลงยา*** เหรียญเสมาครบรอบ ๑๐๐ปีเกิด หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
เนื้อทองคำ ลงยา ให้ช่างลองทำเป็นตัวอย่าง 1เหรียญ แต่สุดท้ายไม่ได้ทำเพิ่มเติม
**************************************************************************
เหรียญเสมาครบรอบ ๑๐๐ปีเกิด พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานนี้ ทางผู้สร้าง (ยอด เศรษฐีธรรม) ได้ขออนุญาตท่านเจ้าคุณภาวนากิจวิมล เจ้าอาวาสวัดท่าซุง จัดสร้างและนำเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดท่าซุง อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2559 ซึ่งตรงกับวันเสาร์๕ เป็นวันฤกษ์พรหมประสิทธิ์ อมฤตโชค และเป็นวันมหามงคลที่ทางวัดจัดงานพิธีเททองหล่อรูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเนื้อทองคำบริสุทธิ์ 99.99% หน้าตัก 18นิ้ว น้ำหนัก 1ร้อยกว่ากิโลกรัม และหน้าตัก 9นิ้วอีก1องค์ ในวาระครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดของท่าน ที่ศาลา12ไร่
เหรียญเสมา๑๐๐ปีเกิดนี้ ลักษณะด้านหน้าเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์ในอริยาบทที่ท่านนั่งเป็นประจำเวลาออกรับแขก ลูกหลานหลวงพ่อจะเรียกท่านั่งนี้ว่า “นั่งเศรษฐี” นั่งอยู่บนฐานบัว โดยถอดแบบมาจากรูปหล่อหลวงพ่อนั่งบัวรุ่นแรก ด้านบนมีชื่อ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” เหนือขึ้นไปมี “ยันต์อุณาโลม” เปรียบเสมือนตัวแทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ส่วนด้านหลังเป็นยันต์ท้าวมหาชมภู ซึ่งเป็นยันต์ประจำเฉพาะองค์หลวงพ่อ ที่เจ้าของยันต์รับประกันว่า ลูกหลานผู้ยึดมั่นในศีลในธรรมบูชาแล้วจะไม่ตายโหง ถ้าเคราะห์ร้ายจริงๆจะยอมให้แค่เสียเลือดแต่กระดูกจะไม่หัก ถ้าถึงตาย จะให้กลับมาตายที่บ้าน เป็นหนึ่งในสุดยอดยันต์ รอบยันต์มีคำว่า “นะ มะ พะ ทะ” คาถาหัวใจธาตุทั้ง4 ด้านบนชิดขอบมีคำว่า “มหาวิชชะโยโหหิ อะตังวาโส” บทคาถาเพื่อนมัสการท่านท้าวมหาชมภู ส่วนด้านล่างใต้ยันต์มีคำว่า “เวสะพุสะ” บทคาถาเพื่อนมัสการท่านท้าวเวสสุวัณ และใต้ลงมามี ลายเซ็นต์หลวงพ่อ “พระราชพรหมยาน” พร้อมข้อความว่า “ครบรอบ๑๐๐ปีเกิด พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ๒๕๕๙”จัดสร้างออกมาทั้งหมดทุกเนื้อรวม 5,450เหรียญ ตามรายละเอียด ดังนี้
– เหรียญเนื้อทองคำ จัดสร้าง 9เหรียญ
– เหรียญเนื้อตะกั่ว จัดสร้าง 16เหรียญ (และแบบไม่ตัดปีก อีก 19เหรียญ)
– เหรียญเนื้อเงิน จัดสร้าง 150เหรียญ
– เหรียญเนื้อนวะ จัดสร้าง 138เหรียญ
– เหรียญเนื้อทองแดง จัดสร้าง 2,559เหรียญ
– เหรียญเนื้อทองระฆัง จัดสร้าง 2,559เหรียญทุกเหรียญตอกโค๊ต “อุณาโลม” (มี2ตัวสำหรับชุดทองคำ เลข1-9) กับโค๊ต “๑๐๐ปี” และหมายเลขกำกับทุกเหรียญ
โดยทางผู้สร้างได้ถวายเหรียญเนื้อเงิน เนื้อนวะ เนื้อทองแดง และเนื้อทองระฆัง ให้กับทางวัดท่าซุง รวม 3พันกว่าเหรียญ เพื่อออกจำหน่ายที่ตึกรับแขกให้ลูกหลานหลวงพ่อได้ร่วมบุญบูชากัน ส่วนเหรียญที่เหลือได้ถวายให้กับทางวัดพลงช้างเผือก จ.ระยอง และมอบให้กับผู้ที่ร่วมบุญสร้าง “วิหาร ๑๐๐ปี พระราชพรหมยาน” – สร้างสมเด็จองค์ปฐม 4ศอกปิดทองคำแท้ – สร้างรูปเหมือนหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และรูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่อ หน้าตัก30นิ้วขนาดเท่าองค์จริง ถวาย ณ วัดพลงช้างเผือก จ.ระยอง กับทางผู้สร้าง
********************************************************************************************************
คำอาราธนาพระทุกรุ่นทุกพิมพ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
ขอกราบอาราธนาบารมีองค์สมเด็จองค์ปฐม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม เทวดาทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และพระเดชพระคุณหลวงพ่อ วัดท่าซุง เป็นที่สุด
ตั้งนะโม ๓ จบ จากนั้นว่า อิติปิโสฯ ๑ จบ หลังจากนั้นให้อธิษฐานเอาตามประสงค์
……………………………………………( อธิฐาน )……………………………………..
เมื่ออธิษฐานแล้ว ปลุกด้วย คาถาปลุกพระของหลวงปู่ปาน ว่า..“อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้ด้วยเถิด”
-
คฑาเสก “ไม้ครู” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
“คฑาเสก” หรืออาจจะเรียกกันว่า “ไม้ครู” ด้ามนี้เป็นด้ามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเคยใช้เคาะกระหม่อมลูกศิษย์ลูกหาญาติโยมที่ไปกราบท่าน ตัวด้ามทำด้วยเหล็กทั้งอัน กลึงเป็นหัวขุนด้ามคฑาสวยงาม เป็นด้ามแรกและมีเพียงด้ามเดียว ภายหลังหลวงพ่อไม่ได้ใช้ เพราะบางครั้งเผลอๆตอนที่หลวงพ่อเคาะกระหม่อมลูกหลาน บางทีจะเคาะแรงไปทำให้ลูกหลานเจ็บได้ หลวงพ่อจึงได้ทำเป็นด้ามไม้ในภายหลัง และด้ามนี้ได้มอบให้ศิษย์ใกล้ชิดที่ถวายการรับใช้หลวงพ่อ
คฑาเสก เล่มนี้ได้เข้าพิธีพุทธาภิเศกเมื่อพิธี เสาร์๕ ตรงกับวันที่ 3 มีนาคม 2530 ที่ตัวด้ามมีสลักไว้ชัดเจน ส่วนอีกฝั่งสลักเป็นอักษระยันต์ยาวตลอดด้าม ถือเป็นอีกหนึ่งในสุดยอดสมบัติพ่อให้ที่หลวงพ่อท่านได้สร้างไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน
กราบขอบพระคุณ คุณพี่ท่านผู้ใจดีที่แบ่งมาให้บูชาเพื่อเก็บรักษาไว้เป็นมรดกให้สงเคราะห์ลูกหลานในภายภาคหน้าต่อไป _/|\_
*************************************************************************************
วิธีการใช้คฑาไม้ครู
ใช้ด้านหัวของคฑาไม้ครู (แตะศรีษะ)
-ใช้ฝึกกรรมฐาน : นะโมพุทธายะ
-ใช้ตัดเคราะห์ : ภะสัมสัมวิสะเทภะ
-ใช้เพื่อให้ความสำเร็จ : สัมปะติจฉามิด้านปลายของคฑาไม้ครู (แตะศรีษะ)
-ใช้ให้ลาภ : มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม -
พระคำข้าว รุ่น1 พระธาตุเสด็จ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
ถ้าจะพูดถึงพระหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระองค์แรกๆที่จะนึกถึงคงจะเป็น พระคำข้าว – พระหางหมาก พระที่ลูกศิษย์หลวงพ่อทุกคนจะมีไว้บูชากัน สำหรับพระคำข้าว รุ่น1 หลวงพ่อพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2533 จำนวนประมาณ 100,000องค์ พุทธคุณเต็มเปี่ยมทุกอย่าง แต่จะเด่นและหนักไปทางด้านลาภสักการะ
ประวัติพระคำข้าว มหาลาภ
หลวงพ่อได้เล่าความอัศจรรย์ของพระคำข้าว สมัยที่ท่าน ยังอยู่ กับหลวงพ่อปานไว้ดังนี้…
เมื่อสมัยหลวงพ่อ(ปาน)ยังทรงชีวิตอยู่ ท่านทำพระไว้องค์หนึ่ง เสกข้าว ๓ เดือนนี่ปรากฏว่า คำไหนอร่อยมากคำนั้นไม่กินเอาออกเก็บ สำหรับที่ฉันนี่ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า คำแรกยังไม่ต้องกินกับข้าวที่ดีที่สุดผสมก่อน เสกเก็บนะ ก็ทำจริง ๆ ๔ เดือน ไปไหนก็ทำ หมายความว่าบังเอิญจะมาที่นี่ ก่อนจะกินก็ต้องทำเก็บไว้เหมือนกัน เพราะคำว่า ๓ เดือน ๓ เดือน นี่จะขาด สักวันหนึ่งไม่ได้เลย แล้วก็ผลจริง ๆ ที่เคยปรากฎนะ ที่หลวงพ่อปาน ท่านทำ ใช่ไหมทำแล้วก็ทำเป็นผงผสมไว้แล้วก็สร้างเป็นพระพุทธรูปไว้บูชาที่พระสวดมนต์ เวลาหลวงพ่อท่านไม่อยู่คนไม่ค่อยเอากับข้าวไปให้กิน ฉันก็ไป บูชาพระองค์นั้น ขอหม้อใหญ่ ๆ มาเรื่อยนี่เป็นเรื่องจริง ๆ นะ มาอีกวันหนึ่ง เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก คือว่าหลวงพ่อ ไป เขาวงพระจันทร์ อีตาโปร่งแก เป็นเจ้าของโรงงานต่อเรือยนต์นะ แกก็นำแกงมา ๓ หม้อใหญ่ ใหญ่มาก ปรากฏพอมาถึงหน้าวัด ฉันบูชาตอนกลางคืนนี่นะ ฉันอดนะ กับข้าวไม่ค่อย มีกิน หลวงพ่อไม่อยู่เราก็อาศัยพระพุทธรูป ตาโปร่งมาถึงพอมาถึงจอด เรือ ปั๊บ ถามว่าหลวงพ่อ อยู่ไหม เขาบอกไม่อยู่ไปเขาวงพระจันทร์ แกถอยหลัง เรือออกเลยแหมหม้อต้มใหญ่ ๆ จะให้หลวงพ่อปานฉันองค์เดียว ใบจักรหัก มันไม่มีตอนะ ใบจักรหัก ฉันเลยหม่ำซะ ๓ หม้อเลย ใบจักรหักเรา ก็ไม่ช่วยต่อ เรื่องของแก พอหลวงพ่อปานกลับมา ตาโปร่งก็มา เล่าให้ฟัง บอกว่า ผมเอาอาหารมาถวาย นึกว่าหลวงพ่อยังอยู่ พอหลวงพ่อไม่อยู่ พระบอกว่า หลวงพ่อไม่อยู่ ผมเลยถอนหลังกลับเอาอาหารกลับบ้าน แต่ใบจักร ไม่รู้ฟันอะไรหัก หลวงพ่อปานบอกที่นั่นมันไม่มีตอ หน้าวัดไม่มีตอ แกก็ถามทำไมจึงหัก ท่านก็เลยบอกว่า แกคลายศัทธาใบจักรก็หัก ในเมื่อ มาถึงวัดแล้ว แกไปทำไมไอ้คนจะเป็นมหาเศรษฐี ถอยหลัง ไม่ต้องการ มหาเศรษฐีมีที่ไหน อ้อเทวดาช่วยนะ ช่วยใครรู้ไหม ช่วยฉัน โอ้โฮหม่ำซะ ไม่มี ดีใจกินแกงใบจักรหักเกร็ดความรู้ที่หลวงพ่อพูดถึงเกี่ยวกับพระคำข้าว
คัดลอกจากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๙
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยานอันดับแรกที่เราจะทำอะไรทั้งหมด ตื่นขึ้นมาใหม่ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน นึกถึงด้วยความเคารพ เพื่อหวังพระนิพพานก็ตาม นึกถึงเพื่อขอลาภสักการะก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้าเหมือนกัน อันดับแรกนะ อย่างมี พระคำข้าว- พระคำข้าวน่ะ หนักไปในทางลาภสักการะ อย่างอื่นก็มีหมด แต่ลาภน่ะหนักมาก และก็หยิบขึ้นมาพนมมือ สาธุ ว่า นะโม ตัสสะ ใช่ไหม ว่านะโมตัสสะ ด้วยความเคารพ และอธิฐานว่า วันนี้ต้องการ…(ลาภอย่างไร)
เป็นอันว่าเราอยากจะให้ค้าขายดี ทำราชการดี เมตตาปราณี อะไรก็ตามเถอะ ก็อย่าลืมว่าเวลานั้นเรานึกถึงพระพุทธเจ้า เราขอบารมีจากท่าน อย่างนี้ถือว่าเป็น ฌาน ในพุทธานุสติกรรมฐาน ถ้านึกถึงทุกวันน่ะ ถ้าถึงเวลาแล้วต้องทำอย่างนั้นทุกวัน ถ้าไม่ทำแล้วไม่สบายใจ นั่นเป็นฌานในพุทธานุสติ เป็นของง่าย ๆ เพราะวันนี้ท่านบอกให้พูดง่าย ๆ ใช้วิธีง่าย ๆ นะ ก็ว่าตามท่าน
…ทีนี้เมื่อเมื่อบรรดาท่านพุทธ บริษัท นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้ว อย่าลืมพระที่คอ นี่คือพระพุทธเจ้า อย่างพระคำข้าว เป็นพระพุทธชินราช อย่าลืมน่ะ คือก็เหมือนกับพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งนั่นแหละ เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าท่าน และเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าท่านก็มาทำ อันนี้ไม่ได้โฆษณานะ พูดให้ฟัง คือเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าทุกองค์เสด็จมาหมด องค์ปฐมเป็นประธาน อยู่ข้างบนใช่ไหม และ องค์ปัจจุบันคุมฉัน ท่านปล่อยกระแสจิตพุ่งสว่างเป็นลำพุ่งมาที่ใจฉัน แล้วบอกเธอนั่งนิ่งๆ อย่าคิดถึงเรื่องอะไรทั้งหมด ห้ามดูอะไรทั้งหมด ให้ทรงอารมณ์เฉยๆ ๑๐ นาที ก็ทำตามท่าน แล้วท่านก็สั่งว่า ให้ว่าอิติปิโสฯ หลัง ๑๐ นาทีแล้ว ท่านบอกดูได้พุ่งใจไปที่ของได้ พอพุ่งใจไปที่ของ ที่เห็นเป็นลำ ไม่เห็นของที่ปลุกเลย แสงพระพุทธเจ้ากลบหมด หนามาก พระคำข้าว เด่นทางมหาลาภ มีรูปพระพุทธชินราช (พระพุทธกัสสป) ด้านหน้าและด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ
หลวงพ่อเคยบอกว่า สมเด็จองค์ปฐม ได้ให้พระพุทธกัสสป-พระพุทธทีปังกร คุมเรื่องลาภ
คัดลอกจากหนังสือธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๑๔๕ หน้า ๖๓
…”สมเด็จองค์ปฐมก็มา และพระพุทธกัสสปก็มา สมเด็จพระพุทธทีปังกรก็มา…สมเด็จองค์ ปฐมท่านบอกว่า เรื่องลาภนะ สมเด็จพระพุทธกัสสป หนักที่สุด และรองลงมาคล้ายคลึงกันคือ สมเด็จพระพุทธทีปังกร ก็เลยถามท่านว่า “พระพุทธเจ้ามีบารมีเต็มเหมือนกัน ทำไมแตกต่างกันเรื่องลาภ” ท่านบอกว่า “สุดแล้วแต่การเริ่มต้น คู่อันไหนแรงกว่ากัน”…ท่านบอก “ให้พระพุทธกัสสปคุมเพราะลาภมาก” สมเด็จองค์ปฐมบอกว่า…”ลีลาต่างกันนิดหนึ่ง…
…สมเด็จพระพุทธทีปังกร : มีกำลังแข็งมากสู้แรงมาก
…พระพุทธกัสสป : ท่านนิ่มนวลในทางลาภมหาศาล
…แต่ลาภมหาศาลทั้งคู่ : ท่านก็เลยบอกว่าเป็นหน้าที่ของทั้ง ๒ องค์
***********************************************
ถอดเสียงจากเทปของหลวงพ่อ เพื่อเผยแผ่พระบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ…
“….รวยๆนะจ๊ะ รวยๆ ถวายของแล้วรับของพระแจกนะโยมนะ พระที่แจกเป็นพระคำข้าวจะมีลาภมาก อาราธนาไว้จะมีลาภมากนะจ๊ะพระสีขาวๆนะ ทำยาก ต้องเสกข้าวถึงสามเดือน แล้วก็มาเข้าพิธีพุทธภิเษกอย่างใหญ่อีกครั้งหนึ่ง พระประเภทนี้ทำได้ยากมาก นะญาติโยมที่ได้พระขาวๆไว้เก็บไว้นะโยมนะ ต่อไปราคาจะแพง มีไว้หลายๆหมื่นองค์ต่อไปเป็นมหาเศรษฐี จะขายเป็นแสนบาท รวยๆนะจ๊ะ ๆ พระคำข้าวทำแบบเดียวกับพระสมเด็จพุฒาจารย์โตนะโยมนะ รวยๆนะจ๊ะ นานๆไปจะมีราคาสูง รวยๆนะจ๊ะ …อย่าลืมนะญาติโยมนะ พระสีขาวๆเป็นพระคำข้าว ทำได้ยากมาก ทำแบบเดียวกับพระสมเด็จพุฒาจารย์โต ต่อไปจะมีราคาเป็นแสนนะ เก็บไว้มากๆนะ แก้จนได้ และตามปกติก็เป็นพระที่มหาลาภมาก ถ้าอาราธนาขอลาภทุกๆวันลาภจะเกิดมาก …อ้าว รวยๆนะลูกนะ อย่างคนขายก๋วยเตี๋ยวที่จังหวัดอุทัยธานี เขาเคยขายได้วันละ700 บาท พออาราธนาพระนี้ทุกวันขายได้วันละ2,500 บาท เกือบตาย ปวดตัว (หัวเราะ) คนเดียวเนอะ แกเอาก๋วยเตี๋ยวมาถวายเรื่อย เอ้ารวยๆนะจ๊ะ พระคำข้าวทำแบบเดียวกับพระสมเด็จพุฒาจารย์โตนะโยมนะ นานๆไปจะมีราคาสูง….”
*************************************************
เพื่อความคล่องตัวในด้านการเงิน ใช้ท่องกับคาถาเงินล้านครับ การเงินจะคล่องตัว
คาถาเงินล้าน
(ตั้ง นะโม ๓ จบ )
สัมปจิตฉามิ
นาสังสิโม
พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน )
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันต ุเม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
มิเตภาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา
วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ
( บูชา ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด) -
๗. ศึกษา - แบ่งปัน พระยอดนิยม สิ่งมงคล สิ่งมงคล-โชว์
พระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จองค์ปฐม (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
สวดมนต์อธิฐานขอต่อสมเด็จองค์ปฐม ว่าถ้าลูกมีวาสนาพอ ขอให้ลูกได้บูชาพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ด้วยเถิด จนมาวันนี้..ได้รับความเมตตาจากพระพุทธองค์ ให้ได้มาเพื่อสักการะบูชา เป็นสิริมหามงคลกับครอบครัว สาธุ _/|\_
ปล.พระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐมองค์นี้ เจ้าของเดิมเป็นศิษย์ก้นกุฎิของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ โชคดีมากๆที่ได้อัญเชิญมาเพื่อสักการะบูชา
********************************************
คำสอนสมเด็จองค์ปฐมบรมครู (สมเด็จพระพุทธสิขีทศพล ที่ 1)
หลวงพ่อได้เมตตา สรุปใจความสั้นๆ ตามที่ท่านเทศน์ไว้ดังนี้…..
“ท่านทั้งหลาย การหลบหลีก ไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรก เป็นต้น เป็นของไม่ยาก
1. ขอทุกท่าน จงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้(ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหมในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพานแล้ว ตั้งใจไปพระนิพพานโดยเฉพาะ เท่านี้ทุกท่านจะหนีอบายภูมิพ้น และไปพระนิพพานได้ในที่สุด”หมายเหตุ : เทศน์ที่ ”เทวสภา” วันที่ 8 สิงหาคม 2535 เวลา 8.00 น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน เมตตาเล่าให้ลูกหลานฟัง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2535 เวลา 21.00 น.
********************************************
-
พระบูชา หลวงปู่ปาน - หลวงพ่อ พระยอดนิยม
พระบูชา หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค – พระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง) รุ่นแรก ปี18
พระบูชารุ่นแรกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ จัดสร้างขึ้นเนื่องในงานครบรอบ ๑๐๐ปีเกิด ของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เมื่อปี2518 โดยจัดสร้างด้วยกัน 3ขนาด คือ หน้าตัก 9นิ้ว, 5นิ้ว และ 4นิ้ว ถือเป็นสุดยอดพระบูชารูปเหมือนหลวงพ่อที่หาชมได้ยาก
-
พระบูชา หลวงปู่ปาน - หลวงพ่อ พระยอดนิยม
พระบูชา หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค – หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปี34
รุ่นนี้ทางวัดจัดสร้างออกมา
ด้วยกัน 3ขนาด คือ 9นิ้ว 5นิ้ว และ 3นิ้ว สร้างเป็นเนื้อทองเหลืองขัด เงา โดยพระขนาด 9นิ้ว ทั้งหลวงปู่และหลวงพ่อ ได้ถอดพิมพ์มาจากรุ่นแรก ปี18 ส่วนขนาด 5นิ้วถอดพิมพ์มาจากองค์เนื้ อแก้วใสอีกที และขนาด 3นิ้วแกะพิมพ์ใหม่เพราะไม่เ คยมีการสร้างขนาดนี้มาก่อน ถือเป็นพระบูชาชุดแรกที่สร้ างออกมาครบทั้ง3ขนาด ทั้งองค์หลวงปู่และองค์หลวง พ่อ เข้าพิธีพุทธาภิเษก เมื่อ ปี2534 -
๑. พระบูชา พระบูชา พระพุทธ พระยอดนิยม
พระบูชา10นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม รุ่น1 หลังแดง (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อดำริให้สร้างเมื่อราวๆปี2535 เททองหล่อที่วัดโดยช่างประเสริฐ สร้างได้ประมาณ 500องค์ ลูกศิษย์จองกันหมด ช่างสร้างกันไม่ทัน หลวงพ่อจึงสั่งให้ไปหล่อที่โรงงานเพื่อเพิ่มความรวดเร็วขึ้น
รุ่นนี้ถือเป็นพระบูชาสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก มีทั้งขนาด10นิ้ว และ5นิ้ว พุทธลักษณะองค์พระจะหล่อหนามีน้ำหนักมาก ดูล่ำอิ่มเอม เม็ดพระศกจะใหญ่ และเมื่อนับพระศกจากตรงกลางหน้าผากขึ้นไปจรดเปลวพระเพลิงจะได้9เม็ด ซุ้มเรือนแก้วจะหนาและแนบชิดกับองค์พระ ใต้ฐานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนด้านหลังจะไม่ตอกหมายเลขกับกับ แผ่นป้ายที่ติดมีทั้งที่เขียนว่า “วัดท่าซุง” และ “วัดท่าซุ่ง” ถือเป็นจักรพรรดิ์แห่งพระบูชาอันดับหนึ่งของวัดท่าซุง
*************************************************
คำสอนสมเด็จองค์ปฐมบรมครู (สมเด็จพระพุทธสิขีทศพล ที่ 1)
หลวงพ่อได้เมตตา สรุปใจความสั้นๆ ตามที่ท่านเทศน์ไว้ดังนี้…..
“ท่านทั้งหลาย การหลบหลีก ไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรก เป็นต้น เป็นของไม่ยาก
1. ขอทุกท่าน จงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้(ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหมในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพานแล้ว ตั้งใจไปพระนิพพานโดยเฉพาะ เท่านี้ทุกท่านจะหนีอบายภูมิพ้น และไปพระนิพพานได้ในที่สุด”หมายเหตุ : เทศน์ที่ ”เทวสภา” วันที่ 8 สิงหาคม 2535 เวลา 8.00 น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน เมตตาเล่าให้ลูกหลานฟัง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2535 เวลา 21.00 น.
******************************************************
-
พระบูชา10นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 ตอกหมายเลข (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อดำริให้สร้างเมื่อปี2535 เพราะสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก (หลังแดง) ที่เททองหล่อที่วัด สร้างได้ประมาณ 500องค์ ช่างสร้างกันไม่ทันลูกศิษย์ที่จองกันจำนวนมาก หลวงพ่อจึงสั่งให้ไปหล่อที่โรงงานเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว โดยมี2โรงงานที่ร่วมกันหล่อ คือ โรงงานของช่างประเสริฐ กับ โรงงานของช่างเล็กบัง
รุ่นนี้สร้างประมาณสามพันกว่าองค์ มีทั้งขนาด10นิ้ว และ5นิ้ว พุทธลักษณะองค์พระจะหล่อบางกว่ารุ่นแรก ซุ้มเรือนแก้วก็จะบางมีช่องห่างจากองค์พระพอประมาณ ส่วนด้านหลังจะตอกหมายเลขกำกับที่ส่วนโค้งซุ้มเรือนแก้วกับที่ฐานองค์พระตรงกัน นับพระศกจากตรงกลางหน้าผากขึ้นไปจรดเปลวพระเพลิงจะได้11เม็ด
สำหรับองค์พระขนาดหน้าตัก10นิ้วจะมีตัวตอกหมายเลขอยู่ด้วยกัน2แบบ คือ เป็นตัวเลขตอกขนาดใหญ่และตัวเลขตอกขนาดเล็ก (มีรูปภาพให้ประกอบ)
สำหรับพระบูชาสมเด็จองค์ปฐมถือเป็นจักรพรรดิ์แห่งพระบูชา ใครมีครอบครองย่อมเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
สำหรับพระบูชา 5นิ้ว พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ที่ออกในนามวัดท่าซุง จัดสร้างขึ้นมาทั้งหมด เท่าที่ได้ศึกษามา จะมีอยู่ด้วยกัน 7รุ่น (10พิมพ์) จำแนกแต่ละรุ่นได้ตามนี้
1) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พิมพ์ก่อนรุ่นแรก มีอยู่ด้วยกัน 2พิมพ์ (รุ่นนี้ลูกศิษย์สร้างถวาย)
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พิมพ์ก่อนรุ่นแรก พิมพ์ที่ 1 องค์พระจะดูอวบอิ่มกว่าพิมพ์ที่2
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พิมพ์ก่อนรุ่นแรก พิมพ์ที่22) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่1 (ทางวัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก)
3) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่2
4) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่3 มีอยู่ด้วยกัน 2พิมพ์
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่3 พิมพ์ที่1 ฐานบัวเล็ก
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่3 พิมพ์ที่2 ฐานบัวใหญ่ (ฐานบนทาสีแดง)5) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่4
6) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่5 มีอยู่ด้วยกัน 2พิมพ์
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่5 พิมพ์ที่1
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่5 พิมพ์ที่2 ฐานสูง7) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่6
ขอแถมเพิ่มเติม รุ่นเลียนแบบ
–พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นแรก เลียนแบบ
*******************************
พระปัจเจกพระพุทธเจ้า (จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญญาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 4)
ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านต้องบำเพ็ญบารมีนานไหมครับ จึงจะตรัสรู้ได้….?
หลวงพ่อ : พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ท่านบำเพ็ญบารมี…เท่ากับพระอัครสาวก คือ 2 อสงไขยกับแสนกัป
ผู้ถาม : ท่านตรัสรู้เองใช่ไหมครับ…..?
หลวงพ่อ : ใช้ ลงคำว่า พุทธเจ้า ต้องตรัสรู้เอง คือไม่ต้องรับคำสอนจากคนอื่น
ผู้ถาม : มีเฉพาะตอนที่มีพระพุทธเจ้าใช่ไหมครับ….?
หลวงพ่อ : เจ๊ง…พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อวางจากพระพุทธเจ้า ไม่ใช้มีพร้อมพระพุทธเจ้า อย่างศาสนานี้สิ้นไป ในช่วงว่างก่อนจะถึงพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้มีพระปัจเจกพระพุทธเจ้า
สมัยพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเวลานั้นไม่มีสาวก ก็มีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าทั้งหมด เพราะปัจเจกพุทธเจ้าไม่ได้บรรลุเพียงองค์เดียวอย่างพระพุทธเจ้า ก็มีได้เป็นหมื่นเป็นแสน แต่พระพุทธเจ้าจะต้องมีองค์เดียว มีซ้อนไม่ได้
ผู้ถาม : แล้วทำไมพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเมื่อท่านตรัสรู้แล้วจึงไม่สอนเหมือนกับพระพุทธเจ้าครับ….?
หลวงพ่อ : เกิดทันรึ…รู้เหรอว่าท่านไม่สอน เคยพบหรือเปล่า….?
ผู้ถาม : ?….?….?
หลวงพ่อ : ท่านสอน จะว่าไม่สอนเลยนั้นไม่ใช่ แต่ว่าไม่สอนถึงอริยสัจ ถ้าไปศึกษากับท่าน ท่านก็สอนแค่อภิญญาโลกีย์ ส่วนที่ตัดเข้าถึงมรรคผลนั้นเป็นเรื่องของบุคคลนั้นเอง
ปัจเจก เขาแปลว่า รู้เฉพาะตน ความจริง คำว่า “เฉพาะ” ก็มีเฉพาะส่วนที่เป็นอริยสัจเท่านั้นเองนะผู้ถาม : ถ้าอย่างนั้นพระปัจเจกพระพุทธเจ้าก็รู้หมดทุกอย่างใช่ไหมครับ….?
หลวงพ่อ : รู้หมด….พระสัมมาสัมพุทธเจ้าซิ รู้ไม่หมด
ผู้ถาม : อ้าว…ทำไมยังงั้นล่ะครับ
หลวงพ่อ : ถ้าถามปัญหาพระพุทธเจ้า ท่านรู้ทุกอย่าง รู้ไม่หมดสักที พระปัจเจกพระพุทธเจ้าถามไปถามมาหมด นี่เขา เรียกว่า รู้หมด
ผู้ถาม : อ๋อ…แหมศัพท์ภาษาไทยนี่ไม่รู้เรื่อง อยู่ห่างวัดเป็นอย่างนี้
หลวงพ่อ : เป็นอันว่าพระปัจเจกพระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอนใคร เพราะไม่ใช้หน้าที่ของท่าน ฉะนั้นพระถ้าเข้าถึงจุดหมายปลายทาง ท่านจะรู้หน้าที่ของท่าน อย่างพระที่ยังไม่เป็นอรหันต์ เป็นหมอดู เป็นหมอรักษาโรค เราใช้ได้ทุกอย่าง ท่านจะทำให้ทุกอย่าง พอถึงอรหันต์ปั๊บ ท่านรู้เลยว่า ท่านเกิดมานี่เพื่อทำกิจอะไร…..อย่างอื่นที่ไม่ใช่ของท่าน ท่านจะไม่ทำ จะงดหมด ท่านทำเฉพาะกิจ พระปัจเจกพุทธเจ้าก็เหมือนกัน ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน
-
๑. พระบูชา พระบูชา พระพุทธ พระยอดนิยม
พระบูชา9นิ้ว พระมงคลบพิตร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระบูชาพระมงคลบพิตร สร้างเนื่องในงานฉลองสมณศักดิ์พระเดชพระคุณหลวงพ่อ รับตำแหน่ง “พระสุธรรมยานเถระ” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ องค์พระสร้างด้วยกะไหล่ทองทั้งองค์ มีทั้งขนาด 9นิ้ว และ 5นิ้ว (ขนาด 9นิ้ว องค์พระแยกเป็น 2ชิ้น ถอดองค์พระออกจากฐานได้) เป็นพระบูชาที่หายากมากๆอีกองค์หนึ่งของวัดท่าซุง
-
พระปิดตา พิมพ์ใหญ่ รวมพิมพ์รุ่นต่างๆ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระปิดตามหาลาภ “พิมพ์ใหญ่” จัดสร้างเมื่อ ปี2518 เนื่องในวาระครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงปู่ปานและงานเททองหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อปานเมื่อวันที่ ๖ – ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๘
เป็นพระเนื้อผงสีน้ำตาล-เทา ด้านหน้าเป็นรูปพระปิดตา ประทับนั่งอยู่บนรูปใบโพธิ์ ภายใต้กรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหลังจะมีอยู่ด้วยกัน 2พิมพ์ คือ
1) รูปหลวงปู่ปาน ซึ่งพิมพ์นี้จะแบ่งย่อยออกได้อีก คือ
1.1 แบบ ” พิมพ์ใหญ่ ไม่มีกริ่ง ” ==> พระจะไม่อุดกริ่ง ตัวหนังสือด้านหลังจะเป็นแบบจม
1.2 แบบ ” กริ่ง ” ==> พระจะอุดกริ่งข้างใน ตัวหนังสือด้านหลังจะเป็นแบบจม มีปั๊มคำว่า “กริ่ง” ที่ขอบด้านล่าง
1.3 แบบ ” พิเศษ ” ==> พระจะอุดกริ่งข้างใน ตัวหนังสือด้านหลังจะเป็นแบบจม มีปั๊มคำว่า “พิเศษ” ที่ขอบด้านล่าง2) รูปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งพิมพ์นี้จะแบ่งย่อยออกได้อีก คือ
2.1 แบบ ” รุ่น๑, พิเศษ ” ==> พระจะอุดกริ่งข้างใน ตัวหนังสือด้านหลังจะเป็นแบบนูน ตัวหนังสือจะคำชัดและไม่ได้ฝนข้อความอะไรออก ตรง “พิเศษ” จะปั๊มกดทับลงไป
2.2 แบบ ” รุ่น๑.๑๐๐๐ ” ==> พระจะอุดกริ่งข้างใน ตัวหนังสือด้านหลังจะเป็นแบบนูน และจะฝนตัวหนังสือด้านบนคำว่า “สวัสดิการ ต.ช.ด” ออกไม่ให้เห็น
2.3 แบบ ” รุ่น๑.๑๐,๐๐๐ ฝนตัวหนังสือ ” ==> พระจะไม่อุดกริ่ง ตัวหนังสือด้านหลังจะเป็นแบบจม และจะฝนตัวหนังสือด้านบนคำว่า “สวัสดิการ ต.ช.ด” ออกไม่ให้เห็น
2.4 แบบ ” รุ่น๑.๑๐,๐๐๐ แต้มน้ำหมาก ” ==> พระจะไม่อุดกริ่ง ตัวหนังสือด้านหลังจะเป็นแบบจม จะมีน้ำหมากแต้มตรง ต.ช.ดหมายเหตุ : จากข้อมูลที่ทราบมา แบบที่เป็นรูปหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั้นจะสร้างก่อนเพื่อหาเงินสมทบทุนให้กับตำรวจตระเวณชายแดน โดยสังเกตุจากด้านหลัง ถ้าเป็นพระชุดแรกๆจะเห็นคำว่า “สวัสดิการ ต.ช.ด.” ชัดเจน นั่นคือรุ่นแรกที่สร้างเพื่อหาเงินช่วยสงเคราะห์ตำรวจตระเวณชายแดน และภายหลังจากได้เงินครบตามจำนวนแล้ว แต่พระยังเหลืออยู่ ทางวัดจึงได้นำพระชุดนี้มาแต้มด้วยน้ำหมากสีแดงๆ ที่ด้านหลังปิดคำว่า “ต.ช.ด.” เอาไว้ หรือหากไม่แต้มด้วยน้ำหมากก็จะใช้วิธีฝนคำว่า “สวัสดิการ ต.ช.ด.” ออกไปจนเหลือแต่พื้นหลังเรียบๆ
-
พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
พระยอดธง – พระสังกัจจายน์ พระเจ้าตากสินมหาราช (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
เมื่อราวๆประมาณปี พ.ศ. 2518-2520 ณ.ที่บ้านสายลม ในครั้งนั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ลพ.ฤาษีลิงดำ) ท่านมาโปรดลูกหลานที่มีมากกว่า 200คน และในวันนั้นเอง หลวงพ่อท่านได้บอกว่าวันนี้สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชท่านจะเสด็จลงทรง โดยผ่านคุณ…(จำชื่อไม่ได้) หลังจากนั้นไม่นาน สมเด็จพระเจ้าตากสินท่านก็เสด็จลงทรงผ่านคุณ….จากนั้นพระองค์ท่านได้สนทนากับหลวงพ่อ เล่าเรื่องราวในอดีตเมื่อครั้งที่พระองค์ท่านได้กอบกู้เอกราชคืนจากพม่า ตลอดจนถึงความเป็นอยู่ของคนในสมัยนั้นว่าเป็นอย่างไร หลังจากที่พระองค์ได้ทรงสนทนากับพระเดชพระคุณหลวงพ่อและบรรดาศิษย์เสร็จแล้ว พระองค์ท่านได้แสดงปาฎิหารย์โดยการเสกพระ จากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ ว่าลักษณะการได้มาของพระยอดธงชุดนี้ ได้มาจาก…..
1) ได้จากการคายชานหมากที่พระองค์ทรงเคี้ยว คายออกจากพระโอษฐ์ พระล่วงลงกระโถนดังกริ๊งๆ คายครั้งนึงจะได้พระ 1-3องค์ พอได้พระมา พระองค์ก็ส่งไปให้หลวงพ่อ
2) ได้จากการจุดเทียนทำน้ำมนต์ ซึ่งหลังจากทำน้ำมนต์เสร็จ จะดับเทียนด้วยการจุ่มเทียนลงไปในน้ำ พระองค์ทรงบี้ปลายเทียนส่วนที่อ่อน ได้พระมาอีก โดยแต่ละครั้งที่ทำจะได้พระมากกว่า 1องค์ และพระองค์ก็ส่งพระไปให้หลวงพ่อ
3) ได้จากการคว้าในอากาศ เนื่องจากหาพระยอดธงส่งให้หลวงพ่อไม่ทัน เลยทำวิธีง่ายๆ คว้าจากอากาศ พอคว้าได้มาก็ส่งพระไปให้หลวงพ่อ
มีลูกศิษย์ท่านหนึ่งเกิดสงสัยไม่เชื่อ ว่าท่านทำได้จริง แต่พระองค์ท่านทรงรู้วาระจิต พระองค์ท่านจึงให้ลูกศิษย์คนหนึ่งทำหมากพลูมาถวาย จากนั้นพระองค์ท่านก็ค่อยๆ เล็มหมากพลูทีละน้อย ทีละน้อย เพื่อให้รู้ว่าไม่มีพระอยู่ในหมากพลู เสร็จแล้วก็คายพระออกจากปากให้ญาติโยมได้เห็นกันต่อหน้าต่อตากันทุกๆคน
จะเห็นได้ว่า พระยอดธงพระเจ้าตากจะผ่านมือหลวงพ่อทุกองค์ คนที่อยากได้พระต้องต่อแถวทำบุญกับหลวงพ่อ องค์ละ100บาท ได้รับพระจากมือหลวงพ่อคนละองค์
สำหรับพระยอดธงชุดนี้ที่พระองค์ท่านได้เสกมานั้น จะมีพระยอดธงเนื้อทองคำ (เป็นของกษัตรย์หรือแม่ทัพ) พระยอดธงเนื้อเงิน พระยอดธงเนื้อตะกั่ว พระพิมพ์สังกัจจายน์ สำหรับพระที่พระองค์ได้เสกมานั้นมีจำนวนไม่กี่องค์ หลายท่านที่อยู่ในที่นั้นไม่ได้พระ จึงได้กราบทูลถามพระองค์ พระองค์ทรงชี้ไปที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ และหลังจากนั้นต่อมาไม่นานมีโยมคนหนึ่งที่ไม่ได้รับพระที่พระเจ้าตากทรงเสก ได้มาหาหลวงพ่อและได้มอบทองคำจำนวนหนึ่ง เพื่อที่จะให้หลวงพ่อท่านได้สร้างพระยอดธง และพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้สร้างพระยอดธง รุ่น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2525 นั่นเอง
*สำหรับประวัตินั้นได้พยายามรวบรวมข้อมูลให้ ได้มากที่สุดจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. ประมาณ 2518-2520 จึงทำให้หาข้อมูลได้ยาก
ปล.พระพิมพ์นี้อาจมีวัดอื่นนำไปสร้าง การเข่าหาบูชาควรเน้นที่มาดีๆเป็นสำคัญด้วย ด้วยความปรารถนาดี
******************************************************
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
พระเดชพระคุณหลวงพ่อกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านจะมีความเกี่ยวเนื่องและเกี่ยวพันธ์กันมาก เนื่องจากในสมัยพระเจ้าตาก หลวงพ่อท่านเกิดเป็น…….ซึงท่านได้เป็นทหารเอกของพระเจ้าตากสินมหาราช และท่านได้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา และครั้งเมื่อที่เสียกรุง ครั้งที่ 2 แล้ว สมเด็จพระเจ้าตากสิน พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พร้อมด้วยทหารหาญทั้งหลายได้ตีฝ่ากองทัพพม่าออกมาจากกรุงศรีฯ มาทางทิศตะวันออก เพื่อรวบรวมไพร่พลและยุทธปัจจัยต่างๆ มาสู้รบกับกองทัพพม่าอีกครั้ง ส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ ท่านได้มาที่จังหวัดระยอง และได้มาผูกช้างทรง ไว้ที่ใต้ต้นสะตือ (ปัจจุบันยังอยู่ ต้นใหญ่มาก) ที่วัดลุ่มมหาชัยชุมพล หลังจากนั้นพระองค์ได้กรีฑาทัพไปยังเมืองจันทบูร(จันทบุรี) และได้มาพักตั้งค่ายที่สำนักปฎิบัติธรรม สาขาที่10 (บ้านป้ายุพา) ก่อน และได้ออกกรีฑาทัพต่อไปที่บ้านสาวจันทร์ และได้หยุดพักทัพที่บ้านคุณสมบูรณ์ (บ้านที่หลวงพ่อท่านได้เคยไปโปรดลูกศิษย์เสมอๆ และทุกๆปี) ก่อนจะเข้าเมืองจันทบุรี และภายหลังจากนั้นพระองค์ได้สืบทราบว่าเจ้าเมืองจันทบูร คิดไม่ซื่อ ทรยศ พระองค์จึงสั่งทุบหม้อข้าวหม้อแกง (พิธีตัดไม้ข่มนาง เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ) ณ.ที่บ้านคุณสมบูรณ์นี่เอง
หมายเหตุ
* สำหรับที่บ้านของคุณสมบูรณ์นี้ (บ้านสาวจันทร์) สมัยก่อนหลวงพ่อท่านมาโปรดลูกศิษย์ทุก ๆ ปี ในแถวบริเวณบ้านของคุณสมบูรณ์ได้ค้นพบ หม้อดิน จานชามโบราณมากมาย
*ปัจจุบันนี้ท่านเจ้าอาวาสวัดท่าซุง ท่านก็ได้สืบสานงานที่หลวงพ่อท่านได้ทำไว้ โดยท่านจะเดินทางมาโปรดลูกศิษย์ในเขตนี้ ทุกๆปีเช่นกัน
*ข้อมูลนี้บางส่วนไม่มีในประวัติศาสตร์นะครับ แต่เกิดจากการบอกเล่าของครูบาอาจารย์ ซึ่งในสายลูกหลานของหลวงพ่อจะรู้กันดี************************************************************
-
๒. พระเครื่อง พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
พระยอดธง รุ่น2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
หลวงพ่อท่านสร้างเมื่อปี พ.ศ.2525 ถือว่าเป็นพระยอดธง รุ่น2 มีพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีก้านชนวน มีอยู่ด้วยกัน 4เนื้อ คือ เนื้อเงิน, เนื้อโลหะชุบกะไหล่ทอง, ชุบกะไหล่เงิน และชุบกะไหล่นาก
-
๒. พระเครื่อง พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
พระยอดธง รุ่นแรก (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
สำหรับพระยอดธง รุ่น1 หลวงพ่อท่านสร้างเมื่อปี พ.ศ.2525 จัดสร้างประมาณ 500 องค์ เป็นรุ่นที่ผสมเนื้อทองคำแท้(แก่ทอง)มากๆ เนื่องจากลูกศิษย์หลายท่านที่ไม่ได้รับพระยอดธงพระเจ้าตากสิน ได้นำทองคำมาถวายแด่หลวงพ่อและกราบเรียนขอให้ท่านสร้างเป็นพระยอดธงเพื่อการสักการะบูชา
มีพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีก้านชนวนอยู่ใต้ฐาน สร้างจำลองจากพระยอดธงสมัยโบราณ จะมีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์นิ้วหัวแม่โป้งเต็ม – พิมพ์นิ้วหัวแม่โป้งกุด – พิมพ์ไม่มีนิ้วหัวแม่โป้ง ส่วนใหญ่องค์พระจะมีผิวเรียบเนียน ไม่ขรุขระ พระต้องลึกมีมิติ
รุ่นนี้เข้าพิธีพุทธาภิเษกในพระอุโบสถวัดท่าซุง พร้อมกับรูปหล่อหลวงพ่อ นั่งบัว รุ่นแรก
-
๒. พระเครื่อง พระยอดนิยม พระเนื้อผง พระเนื้อผง-โชว์
พระวิสุทธิเทพ พิมพ์หนา เกศา99เส้น (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
ทางวัดจัดสร้างพระวิสุทธิเทพ พิมพ์หนาขึ้นเมื่อ วันเสาร์ที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๒๙ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๙ ปีขาล จำนวนสร้างทั้งหมดประมาณ ๑๐,๐๖๐ องค์ พระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตาพุทธาภิเษกในงานพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ ๙
— ด้านหน้า เป็นรูปพระวิสุทธิเทพปางพระนิพพาน อักษร บนซ้ายเขียนว่า “พุท” ด้านขวาเขียนว่า “โธ” อักษรที่เหลือเป็นคำว่า “นะ มะ พะ ธะ” เป็นหัวใจของธาตุสี่ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) หรืออีกนัยนึงก็คือคำย่อของคำว่า “นมัสการพระพุทธเจ้า” เป็นคำที่ใช้ในการฝึกมโนมยิทธิ
— ด้านหลัง เป็นรูปยันต์เกราะเพชร
พระวิสุทธิเทพ คือ องค์แทนเทพที่บริสุทธิปราศจากกิเลสทั้งปวง อยู่บนพระนิพพานทั้งหมด…
สำหรับพระวิสุทธิเทพ พิมพ์หนา ส่วนผสมสำคัญ จะประกอบไปด้วย…
1. เกศาของหลวงพ่อ (ใส่ค่อนข้างเยอะ)
2. ผงดินสอพองเสกไตรมาส
3. จีวรของหลวงพ่อ
4. ยานัตถุ์ของหลวงพ่อ
5. ดอกบัวพระองค์ที่สิบ
6. ทรายแก้ว – ทรายทอง
7. ปูนขาว
8. น้ำมันตังอิ๊วพระที่วัดช่วยกันกดพิมพ์ สร้างกันเอง โดยใช้แบบพิมพ์ของพันเอกเลิศลักษณ์ ศรีสงคราม (ปู่เหม่) แม่พิมพ์เป็นแบบมือกดทีละองค์ ตั้งพิมพ์หนาเกือบ ๑ ซ.ม. เนื้อจะหนึกนุ่ม แช่น้ำไม่ละลาย
หมายเหตุ: พันเอกเลิศลักษณ์ ศรีสงคราม (ปู่เหม่) ได้จัดสร้างพระวิสุทธิเทพ พิมพ์บางขึ้นมาก่อน แล้วถวายแม่พิมพ์ให้กับทางวัดด้วย พระที่วัดจึงขออนุญาตหลวงพ่อจัดสร้างพิมพ์หนาขึ้นมาในภายหลัง
พุทธคณสำหรับพระรุ่นนี้จะเด่นทางด้านป้องกัน และโชคลาภเป็นหลัก ส่วนที่เหลือแล้วแต่ลูกศิษย์จะอาราธนาขอบารมีพระท่านสงเคราะห์
*****************************************************
สำหรับองค์นี้สุดพิเศษและพิเศษสุดๆ มีเกศาของพระเดชพระคุณหลวงพ่ออยู่ 99เส้น ถือว่าสุดยอดหายาก ด้านหลังเพิ่มพุทธคุณยิ่งขึ้นอีกโดยนำพระธาตุชานหมาก และส่วนนึงของ…..
1) ธงมหาพิชัยสงคราม
2) ธงเขียวท่านปู่พระอินทร์
3) ธงท้าวมหาชมภู
4) ธงแดง ปี08
5) ธงฟ้าพระแม่โพสพ
6) ธงเหลืองค้าขาย
7) ผ้ายันต์เกราะเพชร รุ่นแรก
8) ผ้ายันต์เกราะเพชร หลวงปู่ปานติดที่ด้านหลังพร้อมสีผึ้งทาปากของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และสีผึ้งทาปากของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค แถมฝังพลอยที่ผ่านการพุทธาภิเษกโดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อ สุดยอดรวมพุทธคุณไว้ในองค์เดียว
-
พระยอดนิยม วัดโขงขาว วัดโขงขาว-โชว์
พระสีวลี วัดโขงขาว (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระสีวลี วัดโขงขาว
จัดสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในงานทอดกฐิน วัดโขงขาว จ.เชียงใหม่ เมื่อปี ๒๕๓๕ โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง เป็นองค์ประธานในพิธี จัดสร้างด้วยกัน 3เนื้อ คือ
1) เนื้อทองคำ
2) เนื้อเงิน
3) เนื้อชุบกะไหล่ทองวัตถุมงคลต่างๆของวัดโขงขาวในยุคนั้น จะผ่านพิธีพุทธาภิเษกจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง แทบทั้งสิ้น หลวงพ่อเมตตาเป็นองค์อุปถัมถ์วัดโขงขาวมาโดยตลอด ซึ่งวัดโขงขาวนี้เป็นวัดที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงพ่อเมื่อครั้งกาลก่อน ถือเป็นสมบัติพ่อให้ที่ไม่ควรมองข้าม พุทธคุณเต็มเปี่ยม
-
พระหางหมาก พิมพ์พิเศษ สายรุ้ง (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระหางหมาก พิมพ์พิเศษ สายรุ้งนี้ เป็นพระตัวอย่างที่ทางโรงงานทำมาให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เลือกเป็นแบบ ว่าต้องการจะสร้างออกมาเป็นเนื้อแบบไหน แต่หลวงพ่อไม่ได้เลือกสร้างแบบนี้ (เลือกสร้างเป็นเนื้อหางหมาก องค์สีแดงแบบที่เราๆเห็นกันในปัจจุบัน) พระตัวอย่างนี้หลวงพ่อท่านก็ได้เก็บไว้ และนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วิหารแก้วร้อยเมตร เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2535 พร้อมสมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 ซึ่งเป็นพิธีที่ใหญ่มาก และได้แจกให้แก่คนที่รับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อในสมัยนั้น มีอยู่จำนวนไม่กี่องค์ ถือเป็นพระเนื้อพิเศษที่หายากมากๆ
-
๑. พระบูชา พระบูชา พิมพ์อื่นๆ พระยอดนิยม
พระเจ้าพรหมมหาราช ทรงช้างพลายประกายแก้ว (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
จัดสร้างโดยคุณจีระศักดิ์ พูนผล เพื่อหาทุนทรัพย์ในการจัดสร้างอนุเสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างพลายประกายแก้ว ประจำ ณ วัดท่าซุง โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 9 แสนบาท และหลวงพ่อได้เมตตาเพิ่มเติมด้วยการสั่งให้ปิดทองคำแท้ทั้งองค์อีกเป็นจำนวน 250,000 บาท
พระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตาเททองหล่อเมื่อ วันมาฆบูชา ที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ สร้างประมาณ 300องค์เศษ ขนาดฐาน 8 x 4 1/2นิ้ว ฐานสูง 1นิ้ว ความสูงทั้งสิ้น 12นิ้ว ที่ฐานด้านหน้ามีหมายเลขประจำองค์ ส่วนที่ฐานข้างหนึ่งเขียนว่า “เททองโดย หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร วันมาฆบูชาที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ ” และอีกข้างหนึ่งเขียนว่า “พระเจ้าพรหมมหาราช ช้างประกายแก้ว กู้ชาติไทยครั้งแรกสมัยโยนก”
จัดสร้างด้วยกัน 4เนื้อ คือ
1) เนื้อชุบกะไหล่ทอง
2) เนื้อชุบกะไหล่เงิน
3) เนื้อชุบกะไหล่นาก
4) เนื้อโลหะรมดำ / เนื้อโลหะไม่รมดำ (ผิวทองแดง)ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2527 หลวงพ่อจึงได้ทำพิธีบวงสรวงและเปิดอนุเสาวรีย์องค์พระเจ้าพรหมมหาราช เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2527 และในปัจจุบัน…ทางวัดจะจัดงานฉลองชัยชนะของพระเจ้าพรหมมหาราช ณ อนุเสาวรีย์ เป็นประจำทุกๆปีในวันก่อนหน้าวันเข้าพรรษาหนึ่งวัน โดยจะมีการบวงสรวงและเวียนเทียนรอบอนุเสาวรีย์ อีกทั้งมีการฟ้อนรำถวายองค์พระเจ้าพรหมมหาราช เพื่อเป็นการระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย
พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้เล่าถึงอานุภาพไว้ว่า
:- ช้างถนัดในทางปราบอมิตร พระเจ้าพรหมมหาปราบและมหาเสน่ห์ พระนางปทุมวดี (ยังไม่มีรูปปั้นที่วัด) ถนัดในทางลาภ
:- ถ้าจะบนช้างต้องเอาเลือดสดทาปาก แต่ท่านให้ใช้อาหาร ที่มีเลือดหมูต้มรวมอยู่ด้วยถวายพระแทน
:- ส่วนถ้าจะบนพระเจ้าพรหม ให้ใช้ผ้าเหลืองถวายพระ และถ้าบนพระนางปทุมวดี ให้ใช้ดอกไม้ 3สี บูชาพระถวายสังฆทาน****************************************************
สำหรับองค์บูชาพระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว ในสมัยหลวงพ่อนั้น ท่านตั้งราคาให้ร่วมทำบุญ ดังนี้
1. เนื้อโลหะชุบทอง ทำบุญองค์ละ 3,000 บาท
2. เนื้อโลหะชุบนาก ทำบุญองค์ละ 2,500 บาท
3. เนื้อโลหะชุบเงิน ทำบุญองค์ละ 2,500 บาท
4. เนื้อโลหะรมดำ ทำบุญองค์ละ 1,500 บาท*********************************************************
ประวัติ พระเจ้าพรหม มหาราชองค์แรกของไทย
หากมีการตั้งคำถามว่า กษัตริย์ที่นักประวัติศาสตร์ไทยยกย่องว่าเป็น “มหาราช” องค์แรกของไทย คือ พระองค์ใด หลายคนคงนึกถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บางคนอาจจะนึกถึงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช หรือบางคนอาจนึกไปได้ไกลถึงพระเจ้ามังรายมหาราช เพราะแต่ละพระองค์ล้วนแต่ครองราชย์ในช่วงหลายร้อยปีก่อนหน้าโน้น และมีพระนามเป็นที่คุ้นหูอย่างดี แต่ความเป็นจริง พระมหากษัตริย์ไทยเราที่ทรงเป็นมหาราชองค์แรก ก็คือ “พระเจ้าพรหมมหาราช” ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของชาติไทยให้รอดพ้นจากการรุกรานย่ำยีของพวกขอม เมื่อประมาณ ๑,๐๖๔ ปีล่วงมาแล้ว ในสมัยอาณาจักรโยนกหรืออำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของเวลา แต่ละตำราจะเขียนไว้ไม่เหมือนกัน ในที่นี้จะขอยึดข้อมูลจากหนังสือประวัติมหาดไทยส่วนภูมิภาค จังหวัดเชียงราย ซึ่งเอา “ตำนานสิงหนวัติฉบับสอบค้น” มาเป็นหลักอ้างอิง กล่าวคือย้อนไปเมื่อ พ.ศ.๑๔๖๐ ในรัชสมัยของ พระเจ้าพังคะ หรือ พระองค์ฬั่ง กษัตริย์องค์ที่ ๔๓ แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ ได้ถูกพวกขอมขับไล่จากเมืองโยนกพันธุ์ไปอยู่เมืองเวียงสี่ตวง ใกล้แม่น้ำสาย จนกระทั่ง ๔ ปีต่อมา หรือเมื่อ พ.ศ. ๑๔๖๔ มเหสีของพระองค์ไปประสูติโอรสคนที่ ๒ มีการขนานนามว่า “พระเจ้าพรหมกุมาร”
ในตำนานได้กล่าวถึงประวัติตอนปฐมวัยของ “พระเจ้าพรหมกุมาร” เต็มไปด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ เช่น เมื่อพระองค์มีพระชันษาได้๗ ปี ก็สามารถเล่าเรียนวิชาเพลงอาวุธและตำราพิชัยสงคราม จนจบครบถ้วนกระบวนความ หรือเมื่อพระองค์มีพระชันษาได้ ๑๓ ปี ได้ทรงสุบินว่า มีเทพยดามาบอกว่า จะมีช้าง ๓ ตัวล่องน้ำโขงมา และให้เจ้าพรหมกุมารไปล้างหน้าที่นั่น หากจับช้างตัวแรกได้จะมีอานุภาพปราบได้ทั้ง ๔ ทวีป ถ้าจับได้ตัวที่ ๒ จะมีอานุภาพได้ชมภูทวีป ถ้าจับได้ตัวที่ ๓ จะปราบแว่นแคว้นล้านนาได้
พอรุ่งเช้า เจ้าพรหมกุมารจึงได้พาบริวารประมาณ ๕๐ คน ไปยังท่าน้ำ ครั้งแรกเห็นงูเหลือมเลื่อมเป็นมันระยับลอยผ่านไปแล้ว ๑ ตัว พอตัวที่ ๒ ก็เป็นงูอีกเหมือนกัน พอตัวที่ ๓ เจ้าพรหมกุมารจึงทรงนึกถึงเรื่องในสุบินนั้นคงเป็นงูนี่เอง จึงพร้อมกับบริวารช่วยกันจับงู เมื่อเจ้าพรหมกุมารสามารถขึ้นขี่ งูก็กลายเป็นช้างไปทันที แต่ไม่ยอมขึ้นฝั่ง จนกระทั่งบริวารต้องเอาพานทองคำตีล่อ ช้างจึงยอมขึ้นจากน้ำ และมีการเรียกชื่อว่า “ช้างพานทองคำ”พระเจ้าพรหม ทรงมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีความสามารถและโปรดในการสงคราม เมื่อสามารถเตรียมกำลังไพร่พลได้อย่างเต็มที่แล้ว ก็ทูลพระบิดาให้เลิกการส่งส่วยแก่ขอม พวกขอมจึงยกทัพขึ้นไปปราบ พระเจ้าพรหมก็คุมกำลังออกต่อสู้และขับไล่พวกขอมจนแตกพ่าย สามารถยึดเมืองโยนกนาคพันธุ์สิงหนวัติคืนได้เมื่อ พ.ศ.๑๔๗๙ ในขณะที่พระองค์มีพระชันษาได้เพียง ๑๖ ปีเท่านั้น
สำหรับช้างพานทองคำ เมื่อเสร็จสงครามก็ได้หายไปทางดอยลูกหนึ่ง ซึ่งต่อมาเรียกว่า “ดอยช้างงู” แต่ชาวเขาเผ่าอีก้อออกเสียงไม่ชัดเจน เรียกว่า “ดอยสะโง้” และได้เรียกเพี้ยนมาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนพระเจ้าพรหม เมื่อได้อัญเชิญพระบิดามาครองเมืองโยนกนาคพันธุ์สิงหนวัติ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองโยนกชัยบุรีแล้ว พระองค์ก็นำทัพไปขับไล่ขอมจนถึงเมืองกำแพงเพชร จนหมดเชื้อชาติขอมในอาณาจักรโยนกแล้วจากนั้นพระองค์ก็ได้สร้างเมืองใหม่ขึ้นที่เมืองอุมงคลเสลาเก่า เมื่อ พ.ศ. ๑๔๘๐ เพื่อเป็นด่านหน้าคอยป้องกันพวกขอมยกทัพกลับมาตีอีก และเปลี่ยนชื่อเมืองใหม่เป็น “เมืองไชยปราการ” ซึ่งปัจจุบันเป็นอำเภอชัยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ นั่นเอง
พระองค์ได้ครองเมืองไชยปราการได้ ๕๙ ปี ก็เสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ.๑๕๔๐ ต่อมาได้มีการขนานนามพระองค์ว่า “พระเจ้าพรหมมหาราช” นับเป็นมหาราชองค์แรกของชาติไทย
-
๖. สมบัติพ่อให้ (นอกวัด) พระยอดนิยม อื่นๆ
พระแร่โคตรเศรษฐี “พิมพ์หนา” แม่ชีประทุม (พระที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ให้การรับรอง)
คุณแม่ชีประทุม โชติอนันต์ ได้สร้างพระโคตรเศรษฐีครั้งแรกจำนวน 285 องค์ (พระพิมพ์หนา บล็อคที่1) โดยคุณแม่ชีประทุมท่านน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 9 องค์ ส่วนที่เหลือนำออกให้ญาติโยมที่มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญองค์ละ 10,000 บาท เพื่อหาเงินสร้างพระมหาวิหารโคตรเศรษฐีสุรนารีวรนาถ เพื่อเป็นที่ประทับแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 28 พระองค์ และเมื่อทำเสร็จได้นำพระไปหาพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
หลวงพ่อหันมาทางข้าพเจ้าถามว่า “โยมชีมีอะไรจะคุยกับฉันหรือ”
ข้าพเจ้าตอบว่า “มีเจ้าค่ะหลวงพ่อ”
หลวงพ่อพูดขึ้นว่า “นั่นเอาอะไรมาด้วยล่ะ เอาผ้าคลุมไว้นั่นน่ะ”
เมื่อข้าพเจ้าได้ฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่อจึงตอบว่า “คือโยมเคยนำของที่ได้จากการปฏิบัติไปให้หลวงพ่อดูครั้งหนึ่งที่บ้านสายลม แล้วเจ้าค่ะ ครั้นต่อมาหลังจากนั้นโยมได้จัดทำเป็นรูปพระขึ้น”
หลวงพ่อว่า “เออ..ว่ามา”
ข้าพเจ้ากราบเรียนให้ท่านทราบว่า “พระของโยมทำขึ้นครั้งนี้ไม่เหมือนใคร ทำเป็นสองหน้า หน้าหนึ่งทำเป็นพระทุ่งเศรษฐี อีกหน้าหนึ่งทำเป็นพระสิวลีค่ะหลวงพ่อ”
หลวงพ่อเมื่อฟังข้าพเจ้าพูดจบลง หลวงพ่อได้เอ่ยขึ้นว่า “ไหนว่าไม่เหมือนของใคร ยกพานมาให้ฉันดูหน่อยซิ”
ข้าพเจ้ากราบเรียนให้ท่านทราบว่า “โยมทำครั้งนี้ 285องค์เจ้าค่ะหลวงพ่อ”
เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อรับพานพระแล้ว หลวงพ่อได้หยิบพระดู ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และได้กล่าวขึ้นว่า “เออ..เข้าใจ..เข้าใจ ข้างหนี่งเป็นทุ่งเศรษฐี ข้างหนึ่งพระสิวลี เข้าใจจริงๆ เข้าใจจริงๆโยมนี่”
“นี่นะโยม พระของโยมนี่ ถ้าผู้ใดได้ไปบูชา จะเป็นเศรษฐี โคตรเศรษฐี จนไม่เป็น ดีมากนะโยมนี่ เป็นคนมีปัญญา เอาล่ะนะ ฉันจะบอกให้ พระของโยมที่ทำมาทั้งหมดนี้ ถึงแม้จะไม่มีรูปพระเลย ของๆโยมก็ขลัง เขาสำเร็จอยู่ในตัวเขาแล้ว ให้ใครเอาไปทำอะไรๆ ให้ยิ่งกว่าทำ คำว่าเสื่อมไม่มี ของๆโยมนี้ใช้ได้ทุกอย่างเลยครบหมด เนื้อเกลี้ยงๆก็ขลัง”พระเดชพระคุณหลวงพ่อถามต่อขึ้นว่า “เมื่อขณะที่ทำพระใครคุมอยู่”
ข้าพเจ้ากราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อขึ้นว่า “โยมขออาราธนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมดทุกๆพระองค์ ครูบาอาจารย์ทั้งหมด เทวดาทั้งหมด คุมโยมอยู่ด้วยเจ้าค่ะหลวงพ่อ”
พระเดชพระคุณได้กล่าวขึ้น “เออ มันฉลาดอย่างนี้ …..”******************************************************************************
คุณแม่ชีประทุมได้นำแร่นี้ไปให้ทางกรมทรัพยากรธรณีวิทยาพิสูจน์ว่าเป็นโลหะชนิดใด ทางกรมทรัพฯได้รับของไว้พิสูจน์เป็นเวลา ๙ วัน
เมื่อครบกำหนดท่านแม่ประทุมก็ได้เดินทางไปรับของคืนและได้รับคำตอบว่าเป็น “ตะกั่ว” เมื่อทราบดังนั้นท่านก็ไม่ได้มีคำกล่าวใดๆ ในขณะที่รอท่านก็เดินดูตามตู้ตัวอย่างของแร่ธาตุต่างๆ ท่านจึงถามแก่เจ้าหน้าที่ว่าในตู้คล้ายๆของท่านเหมือนกันหลายตัวอย่าง น่าจะเป็นตะกั่วชนิดเดียวกันกับของท่านใช่หรือไม่
เจ้าหน้าที่ตอบว่าไม่ใช่เพราะองค์ประกอบทางโลหะและโมเลกุลไม่เหมือนกัน ทางเจ้าหน้าที่เองก็ตอบไม่ได้เพราะไม่มีข้อมูลในสารบบ แต่เพราะเป็นโลหะและมีสีแบบนี้จึงต้องแจ้งว่าเป็นตะกั่ว เพราะไม่ทราบว่าจะเรียกว่าอะไร
*************************************************************************
พระที่สร้างในครั้งนั้นมีทั้งหมด 3 แบบ คือ
1) พระเนื้อแร่โคตรเศรษฐี แบบหนา (เท่าๆเหรียญบาท) ทำบุญ 10,000 บาท– บล็อคที่1…จัดสร้างในสมัยคุณแม่ชีประทุม ด้วยเนื้อแร่โคตรเศรษฐีล้วนๆ พระชุดนี้ได้นำใส่พานไปให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านดู จัดสร้าง 285องค์ องค์พระจะมีสีเข้มตามสีเนื้อแร่
– บล็อคที่2…จัดสร้างในสมัยคุณแม่ชีประทุม เป็นเนื้อแร่ผสม โดยมีแร่โคตรเศรษฐีเป็นมวลสารหลัก จัดสร้างราว2พันกว่าองค์ องค์พระจะมีความมันวาวแตกต่างจากพระชุดแรก พิมพ์พระจะเป็นคนละบล็อคกับพระชุดแรกทั้งด้านหน้าที่เป็นพระทุ่งเศรษฐีและด้านหลังที่เป็นพระสีวลี
– บล็อคที่3…จัดสร้างหลังจากคุณแม่ชีประทุมท่านได้เสียชีวิตแล้ว โดยลูกศิษย์กองทุน ลป.ปาน โสนันโท ที่สุพรรณบุรีท่านหนึ่ง มีมวลสารแร่โคตรเศรษฐีเป็นชนวนผสม จัดสร้างราว3พันองค์ พิมพ์พระด้านหน้าเป็นบล็อคเดียวกับบล็อค2 ส่วนด้านหลังที่เป็นพระสีวลีจะแกะพิมพ์ออกมาเป็นอีกบล็อคนึง(ปล.พิมพ์บล็อคที่3 ถ้าจะให้มั่นใจจริงๆน่าจะไปบูชากันเองที่สำนักแม่ชีประทุม เพราะได้ยินมาว่ามีการสร้างเสริมขึ้นมาใหม่โดยใช้บล็อคและตัวตัดเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการยากที่จะแยกแยะได้)
2) พระเนื้อแร่โคตรเศรษฐี แบบบาง (ประมาณตะกรุด) ทำบุญ 2,000 บาท
3) พระเนื้อผงสีดำฝังแร่โคตรเศรษฐี ทำบุญ 500 บาท*** สำหรับพระคาถาที่ใช้บูชาพระแร่โคตรเศรษฐี คือ พระคาถานมัสการพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ครับ เหตุเพราะ คุณแม่ชีได้กราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่าให้ใช้พระคาถาใดปลุกเสกดี หลวงพ่อตอบว่า ตอนที่ได้แร่โคตรเศรษฐีมานี่ใช้คาถาบทไหนจึงได้มาก็ให้ใช้บทนั้นครับ
***********************************************************************
บทสวดนมัสการพระพุทธเจ้า 28 พระองค์นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( 3 จบ )
นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินัง
ตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโส
สะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโร
โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ
สุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโน
โสภีโต คุณะสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม
ปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถี
ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัปปะฏิปุคคะโล
สุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภ
อัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท
สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร
ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโม
สิขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโก
กะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโห
กัสสะโป สิริสัมปันโน โคตะโม สักยะปุงคะโว ฯ
เตสาหัง สิระสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตะเม วะจะสา มะนะสา เจวะ
วันทาเมเต ตะถาคะเต สะยะเน อาสะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา -
๒. พระเครื่อง พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
พระไฟลวกมือ พิมพ์ต่างๆ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
สร้างเมื่อปี 2508 สมัยที่หลวงพ่ออยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นพระรุ่นแรกที่หลวงพ่อสร้าง หลวงพ่อได้เล่าเรื่องการสร้างพระรุ่นนี้ไว้ใน
หนังสือเรื่องจริงอิงนิทาน เล่มที่ 1 ตอนที่ 21 เรื่อง กฎแห่งกรรม หน้าที่ 110 ว่า….เมื่อปี พ.ศ. 2510 ขอโทษ ปี พ.ศ. 2509 ตอนนี้อาตมาอยู่จังหวัดชัยนาทแล้ว มาอยู่ที่วัดโพธิ์หลังจังหวัดชัยนาทมาหลายปี มาก็พบของดี พระดีเยอะสายเหนือนี่ สายเหนือของภาคกลางมีพระดีเยอะ เยอะตรงไหนล่ะ แหม ห่มจีวรคร่ำตั้งหน้าตั้งตาเป็นอาจารย์วิปัสสนา แต่ว่าไอ้กิเลสสามนี่แกไม่ทิ้งหรอก แกใส่ปุ๋ยเสมอ คือ โลภะ โทสะ โมหะ ไอ้ที่ดีจริงๆ ก็พอจะมีนะ แต่คลำไม่ค่อยพบ ท่าทางภายนอกนี่ดีมาก แต่ว่าถ้าอยู่ใกล้ไม่ไหว ยังงี้ไม่ไหว ครูบาอาจารย์สอนมานี่ ไม่เคยพบแบบนี้ นี่พูดกันจริงๆ ไม่ใช่นินทา พระเห็นกันจริงๆ สายเหนือนี่ รู้สึกว่ามีการสะสมมาก บางทีแสดงลีลาต่างๆ คล้ายๆ ว่าจะเป็นพระอรหันต์ แต่ว่าเข้าใกล้จริงๆ แล้วพ่อเจ้าประคุณ หันจัดจริงๆ ปีนั้นวัดปากคลองมะขามเฒ่า ปี 2507 ปลายปีทางวัดคลองมะขามเฒ่านิมนต์ให้ไปอยู่ด้วย ไปช่วยกัน วัดนี้มีชื่อเสียงมากก็อยากจะไปดู ก็บอกแล้วนี่ มาสายเหนือนี่มาดูพระ ไม่ใช่มาอาศัยใคร อยากจะรู้เนื้อแท้ของพระ พระสงฆ์นะ ไม่ใช่พระพุทธ พระพุทธไม่ต้อง ดูเนื้อองค์ไหนก็ใช้ได้หมด ปลุกเสกหรือไม่ปลุกเสกก็ใช้ได้ ถ้าเวลาไหว้เรานึกถึงพระพุทธเจ้าแล้วไม่ผิดสักองค์ ไหว้แล้วได้บุญเหมือนกันหมด เสกก็ได้บุญ ไม่เสกก็ได้บุญ นี่เราได้เป็นบุญนะ ถ้าหากจะใช้ให้พระหาหวย ใช้พระพุทธรูปค้าขาย ใช้พระพุทธรูปช่วยเลื่อนยศ นั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง นอกขอบเขตของพระพุทธเจ้า ไม่เกี่ยว ทีนี้ว่ากันถึงพระสงฆ์ ปีนั้น อาตมาย้ายมาอยู่ปากคลองมะขามเฒ่า ก็อย่างว่านั้นแหละ มาอยู่เพื่อนดูพระ ถ้าหากว่าดีจริงๆ ก็จะช่วยส่งเสริมในการก่อสร้าง แล้วก็เจริญศรัทธา ทีนี้ ท่านดีหรือไม่ดีประการใดไม่พิจารณาไม่พูดให้ฟังแต่เรื่องที่มันเกิด เรื่องที่มันเกิดนี่ ดีกว่าคนอื่น เกิดกับอาตมาเองเพราะเป็นคนมีบุญอย่างนี้ เราเรียกว่าบุญใหญ่ บุญบาป เอาฟางผูกหางควาย เอาไฟจุด เมื่อสมัยเป็นเด็กๆ ขณะนั้นเริ่มทำพระเป็นครั้งแรก พระเครื่องนี้ละ คิดว่าตัวอีกไม่ช้าก็จะตาย รู้เวลาเพราะเขาบอกเวลาไว้ เวลานี้เขาต่อไปเสียอีกหน่อยแล้วชักจะตายไม่ลง แบบหลวงพ่อปาน ขยับท่าจะตายทีไรก็ต่อให้ทีละนิดๆ เลยไม่รู้จะตายเมื่อไหร่กันแน่ เมื่อรู้เวลาว่าจะตาย ว่าปีนั้นปีนี้จะตาย ไอ้ตอนตายลงไปนี่ น่ากลัวจะไม่มีเงินทำศพ เพราะสตางค์ติดกระเป๋ามันไม่ค่อยมี นี่บางวันนะ จะซื้อน้ำแข็งยังไมมีเงินเลย วันหนึ่งมีเงิน 10 บาท ยายขอทานมาขอ ดันขอ 10 บาท แหมไอ้เราจะบอกไม่มีก็ไม่ได้ มันมีอยู่ 10 บาทพอดี ก็เลยให้ไปหมด นี่เป็นยังงี้ บางคราวก็มีถึงสามสี่ร้อยบาทก็มี แต่บางคราวนะ ไม่ใช่ทุกวัน แต่มันก็อยู่ในกระเป๋าไม่นานมันก็ไปเที่ยวเสียอีก ช่างมัน พระอย่างเรานี่ใครขืนเอาแบบฉบับ จัญไรกินหัวเท่านั้นแหละเวลาจะตายหนี้ก็ท่วมหัวมาก
วันนั้นก็ดำริจัดทำพระขึ้นมีพระช่วย เป็นพระเนื้อตะกั่วสีขาว ไม่ได้พิจารณามันหรอกว่าเนื้อมันจะเหมือนชาวบ้านเขาหรือไม่ ใครเขาจะนิยมหรือไม่นิยมก็ช่าง พระสีขาวนี่ทำอยู่ 3 เดือน ปลุกอยู่ 3 เดือน เวลาปลุก เลิกทีไรหมาหอนกลับทุกที เวลาจะเริ่มปลุกเสร็จหมาหอนออก อันนี้ไม่พูดหรอก จะเป็นอานุภาพยังไงก็ช่าง ไม่อยากจะแจกใครเพราะว่าพระไม่สวย เก็บไว้เวลาตาย ถ้าเวลาตายเขาทำศพไม่มีเงินทำศพจะได้เอาพระแจก ใครทำบุญบาท สองบาทก็จะได้ซื้อฟืนเผาศพให้ไหม้ไป พระนี่มีไม่มาก ขณะที่ทำเมื่อทำพระตะกั่วไม่พอก็จะทำพระเงิน ไปซื้อเครื่องเป่าเงินมา แล้วมันก็ใช้เป็นซินเป็นยังงั้น พอตั้งท่าเท่านั้นแหละ ไผไหมมือ ความจริงเมื่อตอนกลางคืนที่จะถึง หลวงพ่อปานมาบอก บอกว่าเวลาพรุ่งนี้ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงฤกษ์ของเธอดีมาก พระที่เคยมาช่วยทำพระ เคยซื้ออาหารเลี้ยง ซื้ออะไรเลี้ยงไม่ต้อง อาหารการบริโภคมาก จะมีคนนำมาให้ แต่บ่าย ตั้งแต่ 1 โมงไปแล้วอย่าทำอะไรเกี่ยวกับการเสี่ยง จะมีเคราะห์ร้ายมาก ลืมไป ตอนเช้า มีคนเขาเอาอาหารการบริโภคมาเลี้ยงพระกันอิ่มหนำสำราญ ตอนบ่าย ลืมไป ตั้งท่าเป่าเงิน จะหลอมเงินทำพระ ไฟมันก็ติดมือขึ้นมาน่ะซี สลัดไปทีแรกมันก็ไม่ดับ สลัดอีกทีดับปั๊บ ปรากฏว่าหนังมือทั้งมือ มือขวาถลกลงไปหมดเลย ไปห้อยอยู่ปลายนิ้วหมด ทั้งข้างหน้าข้างหลัง ไอ้ไฟนี่มันร้ายจริงๆ เร็วมาก แต่ไม่รู้สึกเจ็บ ขณะที่ไฟดับก็เห็นความแก่ตัวนั้น ในสมัยเมื่อเป็นเด็กๆ อายุสัก 7 – 8 ขวบ เอาฟางผูกหางมันแล้วก็เอาไฟจุด มันก็วิ่งโชนเพราะความร้อน เห็นเจ้าควายตัวนั้นวิ่งผ่านหน้า ก็เลยทราบว่านี่กฎของกรรมเก่ามันสนองเข้าแล้วในชาตินี้ เป็นความดี สมน้ำหน้าที่ทำกับควาย เรื่องนี้ก็ ขอผ่านไปแค่นี้แหละ……
********************************************************************************************
พระไฟลวกมือรุ่นนี้ หลวงพ่อปลุกเสกตลอดไตรมาส 3เดือนเต็ม เมื่อปีพ.ศ.2508 สมัยที่หลวงพ่ออยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ถือเป็นพระรุ่นแรกที่หลวงพ่อสร้าง ท่านทำพิเศษด้วยมือท่านเองทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป่าไฟหล่อพิมพ์ ท่านตั้งใจทำมากๆ หลังปลุกเสกท่านบอกว่าหมาหอนทุกคืน ปกติท่านปลุกเสกพระเพียงครั้งเดียวก็เต็มแล้ว ถือว่าเป็นพระรุ่นที่น่าบูชามาก พุทธคุณรุ่นนี้ถือว่าเด่นมากๆทั้งเรื่องลาภ การเงินการทองดีมากๆ คล่องตัวสมปรารถนาดั่งใจต้องการทุกอย่าง ประสบการณ์กับตนเองและลูกศิษย์หลายๆท่าน
-
๔. เครื่องราง พระยอดนิยม ศาสตราวุธ - มีดหมอ
มีดดาบฟ้าฟื้น (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
ถือเป็นสุดยอดแห่งศาสตราวุธที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สร้างไว้ จัดสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกในงานตัดลูกนิมิต วัดท่าซุง เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2520 จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ขนาด คือ
1) ขนาดเล็ก ความยาว 8นิ้ว เป็นมีดด้ามงา ฝักงา
2) ขนาดใหญ่ ความยาว 9.5นิ้ว เป็นมีดด้ามงา ฝักไม้บนใบมีดด้านหนึ่งจะตอก “ภปร สก” เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ที่เสด็จมาเป็นประธานในพิธีงานตัดลูกนิมิต ณ วัดท่าซุง
ส่วนอีกด้านนึง ตอกอักขระยันต์เป็นคาถา ซึ่งแต่ล่ะเล่มอาจจะตอกไม่เหมือนกัน เล่มนี้ตอกคาถาแบบเดียวกับที่ลงไว้ในหนังสือสมบัติพ่อให้ ว่า…
” ท้าวเวสสุวัณโณ จะ มหาราชา
สัพเพยักขาปะลายันติ ”เป็นมีดดาบที่หายากและเป็นที่หวงแหนของบรรดาลูกศิษย์ จัดสร้างจำนวนไม่มากนัก
*************************************************************************************************************
เรื่องจริงอิงนิทาน
ลูกหลานหลวงพ่อจะเชื่อกันว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อ คือ …………….. หนึ่งในตัวละครวรรณคดีชื่อดัง ผู้เป็นเจ้าของ ของวิเศษ3อย่าง คือ กุมารทอง – ม้าสีหมอก – และมีดดาบฟ้าฟื้น มาชาตินี้หลวงพ่อจึงได้สร้างมีดดาบฟ้าฟื้นอีกครั้ง เพื่อสงเคราะห์มอบไว้ให้กับลูกหลานได้ใช้ได้บูชาต่อไป
-
๔. เครื่องราง ผ้ายันต์ ผ้ายันต์-โชว์ พระยอดนิยม
รวมผ้ายันต์-ธงยันต์ แบบต่างๆ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
รวบรวมผ้ายันต์-ธงยันต์ แบบต่างๆ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เ
มตตาสร้างเอาไว้ให้ลูกหลาน ประกอบไปด้วย 1) ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงครามเย
็บติดกับธงชาติ (เดิมๆจากวัด ขนาดเล็กสุด)
2) ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม ผืนใหญ่-ผืนเล็ก
3) ผ้ายันต์ยันต์เกราะเพชร รุ่นแรก
4) ผ้ายันต์ยันต์เกราะเพชรหลวงปู่ปาน รุ่น1 (สีดำ) – รุ่น2 (สีแดง)
5) ผ้ายันต์ธงแดง ปี2508 (สร้างสมัยหลวงพ่ออยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า)
6) ผ้ายันต์ธงเขียวท่านปู่พระอินทร์ 2แบบ
7) ผ้ายันต์ธงท้าวมหาชมภู 2แบบ
8) ผ้ายันต์ธงฟ้าพระแม่โพสพ
9) ผ้ายันต์ม่วง กรมหลวงชุมพร
10) ผ้ายันต์ธงเหลืองค้าขาย (ทั้ง2แบบ)
11) ผ้ายันต์ท่านท้าวมหาพรหม (ยันต์กันเพลี้ย) -
รวมพระชุดเนื้อเงิน รุ่นต่างๆของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
รวมชุดเนื้อเงิน รุ่นต่างๆที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สร้างเอาไว้
1) สมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 เนื้อเงิน
2) สมเด็จองค์ปฐม ยันกลับ เนื้อเงิน
3) รูปหล่อหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา พิมพ์ใหญ่ เนื้อเงิน
4) รูปหล่อหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา พิมพ์เล็ก เนื้อเงิน
5) แผ่นยันต์พระพุทธ เนื้อเงิน
6) เหรียญท้าวเวสสุวัณ เนื้อเงิน
7) เหรียญของขวัญวันเกิด เนื้อเงิน
8) เหรียญใบโพธิ์ เนื้อเงิน
9) รูปหล่อหลวงพ่อ รุ่นพระราชพรหมยาน เนื้อเงิน
10) เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ เนื้อเงิน
11) เหรียญมหาลาภ ปี30 เนื้อเงิน
12) แผ่นยันต์ตะกรุดเมฯ เนื้อเงิน
13) แผ่นยันต์ทำน้ำมนต์ใหญ่ เนื้อเงิน -
๒. พระเครื่อง พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
รวมพิมพ์รูปหล่อหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
รวมพิมพ์รูปหล่อหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค รุ่นต่างๆ
1) รูปหล่อโบราณหลวงปู่ปาน รุ่นแรก รมดำ
คุณดำรง นุตาลัยและครอบครัว สร้างถวายเป็นที่ระลึกในงานครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เมื่อปี 2518 รูปแบบเป็นหล่อโบราณ สร้างด้วยเนื้อโลหะรมดำ บรรจุกริ่งใต้ฐาน หลวงพ่อพุทธาภิเษกไตรมาสที่อาคารเสริมศรี ทุกวันในระหว่างเข้าพรรษา 3เดือน
- ในหนังสือสมบัติพ่อให้ลงจำนวนการสร้างไว้ 99องค์ แต่ผมเคยมีโอกาสได้คุยกับเซียนพระสายหลวงพ่อ เค้าบอกว่าไม่น่าจะใช่ หนังสือน่าจะพิมพ์ผิด เพราะโดยเฉพาะตัวเค้าเอง เค้าขายรุ่นนี้ไปเกือบ 50องค์แล้ว ถ้ามี 99องค์จริงคงจะหายากกว่านี้มาก
2) รูปหล่อโบราณหลวงปู่ปาน รุ่น2 ชุบทอง
หลวงพ่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 เนื่องในงานครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เป็นแบบหล่อโบราณชุบทอง ใต้ฐานบรรจุกริ่งและจะมีตัวหนังสือที่ฐานเขียนว่า “หลวงพ่อปาน” โดยรุ่นนี้ได้ถอดพิมพ์มาจากหล่อโบราณหลวงปู่รุ่นแรก ผิวรมดำ โดยองค์ชุบทองนี้จะมีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย
3) รูปหล่อหลวงปู่ปาน รุ่น2 ฝากริ่งดอกจันทน์
รูปหล่อหลวงปู่ปาน รุ่น2 หลวงพ่อพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2518 สำหรับเป็นที่ระลึกในงานทำบุญครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เป็นเนื้อโลหะรมดำ อุดฝากริ่งรูปดอกจันทน์
4) รูปหล่อหลวงปู่ปาน รุ่น2 ฝากริ่งยันต์มะอะอุ
รุ่นนี้ถือว่าเป็นรูปหล่อหลวงปู่ปาน รุ่น2 หลวงพ่อพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2518 สำหรับเป็นที่ระลึกในงานทำบุญครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เป็นเนื้อโลหะชุบทอง อุดด้วยฝากริ่งยันต์มะอะอุ (สร้างพร้อมกับรูปหล่อหลวงปู่ปาน ผิวรมดำ อุดฝากริ่งรูปดอกจันทน์)
-
๒. พระเครื่อง พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
รวมพิมพ์รูปหล่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
รวมพิมพ์รูปหล่อของหลวงพ่อ รุ่นต่างๆ
- รูปหล่อหลวงพ่อ รุ่นแรก (เราจะเรียกกันสั้นๆว่า “รูปหล่อหลวงพ่อนั่งบัว รุ่นแรก”) หลวงพ่อพุทธาภิเษกในพระอุโบสถวัดท่าซุง เมื่อปี พ.ศ.2525 พร้อมพระยอดธง รุ่น1 หล่อด้วยเนื้อทองผสม จัดสร้างประมาณ 500องค์ ที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า “ฤาษีลิงดำ” พระสร้างได้สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ท่านั่งไขว่ห้างของหลวงพ่อ ที่เรียกกันว่า “นั่งเศรษฐี” พระรุ่นนี้ส่วนมากจะมีพระธาตุเสด็จตามซอกบัวและตามองค์หลวงพ่อ พระหลวงพ่อรุ่นนี้จะมีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์ทั่วไป พิมพ์หน้าแหงน พิมพ์ต้อ
- รูปหล่อหลวงพ่อ รุ่น2 ต่อจากรูปหล่อนั่งบัวรุ่นแรก (เราจะเรียกกันสั้นๆว่า “รูปหล่อหลวงพ่อนั่งสมาธิ รุ่น2”) สร้างเมื่อปี พ.ศ.2528 ประมาณ 1000องค์ ที่ฐานด้านหน้ามีข้อความว่า “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” ส่วนที่ด้านหลังเขียนว่า “วัดท่าซุง” พระรุ่นนี้ส่วนมากจะมีพระธาตุเสด็จตามซอกองค์พระ ถือว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์อีกประการหนึ่งที่พระท่านสงเคราะห์ลูกหลานหลวงพ่อ.
- รูปหล่อหลวงพ่อ รุ่น3 (เราจะเรียกกันสั้นๆว่า “รูปหล่อพระสุธรรมฯ รุ่น3”) สร้างเมื่อปี พ.ศ.2532 ประมาณ 3,000องค์ ที่ฐานด้านหน้ามีข้อความว่า “พระสุธรรมยานเถระ” ส่วนที่ด้านหลังไม่ได้เขียนอะไร เป็นเนื้อโลหะรมดำ
- รูปหล่อหลวงพ่อ รุ่นที่4 (เราจะเรียกกันสั้นๆว่า “รูปหล่อพระราชฯ รุ่น4 เนื้อเงิน”) จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2533 สมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อรับสมณศักดิ์ “พระราชพรหมยาน” โดยรุ่นนี้ได้ถอดแบบถอดพิมพ์มาจากรุ่น3 (รุ่นพระสุธรรมฯ) อีกที ขนาดองค์พระจะใกล้เคียงพอๆกัน..ต่างกันที่ตัวหนังสือเขียนที่ฐานด้านหน้ามีข้อความว่า “พระราชพรหมยาน” ส่วนที่ด้านหลังเขียนว่า “วีระ ถาวโร” เป็นรูปหลวงพ่อนั่งพับเพียบ ผิวรมดำมันปู เนื้อเงินนี้จัดสร้างประมาณ 500องค์
- รูปหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อ รุ่น4 (เราจะเรียกกันสั้นๆว่า “รูปหล่อพระราชฯ รุ่น4”) สร้างเมื่อปี พ.ศ.2533 สมัยหลวงพ่อรับสมณศักดิ์พระราชพรหมยานเถระ รุ่นนี้ถอดแบบถอดพิมพ์มาจากรุ่น3 (รุ่นพระสุธรรมฯ) องค์พระขนาดพอๆกัน..ต่างกันที่ตัวหนังสือเขียนที่ฐานด้านหน้ามีข้อความว่า “พระราชพรหมยาน” ส่วนที่ด้านหลังเขียนว่า “วีระ ถาวโร” เป็นรูปหลวงพ่อนั่งพับเพียบ มีทั้งผิวรมดำและผิวรมดำมันปูพุทธคุณรูปหล่อหลวงพ่อทุกๆรุ่นดีเหมือนๆกัน หนักบ้างเบาบ้างตามแต่ละคนไป..แต่ก็แคล้วคลาดปลอดภัยทั้งหมด พุทธคุณเต็มเปี่ยมทุกๆด้าน
-
๓. ล็อคเก็ต - รูปถ่าย พระยอดนิยม รูปถ่ายห้อยคอ
รวมรูปถ่ายขาวดำ พระพุทธ-หลวงปู่ศุข-หลวงปู่ปาน-หลวงพ่อเขียน และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
– รูปถ่ายขาวดำ ปี08
ด้านหน้าจะเป็นรูปขาวดำ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ส่วนด้านหลังเป็นยันต์นะโมและมีรอยปั๊มลายหัวแม่มือของหลวงพ่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านสร้างสมัยอยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อปี2508– รูปถ่ายขาวดำ ปี14
รูปถ่ายขาวดำนี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านตัดรูปด้วยตัวท่านเอง และได้ใส่ผ้ายันต์ธงเขียวท่านปู่พระอินทร์ และผ้ายันต์ธงท้าวมหาชมภูขั้นไว้ระหว่างกลางรูป สร้างออกมาเมื่อปี2514 สร้างออกมาด้วยกันหลายแบบ เช่น::: รูปพระประทานในพระอุโบสถ – รูปหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค (รูปขนาดใหญ่ ไม่มีผ้ายันต์ธงเขียวและธงท้าวมหาชมภู)
::: รูปหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค – รูปหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
::: รูปหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค – รูปหลวงพ่อเขียน วัดถ้ำขุนเณร
::: รูปหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า – รูปหลวงพ่อเขียน วัดถ้ำขุนเณร
::: รูปหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค – รูปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง -
พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
รูปหล่อหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา ชุดทองคำ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
รูปหล่อหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา รุ่นนี้ จัดสร้างโดยกลุ่มลูกศิษย์หลวงพ่อเมื่อปี ๒๕๓๐ ในงานฉลองพระยืน30ศอก (องค์ใหญ่ที่วัด) โดยคณะลูกศิษย์ได้นำพระที่จัดสร้างมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกโดยไม่ได้บอกกล่าวให้หลวงพ่อท่านทราบก่อน ในวันพิธีพุทธาภิเษก..ขณะที่หลวงพ่อกำลังพรมน้ำมนต์พรมน้ำอบ ท่านเดินมาหยุดที่หน้ากล่องๆหนึ่งที่วางเข้าร่วมพิธี แล้วท่านก็หันมาพูดว่า “กล่องนี้กล่องอะไร?” (แบบว่าสงสัย???) พอหลังพิธีพุทธาภิเษกในวันนั้น พอถึงวันเสาร์-อาทิตย์ต้นเดือน หลวงพ่อท่านมารับสังฆทานที่บ้านสายลม คณะลูกศิษย์ที่สร้างพระชุดนี้ได้ถือกล่องพระกล่องที่เข้าพิธีในวันนั้น นำพระมาถวายให้กับหลวงพ่อ พอหลวงพ่อท่านเห็น ท่านก็จำได้และได้กล่าวว่า “แอบเอาพระมาเข้าพิธีโดยไม่บอกไม่กล่าว แบบนี้เรียกว่าโขมยนะ” ทางคณะลูกศิษย์ก็ยอมรับและกราบขอขมาหลวงพ่อ พร้อมทั้งได้ถวายพระในกล่องให้กับหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านก็อนุญาตและรับประเคนพระในกล่องชุดนี้ พร้อมทั้งได้เปิดให้ญาติโยมที่อยากมีไว้บูชาได้ร่วมบุญบูชากันจนหมด ไม่มีเหลือกลับวัด
ถือว่าพระทั้งหมดได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกโดยสมบูรณ์แบบมีผล 100% ในวงการจะเรียกรุ่นนี้ว่า “รุ่นโขมย” สร้างออกมามีอยู่ด้วยกัน 3เนื้อ คือ เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนาค และทางคณะยังได้จัดสร้าง “หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา พิมพ์ใหญ่” ออกมาเฉพาะเนื้อเงินด้วยอีกหนึ่งพิมพ์
ปล.พระพิมพ์นี้จะเหมือนกับพิมพ์ของหลวงพ่อแก่นจันทร์ วัดช่องลม จ.ราชบุรี รุ่นเสาร์๕ ปี36 ฉนั้นก่อนจะบูชาจากใคร ก็ควรดูที่มาที่ไปด้วย
หลวงพ่อท่านบอกว่า พระองค์นี้มีลาภมาก และได้ตั้งชื่อว่า “หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา” ใครบูชาพร้อมสวดพระคาถาเงินล้าน จะมีความคล่องตัวทางการเงิน
พระคาถาเงินล้าน
(ตั้งนะโมฯ 3 จบ )สัมปจิตฉามิ (คาถาสนองกลับ)
นาสังสิโม (คาถาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธกัสสป)
พรหมา จะ มหาเทวา สัมเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
พรหมา จะมหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม (คาถาเงินแสน)
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
สัมปติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้เร็วขึ้น)
เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤๅๆ(บูชา 9 จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)
ตั้งจิตอธิษฐานขออาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา ขอให้ความปรารถนาทุกอย่างจงสำเร็จทุกประการ หรืออธิษฐานขอเฉพาะเรื่อง เมื่อสำเร็จแล้วทำบุญถวายแด่องค์ท่าน
-
ล็อกเก็ตที่ระลึกงานเททองหล่อสมเด็จองค์ปฐมทองคำ ปี42 เนื้อทองคำ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
หลวงพ่ออนันต์ท่านเจ้าอาวาสวัดท่าซุงองค์ปัจจุบัน จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในงานเททองหล่อสมเด็จองค์ปฐมทองคำ ขนาดหน้าตัก 9นิ้ว ประดิษฐานประจำวัดท่าซุง ล็อคเก็ตนี้สร้างเป็นรูปสมเด็จองค์ปฐมประทับอยู่กลางเปลวเพลิงลงยา มีเพชรล้อม องค์นี้สร้างด้วยเนื้อทองคำ 90% จัดสร้างจำนวนน้อยมากๆ แจกสำหรับศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อเท่านั้น พุทธคุณจะเด่นทางด้านเมตตาและแคล้วคลาดจากอันตราย ครบทุกอย่างสุดแต่จะอธิฐาน
-
สมเด็จองค์ปฐม ปางพระนิพพาน เนื้อทองคำ ปี40 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
รุ่นนี้สร้างเมื่อปี2540 เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าซุง โดยหลวงพ่อพระครูปลัดอนันต์ (สมณศักดิ์ในสมัยนั้น) ท่านเจ้าอาวาสวัดท่าซุงองค์ปัจจุบัน เนื้อทองคำพิเศษๆ จัดสร้างไม่มาก ตามจำนวนสั่งจอง ผสมชนวนสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่ที่วัดท่าซุง พุทธคุณเต็มเปี่ยม หายากมาก
-
พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
สมเด็จองค์ปฐม พิมพ์อินโดจีน เนื้อทองคำ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
อีกหนึ่งในตำนานสมบัติพ่อให้ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สร้างและมอบให้ลูกหลานไว้ พระสมเด็จองค์ปฐม พิมพ์อินโดจีนนี้ ทางลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อ นำโดยอาจารย์เสริฐ (เพื่อนคุณลุงยกทรง) และคุณชาญชัย ได้ขออนุญาตหลวงพ่อจัดสร้างขึ้น โดยผู้จัดสร้างได้นำบล็อคของพระพุทธชินราช อินโดจีน วัดเลา บางขุนเทียน มาดัดแปลงตกแต่งแก้ไข โดยจัดสร้างออกมาด้วยกัน 2เนื้อ คือ
1) เนื้อทองคำ จำนวน 12องค์ (ทองน้ำหนัก 2บาทกว่าๆ)
2) เนื้อเงิน จำนวน 30กว่าองค์
และนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับสมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 ณ วิหารแก้วร้อยเมตร เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2535 หลังพิธีพุทธาภิเษก..ทางลูกศิษย์ได้น้อมถวายพระทองคำรุ่นนี้ให้กับหลวงพ่อ1องค์ พอหลวงพ่อท่านรับพระมา ท่านก็กลัดไว้ที่อังษะเลย สร้างความตื้นตันใจให้กับทางคณะผู้สร้างเป็นอย่างมากพระรุ่นนี้จะมีเฉพาะลูกศิษย์ใกล้ชิดเท่านั้น ถือเป็นสมบัติพ่อให้ที่หาชมได้ยาก เลี่ยมทองกรอบเดิมๆมาตั้งแต่สมัยนั้น โดยที่ฐานด้านหน้ากรอบมีข้อความเขียน “สมเด็จองค์ปฐม” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “วัดท่าซุง อุทัยธานี”
ปล.ข้อมูลที่ได้นำมาเผยแพร่ ได้สอบถามกับทางผู้จัดสร้างโดยตรง และให้พึงระวังเรื่องพิมพ์พระไว้ด้วย เพราะจะใกล้เคียงกับพระพุทธชินราช อินโดจีน วัดเลา บางขุนเทียน
สมเด็จองค์ปฐม อินโดจีน เนื้อเงิน เป็นของเพื่อนที่รู้จัก นำมาลงเปรียบเทียบให้ได้ดูกันเป็นตัวอย่างอีกองค์
-
พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
สมเด็จองค์ปฐม รุ่น1 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก (จักรพรรดิ์พระเครื่องวัดท่าซุง) ถือว่าเป็นวัตถุมงคลอันดับหนึ่งของวัดท่าซุงที่ลูกหลานหลวงพ่อต้องการบูชา สร้างด้วยเนื้อทองเหลืองชุบทอง จำนวนการสร้างประมาณ 3,000องค์ ขนาดฐานกว้าง 1.75ซม. ขนาดความสูง 3.3ซม. ใต้ฐานบรรจุเม็ดกริ่ง ฝากริ่งเป็นตัวอักษรอ่านว่า “นะ” เขียนเป็นภาษาขอม ทำมาจากเนื้อทองแดงเพียงอย่างเดียว ลักษณะฝาปิดกริ่งจะมี 3แบบ คือ
1. ฝากริ่งแบบตัว นะ ตัวใหญ่
2. ฝากริ่งแบบตัว นะ กลาง
3. ฝากริ่งแบบตัว นะ ตัวเล็กส่วนฐานด้านหลังเขียนคำว่า “สมเด็จองค์ปฐม วัดท่าซุง”
หลวงพ่อได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกที่วิหารแก้ว 100 เมตร เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2535 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ) และตรงกับวันที่ได้อัญเชิญพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ขนาดหน้าตัก ๔ ศอก ขึ้นประดิษฐ์สถาน ณ วิหารสมเด็จองค์ปฐม วัดท่าซุง ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ทำพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2535 โดยการณ์นี้ได้นิมนต์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น) วัดสามพระยา มาร่วมเป็นประธานจับสายสิจน์ และอธิษฐานจิตในงานหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม และท่านเจ้าประคุณสมเด็จ ท่านยังกล่าวว่า “พระองค์นี้บูชาให้ดี จะมีลาภมาก” ……..
หลวงพ่อปรารภหลังจากพิธีพุทธาภิเษกระหว่างเจริญศรัทธาที่ตึกรับแขกว่า…..พระรุ่นนี้ สมเด็จองค์ปฐมท่านเสด็จลงมาจากพระนิพพานด้วยพระองค์เอง และพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ เสด็จลงมาจากพระนิพพานทั้งหมด พรหมและเทวดาทั่วจักรวาลก็มากันหมด ถึงเวลาพุทธาภิเษกด้านลาภ พระพุทธเจ้าด้านลาภมากที่สุดคือพระพุทธกัสสป พระพุทธทีปังกรท่านมาด้านหน้า หลวงพ่อท่านเปรียบเทียบให้ฟังว่า พระสีวลีพระอรหันต์ที่มีลาภมากยังนั่งไปไกลมากมองไม่เห็น และรุกขเทวดาที่อยู่ในวัดตามต้นไม้ออกไปไกลมากเลยตลาดอุทัยธานีไปอีก วัดตามกำลังบารมีและความสว่าง หมายถึงท่านใดมีลาภมากก็จะอยู่ด้านหน้า ซึ่งวัดท่าซุงกับตลาดอุทัยห่างกันประมาณ 10กิโลเมตร ….พุทธคุณเต็มเปี่ยม จะหาวัตถุมงคลใดๆในพื้นพิภพนี้จะเทียบเท่าได้
สมเด็จองค์ปฐมท่านสร้างบารมี 40อสงไขยกำไรแสนกัลป์ มากที่สุด เป็นบรมครูองค์แรกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด ภายหลังจากพิธีพุทธาภิเษกเสร็จ หลวงพ่อยังกล่าวให้ลูกหลานฟังอีกว่า….
“ผู้มีสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชา หากใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ดี อมนุษย์ก็ดี หรือสัตว์ร้ายก็ดี มีจิตคิดร้ายกับเราจะร้อนรุ่มจนทนไม่ได้ ต้องถอยไปในที่สุด”
******************************************************
คำสอนสมเด็จองค์ปฐมบรมครู (สมเด็จพระพุทธสิขีทศพล ที่ 1)
หลวงพ่อได้เมตตา สรุปใจความสั้นๆ ตามที่ท่านเทศน์ไว้ดังนี้…..
“ท่านทั้งหลาย การหลบหลีก ไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรก เป็นต้น เป็นของไม่ยาก
1. ขอทุกท่าน จงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้(ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหมในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพานแล้ว ตั้งใจไปพระนิพพานโดยเฉพาะ เท่านี้ทุกท่านจะหนีอบายภูมิพ้น และไปพระนิพพานได้ในที่สุด”หมายเหตุ : เทศน์ที่ ”เทวสภา” วันที่ 8 สิงหาคม 2535 เวลา 8.00 น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน เมตตาเล่าให้ลูกหลานฟัง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2535 เวลา 21.00 น.
***************************************************************
-
พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
สมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระสมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 เนื้อกะไหล่ทอง จัดสร้างประมาณ 10,000องค์เศษ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพุทธาภิเษกที่วิหารแก้วร้อยเมตร เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2535 ขนาดขององค์พระ ขนาดฐานกว้าง 1.75ซม. ขนาดความสูง 3.3ซม.
ก่อนที่จะเริ่มพิธีพุทธาภิเษกหลวงพ่อกล่าวเอาไว้ว่า….
“วันนี้ มีพระหางหมากอยู่แสนองค์ พระพุทธรูปองค์ปฐมองค์เล็กๆมี 14,400องค์ อย่าแย่งกันนะ ท่าจะไม่พอ… แต่ว่าไม่มีกริ่งนะ…
ทั้งนี้เพราะอะไรเพราะว่า “ถ้ากริ่งถ้ามี… แทนที่จะดีกลายเป็นปรามาสพระรัตนตรัยไป เขย่า….ดีไม่ดี เล่นไปเล่นมาลงนรกไปเลย…”หลวงพ่อท่านเล่าว่า สมเด็จองค์ปฐมท่านเสด็จลงมาจากพระนิพพานด้วยพระองค์เอง และพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ เสด็จลงมาจากพระนิพพานทั้งหมด พรหมและเทวดาทั่วจักรวาลก็มากันหมด ถึงเวลาพุทธาภิเษกด้านลาภ พระพุทธเจ้าด้านลาภมากที่สุดคือพระพุทธกัสสป พระพุทธทีปังกรท่านมาด้านหน้า หลวงพ่อท่านเปรียบเทียบให้ฟังว่า พระสีวลีพระอรหันต์ที่มีลาภมากยังนั่งไปไกลมากมองไม่เห็น และรุกขเทวดาที่อยู่ในวัดตามต้นไม้ออกไปไกลมากเลยตลาดอุทัยธานีไปอีก วัดตามกำลังบารมีและความสว่าง หมายถึงท่านใดมีลาภมากก็จะอยู่ด้านหน้า ซึ่งวัดท่าซุงกับตลาดอุทัยห่างกันประมาณ 10กิโลเมตร ตอนพุทธาภิเษกอยู่ๆไฟฟ้าในวิหารร้อยเมตรก็เกิดไฟดับชั่วอึดใจ หลวงพ่อท่านพูดว่าช่วงนั้นกำลังปลุกเสกท่องคาถาเรื่องการพลางตัวไม่ให้ศัตรูมองเห็น….พุทธคุณเต็มเปี่ยม จะหาวัตถุมงคลใดๆในพื้นพิภพนี้จะเทียบเท่าได้
สมเด็จองค์ปฐมท่านสร้างบารมี 40อสงไขยกำไรแสนกัลป์ มากที่สุด เป็นบรมครูองค์แรกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด ภายหลังจากพิธีพุทธาภิเษกเสร็จ หลวงพ่อยังกล่าวให้ลูกหลานฟังว่า….
“ผู้มีสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชา หากใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ดี อมนุษย์ก็ดี หรือสัตว์ร้ายก็ดี มีจิตคิดร้ายกับเราจะร้อนรุ่มจนทนไม่ได้ ต้องถอยไปในที่สุด”
-
พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
สมเด็จองค์ปฐม รุ่น3 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 3 สร้างจากเนื้อทองเหลืองชุบทอง โดยถอดแบบมาจากพระสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก จึงมีขนาดองค์พระเล็กกว่าเล็กน้อย โดยมีจุดสังเกตุเบื้องต้น คือ ที่ฐานบริเวณหน้าขาองค์สมเด็จท่านจะมีเนื้อเกิน และที่บริเวณด้านหลังจะมีเส้นพาดจากบริเวณเอวด้านขวาเฉียงลงมาที่บริเวณก้นองค์สมเด็จท่าน โดยขนาดขององค์พระจะมีฐานกว้าง 1.65ซม. ความสูง 3.1ซม. จำนวนการสร้างประมาณ 30,000องค์เศษ
ลักษณะของฝาปิดกริ่ง ฝาปิดกริ่งจะทำมาจากทองแดงมีอยู่ด้วยกันหลายแบบเท่าที่ทราบจะสามารถแบ่งได้ ดังนี้….
1. แบบตัวยันต์ นะ ตัวใหญ่
2. แบบตัวยันต์ นะ ตัวเล็ก
3. แบบตัวยันต์ มะอะอุ
4. แบบตัวยันต์ อุ ตัวเดียว
ยังมีใต้ฐานแบบไม่อุดกริ่ง และเป็นแบบฐานตันไม่ได้เจาะด้วยพุทธาภิเษกครั้งแรกที่ตึกรับแขก เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2535 เวลาประมาณ 23.00 น. แต่ไม่ได้จัดพิธีอย่างเป็นทางการ
และหลวงพ่อได้ปรารภถึงสมเด็จองค์ปฐมรุ่น 3 ไว้เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2535 ดังนี้
“เมื่อคืนปลุกเสกพระ หมาไม่หอน งวดนี้ไม่ให้หมาเห็นเพราะ 2งวดก่อนมาให้หมาเห็น เห่ากันเจี๊ยวจ๊าว รุ่นนี้แอบไม่ให้หมาเห็น เมื่อคืนปลุกรุ่นยันกลับ (ใครทำไม่ดียันกลับหมด)”
และเข้าพิธีพุทธาภิเษกอย่างเป็นทางการอีกครั้งตามคำสั่งของหลวงพ่อ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2536
**************************************************************
-ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระสมเด็จองค์ปฐม รุ่น3
***พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้กล่าวเมื่อปี2535 ว่า ผู้มีสมเด็จองค์ปฐม ติดตัวไว้จงมั่นใจได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ดี อมนุษย์ก็ดี สัตว์มีพิษร้ายก็ดี ภูติผีปีศาจร้ายก็ดี ถ้าคิดจะทำร้ายเรา จะรุ่มร้อนจนทนไม่ได้ ต้องล่าถอยไปในที่สุด และยังสามารถป้องกันอาวุธวิทยาศาสตร์ได้หลายชนิด อาทิเช่น นิวเคลียร์, สารเคมี, ก๊าซพิษ, ก๊าซชีวภาพ, ฝนกรดและโรคระบาดทุกชนิด นี่เป็นอานุภาพของสมเด็จองค์ปฐมซึ่งเป็นองค์ต้นของพุทธศาสนาที่บำเพ็ญบารมี มาถึง40อสงไขยแสนกัป
ข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วนที่ได้รับความเมตตาจากหลวงพี่วิรัช (ซึ่งท่านเคยเป็นพระเลขาของหลวงพ่อ) ท่านได้เล่าให้ผู้ที่สงสัยฟังว่า……….
*สมเด็จองค์ปฐมรุ่น3 นี้ หลวงพ่อฤาษีฯได้สั่งให้อุดกริ่งโดยเฉพาะ
*ทางโรงงานมาส่งพระก่อนหลวงพ่อฤาษีฯจะละสังขาร จำนวน 30,000 องค์
*หลวงพ่อฤาษีฯ สั่งให้แยกเก็บไว้ในห้องต่างหากแล้วล็อกห้องไว้
*หลวงพ่อฤาษีฯ เล่าให้หลวงพี่วิรัชฟังว่า “สมเด็จองค์ปฐมฯ ท่านได้เสกให้ตั้งแต่หล่อเสร็จใหม่ๆ เลย ตอนโรงงานเอาพระมาส่ง สมเด็จองค์ปฐมฯ ท่านมารอปลุกเสก หลวงพ่อฤาษีฯ จึงทำพิธีในคืนนั้นตอน 5 ทุ่ม”
*คนถามหลวงพี่วิรัช ว่า ”ใช่วันที่ 9 ตุลาคม 2535 ที่บันทึกในหนังสือใช่หรือไม่?” ท่านบอกว่า “ใช่”
*หลวงพี่วิรัชเล่าว่า ”ตอนปลุกเสกสมเด็จองค์ปฐมฯ พรหม เทพ เทวดา มากันเต็มวัด จนเทพที่อาศัยอยู่ที่ต้นมะม่วงข้างตึกที่บารมียังไม่ถึง ต้องออกไปจากวัดเกือบถึงตลาด พอปลุกเสกเสร็จถึงได้กลับมาที่วัดได้”
*หลวงพี่วิรัชบอกว่า ”ยังมีสมเด็จองค์ปฐมรุ่นที่ห้อยหน้ารถ หลวงพ่อท่านทำพิธีให้ด้วย ถ้าเจอที่ไหนให้บูชาไว้เลยดีมากๆ”
*คนถามหลวงพี่วิรัชว่า ”แล้วทำไมไม่ออกให้บูชา?” ท่านบอกว่า “ให้คิดเอาเอง” แล้วท่านก้อบอกว่า ”ถ้านำมาออกให้บูชา ภายใน1ชั่วโมง รับรองไม่เหลือแน่ๆ และถ้าทำพิธีปลุกเสกเป็นทางการ ของก็จะขึ้นราคาเป็น16เท่า ใครจะเช่าบูชาได้ถ้าไม่มีเงินมากพอ” หลวงพี่วิรัชบอกว่า ”ให้พวกเราไปคิดกันเอง”ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ คำสอนหลวงพ่อ วัดท่าซุง โดย ดร.ปริญญา นุตาลัย
*จะเห็นว่ากริ่งที่ไม่ชุบก็มี ที่ชุบก็มี เนื่องจากว่าที่ชุบมาจากโรงงานมาไม่ดี ทางวัดเลยส่งกลับ ให้โรงงานไปชุบมาใหม่หลังหลวงพ่อพุทธาภิเษกที่กุฏิรับแขกแล้ว และทางโรงงานได้ส่งกลับมาหลังจากหลวงพ่อมรณภาพแล้ว บ้างคนมาเห็นของมาจากโรงงานหลังส่งไปชุบมาใหม่ ก็เลยบอกว่าไม่ทันหลวงพ่อ แหมน่าเสียดายที่อดได้ ของดีที่วิเศษสุดสุดที่หลวงพ่อทำให้ คือปลุกเสกเป็น ”รุ่นยันกลับ” -
พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
สมเด็จองค์ปฐม รุ่นยันกลับ ชุดทองคำ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
หลวงพ่อพุทธาภิเษก ที่ตึกรับแขกวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๓๕ เป็นเหรียญหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมพิมพ์สองหน้า รูปด้านหน้าเป็นสมเด็จองค์ปฐม-ด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ พิมพ์สี่เหลี่ยม จำนวนการสร้างชุดทองคำทั้งสิ้นประมาณ 150ชุด (ประกอบด้วย ทองคำ เงิน นวะ) และเนื้อเงินแยกกล่องเดี่ยวๆอีกราวๆ 200องค์
วันรุ่งขึ้นก่อนหลวงพ่อลงรับแขก ท่านเล่าว่า
“เมื่อคืนปลุกเสกพระหมาไม่หอน งวดนี้ไม่ให้หมาเห็น เพราะ 2งวดก่อนมาให้หมาเห็นเห่ากันเจี๊ยวจ๊าว รุ่นนี้แอบไม่ให้หมาเห็น เมื่อคืนปลุกเสกรุ่นยันกลับ (ใครทำไม่ดี ยันกลับหมด)” ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่น…ยันกลับ
สมัยนั้นหลวงพ่อท่านจะเล่าว่าการพุทธาภิเษกสมเด็จองค์ปฐม ท่านเมตตาเสด็จลงมาจากพระนิพพานด้วยพระองค์ท่านเอง พระพุทธเจ้าทุกพระองค์บนพระนิพพานเสด็จตามลงมาหมด พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหมด พระอรหันต์ทั้งหมดเสด็จตามมา พรหมและเทวดาทั่วจักรวาลมากันทั้งหมด เทวดาประจำอยู่ที่วัด ต้องอยู่ห่างออกไปถึงตลาดอุทัยธานี เพราะการพุทธาภิเษกจะวัดกันที่บุญญาธิการและรัศมีแสงสว่างประจำแต่ละองค์เรียงลำดับกันไป พุทธคุณเต็มเปี่ยมทุกประการ
-
๒. พระเครื่อง พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
สมเด็จองค์ปฐม เนื้อทองคำ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
สำหรับพระสมเด็จองค์ปฐม เนื้อทองคำ คุณวิมาลีและอาจารย์บุปผาชาติ พงษ์ประดิษฐ์ (อ.โอ๋) ได้ขออนุญาตหลวงพ่อจัดสร้าง
– พระในส่วนของคุณวิมาลีจัดสร้างนั้น จะเปิดให้ลูกศิษย์ได้จองทั่วไป ทั้งที่ซอยสายลม และที่วัดท่าซุง จริงๆแล้ว…สมเด็จองค์ปฐม เนื้อทองคำ จำนวนหนึ่งสร้างเสร็จก่อน และเข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก แต่เปิดให้จองเฉพาะลูกศิษย์ภายในใกล้ชิดหลวงพ่อเท่านั้น คนทั่วไปยังจองไม่ได้ จะจองได้ก็เป็นชุดหลัง อย่างที่ลูกศิษย์ทั่วไปเข้าใจกันว่า สมเด็จองค์ปฐม เนื้อทองคำ เข้าพิธีพุทธาภิเษก พร้อม รุ่น2 (เนื้อกะไหล่) ส่วนพิมพ์พระที่คุณวิมาลีจัดสร้าง ชุดแรกที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกก่อนกับชุดหลัง ใช้พิมพ์เดียวกันทุกอย่าง แยกไม่ได้ว่าองค์ไหนก่อนองค์ไหนหลัง เนื้อทองก็เหมือนกัน โดยใช้ทองสวิส (เนื้อทองจะออกหยาบเล็กน้อย สีทองเข้ม) สมเด็จองค์ปฐมชุดหลังที่คุณวิมาลีจัดสร้าง พอสร้างเสร็จท่านไม่ได้เข้าไปถามหลวงพ่อเรื่องเจาะรูใต้ฐานองค์พระ พระก็เลยเป็นแบบฐานตัน
– ในส่วนพระที่ อ.โอ๋ จัดสร้าง พิมพ์พระสมเด็จองค์ปฐม ก็ใช้บล๊อคเดียวกับของคุณวิมาลี จะต่างกันที่ทองที่ใช้หล่อ ของ อ.โอ๋จะใช้ทองทั่วไป หาซื้อที่จังหวัดนครสวรรค์ เนื้อทองจะเป็นมันเนียนเรียบ สีทองสุกกว่า พอทำเสร็จ อ.โอ๋ ก็เข้าไปกราบถามหลวงพ่อว่า เนื้อทองคำต้องเจาะรู เหมือนรุ่น2 หรือเปล่า หลวงพ่อก็แนะว่า ถ้าเรามีทองคำไม่เยอะ ก็ให้ไปเจาะรู แล้วเอาทองที่เจาะออกมาไปหล่อจะได้พระเพิ่มขึ้นอีก อ.โอ๋ท่านก็เลยเจาะรูองค์พระ2องค์เพื่อให้หล่อพระเพิ่มขึ้นได้อีกองค์ พอดีกับทองคำที่มี จัดสร้างทั้งหมด 10องค์ (เป็นแบบฐานตัน 8องค์ และแบบเจาะรู 2องค์)
ในตอนที่ อ.โอ๋ ไปขออนุญาต หลวงพ่อลงรับแขกที่ตึกรับแขก จะมีหลวงพี่บัญชา (พระหัวหน้าตึกรับแขกในสมัยนั้น ตอนนี้ลาสิขาแล้ว) หลวงพี่ประทีป (มรณภาพแล้ว) หลวงพี่ละออง อ.โอ๋ และศิษย์ท่านอื่นๆอีก นั่งอยู่ในที่นั้นด้วย
-
พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
สมเด็จองค์ปฐม เนื้อทองคำ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
จักรพรรดิ์แห่งพระเครื่องสายวัดท่าซุง ที่สุดแห่งปรารถนาของบรรดาลูกหลานพระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ นั้นคงเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย นั่นก็คือ “สมเด็จองค์ปฐม เนื้อทองคำ” จัดสร้างตามจำนวนสั่งจอง ดำเนินการจัดสร้างโดยคุณวิมาลี มีทั้งสิ้นประมาณ 80องค์ เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วิหารแก้ว ๑๐๐เมตร เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2535
พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเล่าว่า สมเด็จองค์ปฐมท่านเสด็จลงมาจากพระนิพพานด้วยพระองค์เอง และพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ เสด็จลงมาจากพระนิพพานทั้งหมด พรหมและเทวดาทั่วจักรวาลก็มากันหมด ถึงเวลาพุทธาภิเษกด้านลาภ พระพุทธเจ้าด้านลาภมากที่สุดคือพระพุทธกัสสป พระพุทธทีปังกรท่านมาด้านหน้า หลวงพ่อท่านเปรียบเทียบให้ฟังว่า พระสีวลีพระอรหันต์ที่มีลาภมากยังนั่งไปไกลมากมองไม่เห็น และรุกขเทวดาที่อยู่ในวัดตามต้นไม้ออกไปไกลมากเลยตลาดอุทัยธานีไปอีก วัดตามกำลังบารมีและความสว่าง หมายถึงท่านใดมีลาภมากก็จะอยู่ด้านหน้า ซึ่งวัดท่าซุงกับตลาดอุทัยห่างกันประมาณ 10กิโลเมตร ตอนพุทธาภิเษกอยู่ๆไฟฟ้าในวิหารร้อยเมตรก็เกิดไฟดับชั่วอึดใจ หลวงพ่อท่านพูดว่าช่วงนั้นกำลังปลุกเสกท่องคาถาเรื่องการพลางตัวไม่ให้ศัตรูมองเห็น….พุทธคุณเต็มเปี่ยม จะหาวัตถุมงคลใดๆในพื้นพิภพนี้จะเทียบเท่าได้
สมเด็จองค์ปฐมท่านสร้างบารมี 40อสงไขยกำไรแสนกัลป์ มากที่สุด เป็นบรมครูองค์แรกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด ภายหลังจากพิธีพุทธาภิเษกเสร็จ หลวงพ่อยังกล่าวให้ลูกหลานฟังว่า….
“ผู้มีสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชา หากใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ดี อมนุษย์ก็ดี หรือสัตว์ร้ายก็ดี มีจิตคิดร้ายกับเราจะร้อนรุ่มจนทนไม่ได้ ต้องถอยไปในที่สุด”
-
พระยอดนิยม รูปหล่อ - รูปเหมือน
สมเด็จองค์ปฐม เนื้อเงิน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระสมเด็จองค์ปฐม เนื้อเงิน จัดสร้างประมาณ 2,000องค์ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพุทธาภิเษกพร้อมสมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 เนื้อกะไหล่ทอง ที่วิหารแก้วร้อยเมตร เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2535 หลวงพ่อท่านเล่าว่า สมเด็จองค์ปฐมท่านเสด็จลงมาจากพระนิพพานด้วยพระองค์เอง และพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ เสด็จลงมาจากพระนิพพานทั้งหมด พรหมและเทวดาทั่วจักรวาลก็มากันหมด ถึงเวลาพุทธาภิเษกด้านลาภ พระพุทธเจ้าด้านลาภมากที่สุดคือพระพุทธกัสสป พระพุทธทีปังกรท่านมาด้านหน้า หลวงพ่อท่านเปรียบเทียบให้ฟังว่า พระสีวลีพระอรหันต์ที่มีลาภมากยังนั่งไปไกลมากมองไม่เห็น และรุกขเทวดาที่อยู่ในวัดตามต้นไม้ออกไปไกลมากเลยตลาดอุทัยธานีไปอีก วัดตามกำลังบารมีและความสว่าง หมายถึงท่านใดมีลาภมากก็จะอยู่ด้านหน้า ซึ่งวัดท่าซุงกับตลาดอุทัยห่างกันประมาณ 10กิโลเมตร ตอนพุทธาภิเษกอยู่ๆไฟฟ้าในวิหารร้อยเมตรก็เกิดไฟดับชั่วอึดใจ หลวงพ่อท่านพูดว่าช่วงนั้นกำลังปลุกเสกท่องคาถาเรื่องการพลางตัวไม่ให้ศัตรูมองเห็น….พุทธคุณเต็มเปี่ยม จะหาวัตถุมงคลใดๆในพื้นพิภพนี้จะเทียบเท่าได้
สมเด็จองค์ปฐมท่านสร้างบารมี 40อสงไขยกำไรแสนกัลป์ มากที่สุด เป็นบรมครูองค์แรกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด ภายหลังจากพิธีพุทธาภิเษกเสร็จ หลวงพ่อยังกล่าวให้ลูกหลานฟังว่า….
“ผู้มีสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชา หากใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ดี อมนุษย์ก็ดี หรือสัตว์ร้ายก็ดี มีจิตคิดร้ายกับเราจะร้อนรุ่มจนทนไม่ได้ ต้องถอยไปในที่สุด”
**********************************************************************************************
พระสมเด็จองค์ปฐม เนื้อเงิน (องค์เลี่ยมกรอบทอง) ผมบูชามาจากซอยสายลม ในราคา 8,000บาท เมื่อราวๆปี2536 หลังจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านมรณภาพแล้ว ราคาพระและวัตถุมงคลจึงขยับราคาขึ้นเป็น 16เท่าตามคำสั่งของหลวงพ่อ พระองค์นี้เป็นพระสมเด็จองค์ปฐมองค์แรกในชีวิตที่ผมมีไว้บูชา
-
๗. ศึกษา - แบ่งปัน พระยอดนิยม เปรียบเทียบ เปรียบเทียบ-โชว์
เปรียบเทียบ__พระคำข้าว รุ่น1 กับ รุ่น2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
หลายคนทีเพิ่งเริ่มเก็บสะสมพระหลวงพ่ออาจยังไม่ทราบและยังแยกไม่ออกว่าพระคำข้าว รุ่น1กับ รุ่น2 แตกต่างกันตรงไหน มีจุดสังเกตุอย่างไรบ้าง ลองชมรูปภาพชุดนี้ดู หวังว่าคงพอจะแยกแยะกันได้บ้าง
สำหรับพระคำข้าว รุ่นแรก ด้านหน้าทุกองค์จะต้องมีจุดที่แขนขององค์พระพุทธชินราช (ข้อย้ำว่าทุกองค์) ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 2พิมพ์ คือ พิมพ์บัวหลายจุด กับ พิมพ์บัวจุดเดียว ส่วนด้านหลังจะต้องไม่มีจุดเนื้อเกินโผล่ขึ้นมาบริเวณข้างๆข้อศอกของหลวงพ่อ (ดูตามลูกศรที่ชี้)
ส่วนพระคำข้าว รุ่น2 จะมีอยู่ด้วยกันหลายรุ่นหลายพิมพ์ แต่พิมพ์ที่ทำให้หลายคนสงสัยก็คือ พิมพ์บัวหลายจุด กับ พิมพ์บัวจุด ซึ่งจะไปเหมือนกันกับพระคำข้าว รุ่นแรก ด้านหน้าองค์พระจะเหมือนกันแทบทุกอย่าง ต่างกันที่ความคมชัดบ้าง (ไม่พูดถึงมวลสารที่มีส่วนผสมต่างกันบ้างแล้วแต่การผสมในแต่ละครั้ง) ส่วนด้านหลังจะมีจุดเนื้อเกินโผล่ขึ้นมาบริเวณข้างๆข้อศอกของหลวงพ่อ (รุ่นแรก ไม่มี)
พระคำข้าว รุ่นแรก สร้างประมาณ 100,000องค์ ส่วน รุ่น2 สร้างประมาณ 5,000,000องค์ พุทธคุณครอบจักรวาลเหมือนกัน เด่นที่สุดด้านโชคลาภ
***********************************************
ถอดเสียงจากเทปของหลวงพ่อ เพื่อเผยแผ่พระบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ…
“….รวยๆนะจ๊ะ รวยๆ ถวายของแล้วรับของพระแจกนะโยมนะ พระที่แจกเป็นพระคำข้าวจะมีลาภมาก อาราธนาไว้จะมีลาภมากนะจ๊ะพระสีขาวๆนะ ทำยาก ต้องเสกข้าวถึงสามเดือน แล้วก็มาเข้าพิธีพุทธภิเษกอย่างใหญ่อีกครั้งหนึ่ง พระประเภทนี้ทำได้ยากมาก นะญาติโยมที่ได้พระขาวๆไว้เก็บไว้นะโยมนะ ต่อไปราคาจะแพง มีไว้หลายๆหมื่นองค์ต่อไปเป็นมหาเศรษฐี จะขายเป็นแสนบาท รวยๆนะจ๊ะ ๆ พระคำข้าวทำแบบเดียวกับพระสมเด็จพุฒาจารย์โตนะโยมนะ รวยๆนะจ๊ะ นานๆไปจะมีราคาสูง รวยๆนะจ๊ะ …อย่าลืมนะญาติโยมนะ พระสีขาวๆเป็นพระคำข้าว ทำได้ยากมาก ทำแบบเดียวกับพระสมเด็จพุฒาจารย์โต ต่อไปจะมีราคาเป็นแสนนะ เก็บไว้มากๆนะ แก้จนได้ และตามปกติก็เป็นพระที่มหาลาภมาก ถ้าอาราธนาขอลาภทุกๆวันลาภจะเกิดมาก …อ้าว รวยๆนะลูกนะ อย่างคนขายก๋วยเตี๋ยวที่จังหวัดอุทัยธานี เขาเคยขายได้วันละ700 บาท พออาราธนาพระนี้ทุกวันขายได้วันละ2,500 บาท เกือบตาย ปวดตัว (หัวเราะ) คนเดียวเนอะ แกเอาก๋วยเตี๋ยวมาถวายเรื่อย เอ้ารวยๆนะจ๊ะ พระคำข้าวทำแบบเดียวกับพระสมเด็จพุฒาจารย์โตนะโยมนะ นานๆไปจะมีราคาสูง….”
**************************************************
หลวงพ่อตอบคำถามเกี่ยวกับพุทธานุภาพของพระคำข้าว
-ผู้ถาม : พระที่ปลุกเสกที่ผ่านมานั้นกับที่เพิ่งผ่านมานี่ความสมบูรณ์แบบเหมือนกันหรือเปล่าครับ?
หลวงพ่อ : เหมือนกัน แต่อานุภาพต่างกัน
-ผู้ถาม : ต่างกันยังไงครับ หลวงพ่อ?
หลวงพ่อ : ฉันให้ หมอชนะ เช็ค หมอชนะ นั่นเก่ง ทิพยจักขุญาณ ท่านเก่งมาก หมอเขานั่งลืมตา ไม่ได้ดูพระนะ ให้เขาเช็คด้วยอารมณ์เฉยๆ ให้ถามพระบอก
♥รุ่นแรกดี มีลาภมาก อย่างอื่นดี
♥รุ่นที่สองดี มีลาภมาก อย่างอื่นดีเข้มข้นกว่า
♥รุ่นสามดี มีลาภมาก ปืนแตก
จะเล่าอะไรให้ฟังไหม อย่าไปลองกันนะ ห้ามลอง พ.อ.(พิเศษ)สถาพร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกพิษณุโลก มาเล่าให้ฟัง บอกลูกศิษย์แกมีรุ่นแรกไปองค์เดียวติดคอไป ไปถูกมีดเขาฟันหัวตรงนี้ ฟันเบาๆ ไม่แรงสลบเลย
แกเลยถาม “มีอะไรบ้าง?”แกบอก “มีที่คอไว้องค์เดียวครับ พระคำข้าว”
นี่อย่าลองนะ ลองเจ๊ง! เอาจริงๆ ไม่เป็นไร ลองไม่ได้ ถ้าจะใช้ปืนลองก็ไม่ยาก เอาพระห้อยคอใช่ไหม ปากกระบอกปืนใส่ปาก รับรองยิงไม่ออกทุกองค์ ไม่กล้าง้าง (หัวเราะ)-ผู้ถาม : ทีนี้ พระหางหมาก ทุกๆหน สองอย่างนี้คล้ายคลึงกันหรือว่า…
หลวงพ่อ : คล้ายคลึงกัน แต่ถ้าเรื่องลาภ พระคำข้าว ลาภสูงกว่า อย่างอื่นเหมือนกัน
(จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ กันยายน 2543)
************************************************************
-
๗. ศึกษา - แบ่งปัน พระยอดนิยม เปรียบเทียบ เปรียบเทียบ-โชว์
เปรียบเทียบ__สมเด็จองค์ปฐม รุ่น1 กับ รุ่น3 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
เปรียบเทียบ สมเด็จองค์ปฐม รุ่น1 กับ รุ่น3
หลายคนทีเพิ่งเริ่มเก็บสะสมพระหลวงพ่ออาจยังไม่ทราบและยังแยกไม่ออกว่าพระสมเด็จองค์ปฐม รุ่น1กับ รุ่น3 แตกต่างกันตรงไหน มีจุดสังเกตุอย่างไรบ้าง ลองชมรูปภาพชุดนี้ดูเป็นแนวทาง ซึ่งน่าจะพอแยกแยะกันคร่าวๆได้บ้าง
สำหรับพระสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก ถือเป็นจักรพรรดิ์พระเครื่องในสายวัดท่าซุง สร้างประมาณ 3พันองค์เศษ ส่วนสมเด็จองค์ปฐม รุ่น3 สร้างประมาณ 3หมื่นองค์เศษ พุทธคุณครอบจักรวาลเหมือนกัน จะหาวัตถุมงคลใดๆในพื้นพิภพนี้จะเทียบเท่าได้
สมเด็จองค์ปฐมท่านสร้างบารมี 40อสงไขยกำไรแสนกัลป์ มากที่สุด เป็นบรมครูองค์แรกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด ภายหลังจากพิธีพุทธาภิเษกเสร็จ หลวงพ่อได้กล่าวให้ลูกหลานฟัง ตามวาระการปลุกเสกในแต่ละวาระว่า….
วาระ ปลุกเสก…สมเด็จองค์ปฐมรุ่น 1
หลวงพ่อได้ปรารภถึงพิธีพุทธาภิเษกสมเด็จองค์ปฐมรุ่น 1 เอาไว้ว่า ” พิธีนี้ลาภหนักมาก ขนาดพระสิวลียังนั่งห่างออกไปไกลเพราะพระที่มีบารมีมากกว่านั่งอยู่ด้านใน ”
วาระ ปลุกเสก…สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 2
เมื่อตอนพิธีพุทธาภิเษกสมเด็จองค์ปฐมรุ่น 2 หลวงพ่อเล่าว่า ” ผู้ที่มีสมเด็จองค์ปฐมไว้แต่้ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ อมนุษย์ก็ดี หรือสัตว์ร้ายก็ดี ถ้าคิดไม่ดีจะร้อนรุ่มจนทนไม่ได้ ต้องถอยไปในที่สุด ”
วาระ ปลุกเสก…สมเด็จองค์ปฐมรุ่น 3
วันรุ่งขึ้นหลังพิธีพุทธาภิเษกหลวงพ่อเล่าว่า ” เมื่อคืนปลุกเสกพระ หมาไม่หอน งวดนี้ไม่ให้หมาเห็น เพราะ 2 งวดก่อนมาให้หมาเห็นเห่ากันเจี๊ยวจ๊าว รุ่นนี้แอบไม่ให้หมาเห็น เมื่อคืนปลุกเสกรุ่นยันกลับ (ใครทำไม่ดียันกลับหมด) พิธีนี้สมเด็จองค์ปฐมเสด็จมาเป็นประธาน เทวดานางฟ้าบริเวณหน้าตึกรับแขกรับแขกต้องออกไปอยูไกลถึงตลาดอุทัย ”
************************************************
คำสอนสมเด็จองค์ปฐมบรมครู (สมเด็จพระพุทธสิขีทศพล ที่ 1)
หลวงพ่อได้เมตตา สรุปใจความสั้นๆ ตามที่ท่านเทศน์ไว้ดังนี้…..
“ท่านทั้งหลาย การหลบหลีก ไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรก เป็นต้น เป็นของไม่ยาก
1. ขอทุกท่าน จงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้(ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหมในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพานแล้ว ตั้งใจไปพระนิพพานโดยเฉพาะ เท่านี้ทุกท่านจะหนีอบายภูมิพ้น และไปพระนิพพานได้ในที่สุด”หมายเหตุ : เทศน์ที่ ”เทวสภา” วันที่ 8 สิงหาคม 2535 เวลา 8.00 น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน เมตตาเล่าให้ลูกหลานฟัง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2535 เวลา 21.00 น.
**************************************************************
-
๗. ศึกษา - แบ่งปัน พระยอดนิยม สิ่งมงคล สิ่งมงคล-โชว์
เส้นเกศา พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
ที่สุดเหนือคำอธิบาย เกศาพระอริยเจ้าอันเป็นที่รักยิ่งของบรรดาลูกหลาน
-
๒. พระเครื่อง พระยอดนิยม เหรียญ
เหรียญของขวัญวันเกิด รุ่น4 เนื้อเงิน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
เหรียของขวัญวันเกิด รุ่น 4 เนื้อเงินนี้ สร้างออกมาโดยแก้ไขพิมพ์ใหม่ทั้งหมด (ไม่ซ้ำกับ รุ่น1-3) จะไม่ได้เลี่ยมกรอบและไม่มีเข็มกลัดเป็นโบว์ยันต์ผูก บารมี30ทัศจากวัด จัดสร้างประมาณ 20-30เหรียญ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อ มีข้อความว่า “ของขวัญวันเกิด ฤาษีลิงดำ” (เพิ่มสระอา หลังตัว ฤ) ด้านหลังเป็นรูปพระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว มีข้อความว่า “พระเจ้าพรหมมหาราชปราบริปูพ่าย”
อานุภาพเหรียญของขวัญวันเกิด
๑. ป้องกันอันตราย
๒. ผู้ทำคุณไสยมาจะย้อนกลับไปหาเจ้าของ
๓. ศัตรูทำอันตรายได้ยาก
๔. เมื่อปลุกเสกเสมอ อย่าแช่งคนอื่น เพราะจะเป็นไปตามนั้น
๕. ทำน้ำมนต์ กินคลอดบุตรง่าย และรักษาโรค
๖. ติดตัวไว้จะไม่มีอันตรายจากยาพิษ เมื่อบังเอิญกินเข้าไป จะมีอาการมึนงงราวหนึ่งชั่วโมง แล้วจะหายเอง
๗. เมตตามหานิยม
๘. กันรังสีต่างๆ
๙. กันโรคระบาด ถ้ามีโรคระบาดเกิดขึ้นให้ใส่บาตรอุทิศกุศลให้ท่านท้าวมหาชมภู จะพ้นภัย ๑ องค์กันได้ทั้งบ้านวิธีทำน้ำมนต์ ให้เอาเหรียญวางไว้ใกล้ขันน้ำ แล้วอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอิรยสงฆ์ ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย สืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุด แล้วอธิษฐานตามต้องการ เสร็จแล้วเอาพระจุ่มน้ำแล้วเอาขึ้น
-
เหรียญท้าวเวสสุวัณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
เหรียญท้าวเวสสุวัณที่พอจะจำแนกแยกเป็นบล็อคต่างๆ คร่าวๆได้ 7บล็อค คือ
1) บล็อคขอบจุด
2) บล็อคอินทนูลอย
3) บล็อคถาวโรมีขีด
4) บล็อคใต้จมูกจุด
5) บล็อคหูแตก
6) บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก
7) บล็อคหน้ากระจกพุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น
เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…
1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา
3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ
4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช
5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์
6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก
7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ
8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ
ฯลฯในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…”
นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ -
๒. พระเครื่อง พระยอดนิยม เหรียญ เหรียญ-โชว์
เหรียญท้าวเวสสุวัณ เนื้อเงิน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
เหรียญด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ(พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ด้านหลังเป็นรูปท่านท้าวเวสสุวัณ เหรียญเป็นเนื้อเงินซึ่งจัดสร้างน้อยมากๆ ว่ากันว่าจัดสร้างเพียง 20เหรียญ และเป็นบล็อคอินทนูลอย
**********************************************************
เหรียญท้าวเวสสุวัณที่พอจะจำแนกแยกเป็นบล็อคต่างๆ คร่าวๆได้ 7บล็อค คือ
1) บล็อคขอบจุด
2) บล็อคอินทนูลอย
3) บล็อคถาวโรมีขีด
4) บล็อคใต้จมูกจุด
5) บล็อคหูแตก
6) บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก
7) บล็อคหน้ากระจกพุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น
เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…
1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา
3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ
4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช
5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์
6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก
7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ
8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ
ฯลฯในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…”
นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ -
เหรียญพระชัยหลังช้าง “ภปร” เนื้อทองคำ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ร่วมปลุกเศก)
เหรียญพระชัยหลังช้าง เหรียญดังพิธีดีอีกเหรียญหนึ่ง เป็นเหรียญที่ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ แห่งวัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร ในนามคณะสงฆ์ได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้น สืบเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา ในปี พ.ศ.2530
เป็นเหรียญปั๊มด้านหน้าเป็นรูปพระชัยวัฒน์ ที่เรียกกันว่า “พระชัยหลังช้าง” ด้านหลังเป็นพระปรมาภิไธยย่อ “ภปร.” มีอักษรปรากฏบนเหรียญว่า “5 ธันวาคม 2530” และ “คณะสงฆ์สร้างในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ” มีเนื้อทองคำ, เนื้อเงิน, เนื้อนาก และเนื้อกะไหล่ทอง
” เหรียญพระชัยหลังช้าง” เป็นเหรียญดีเพราะพิธีการจัดสร้างเปี่ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งเจตนาการจัดสร้างเพื่อนำรายได้จากการบริจาคบูชานั้น ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2530 ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร มีพระเกจิอาจารย์ดังปลุกเสกมากมาย ประการสำคัญยิ่ง เหรียญพระชัยหลังช้าง มีสมเด็จพระสังฆราชถึง 2 พระองค์ ปลุกเสก นั้นคือ สมเด็จพระสังฆราช (วาส) วัดราชบพิธฯ และสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ที่ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี พ.ศ.2532
และ” เหรียญพระชัยหลังช้าง มีสมเด็จพระราชาคณะที่ร่วมปลุกเสกอีก คือ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา สมเด็จพระวันรัต วัดโสมนัสวิหาร สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดปทุมคงคา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เมื่อครั้งยังเป็นที่พระพรหมคุณาภรณ์
“พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพุทธาภิเษกหมู่ เจริญพระพุทธมนต์ เกือบ 80 รูป อาทิเช่น”…
1.สมเด็จพระสังฆราช(วาส) วัดราชบพิตรฯ
2.สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร
3.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา
4.สมเด็จพระวันรัด วัดโสมนัสวิหาร
5.สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดปทุมคงคา
6.พระพรหมคุณาภรณ์ (สมเด็จพุฒาจารย์เกี่ยว)วัดสระเกศ
7.พระมหาวีระ ถาวะโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
8.พระอาจารย์ ชื้น พุทธสาโร วัดญาณเสน
9.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
10.พระครูสันติวรญาณ (สิม) วัดถ้ำผาปล่อง
11.พระอุดมสังวรเถร (ล.พ.อุตตะมะ) วัดวังค์วิเวการาม
12.พระครูฐาปนกิจสุนทร (ล.พ.เปิ่น) วัดบางพระ
13.พระครูปริมานุรักษ์ (ล.พ.พูล) วัดไผ่ล้อม
14.หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก
15.พระครูเกษมธรรมนันท์ (ล.พ.แช่ม) วัดดอนยายหอม
16.หลวงพ่อ ไสว วัดปรีดาราม ฯลฯ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรุงเทพฯ ได้ลิขิตไว้ว่า “เหรียญพระชัยหลังช้าง หากอยู่กับบ้านก็คุ้มบ้าน หากอยู่กับตัวก็คุ้มตัว” และเพื่อเป็นการยืนยันคำพูดดังกล่าว ท่านจึงได้จัดพิมพ์หนังสือเรื่อง “ปรากฏการณ์อันน่าพิศวงเกี่ยวด้วยเหรียญพระชัย (หลังช้าง)” ขึ้น โดยรวบรวมเรื่องราวจากผู้ที่ได้รับประสบการณ์จากเหรียญนี้มากมายหลายท่าน
ที่สำคัญ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง ท่านเคยกล่าวไว้กับลูกศิษย์ของท่านว่า เหรียญพระชัยหลังช้างนี้เป็นเหรียญที่มีพุทธานุภาพดีมาก เพราะมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เต็มเปี่ยม และได้เล่าประวัติพระชัยหลังช้างไว้ว่า เป็นพระที่ ร.๑ ท่านบูชาประจำพระองค์ มาตั้งแต่สมัยชื่อด้วงแล้ว ต่อมาก็เป็นแม่ทัพ เวลาจะรบกับข้าศึกก็เอาไปด้วย บูชาประจำพระองค์เลย ออกรบแต่ละครั้ง ร.๑ ท่านไม่เคยแพ้ใคร ฉนั้นเวลาจะบูชา หลวงพ่อท่านให้อธิฐานว่า “ร.๑ ไม่เคยแพ้ใครฉันใด ขอเราเป็นผู้ชนะแบบ ร.๑” อธิฐานอย่างนี้ยิ่งดีใหญ่เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อย่าให้แพ้ความยากจน” เราจะได้รวยๆๆ
-
เหรียญมหาลาภ เนื้อเงิน ปี30 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
เหรียญมหาลาภ ปี30รุ่นนี้ ถือเป็นเหรียญมหาลาภ รุ่นที่2 เข้าพิธีพุทธาภิเษกในงานสะเดาะเคราะห์ใหญ่ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2530 ปลุกเสกพร้อมพระบูชาแก้วใสรุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พระวิสุทธิเทพแก้ว รูปหล่อหลวงปู่ปาน-หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระบูชาสุโขทัย ๓ นิ้ว, ๕ นิ้ว, ๙ นิ้ว รูปเหมือนท่านแม่ทั้งสามเนื้อเรซิ่นใส รวมถึงแหวนเพชรจักรพรรดิ์
ว่ากันว่า….บูชาเหรียญนี้ติดกระเป๋าใส่สตางค์หรือที่เก็บเงิน แล้วเงินจะไม่ขาดมือ อธิษฐานได้ดังหวังตลอด ถ้าจะให้ดี ให้บูชาด้วยคาถาเงินล้าน แล้วปลุกด้วยคาถาหลวงปู่ปาน มีลูกศิษย์นำไปบูชาแล้วได้ผลกันแล้วมากมาย
เหรียญมหาลาภ รุ่น2 นี้จะเป็นเหรียญคู่ มี 2 แบบ คือ
1. ด้านหน้ารูปหลวงพ่อ มีชื่อ “พระสุธรรมยานเถระ” ใต้องค์หลวงพ่อ
ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร เขียนว่า “ทำบุญต่ออายุ พ.ศ.๒๕๓๐”2. ด้านหน้ารูปหลวงพ่อ มีชื่อ “พระสุธรรมยานเถระ” ใต้องค์หลวงพ่อ
ด้านหลังเป็นรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เขียนว่า “ทำบุญถวายพระราชกุศล ๒๕๓๐”แต่ถ้าเป็นเหรียญเนื้อเงิน จะมีแค่แบบที่ 1 (ด้านหน้ารูปหลวงพ่อ ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร) อย่างเดียว จัดสร้างจำนวนไม่มากนัก น่าจะประมาณราวๆ 30เหรียญ