เหรียญ

  • เหรียญ

    บล็อคขอบจุด__เหรียญท้าวเวสสุวัณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    บล็อคนี้ที่ขอบเหรียญด้านซ้ายใกล้เลข๕ จะมีจุดบุ๋มอยู่นิดนึง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียก “บล็อคขอบจุด” บริเวณด้านหน้าจะมีเส้นขนแมวบางๆคล้ายสายฝน จากคำว่ามหาวีระ ทอดมายังศรีษะด้านขวาของหลวงพ่อ และตรงบริเวณจมูกด้านขวาของหลวงพ่อ จะมีรอยอยู่ทุกเหรียญ ซึ่งจะน้อยลงไปเรื่อยๆในบล็อคท้ายๆ

    ส่วนที่พื้นเหรียญด้านหลังบริเวณฐานด้านซ้ายของท่านท้าวเวสสุวัณจะมีทั้งที่เรียบสวย พื้นเป็นรอยพรุนผิวทรายเล็กน้อย และพื้นเป็นรอยพรุนผิวทรายมาก

    และสังเกตุตัวตัดขอบเหรียญ ซึ่งเหรียญแท้แทบจะทุกเหรียญจะเป็นรอยตัดไม่เต็มเหรียญ เหรียญท้าวเวสสุวัณทุกๆบล็อคจะมีลักษณะคล้ายๆแบบนี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นจุดตายในการดูเหรียญแท้-ไม่แท้ ที่ต้องจำให้ดี

    **********************************************************

    เหรียญท้าวเวสสุวัณที่พอจะจำแนกแยกเป็นบล็อคต่างๆ คร่าวๆได้ 7บล็อค คือ
    1) บล็อคขอบจุด
    2) บล็อคอินทนูลอย
    3) บล็อคถาวโรมีขีด
    4) บล็อคใต้จมูกจุด
    5) บล็อคหูแตก
    6) บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก
    7) บล็อคหน้ากระจก

    พุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น

    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…

    1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา
    3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ
    4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช
    5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์
    6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก
    7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ
    8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ
    ฯลฯ

    ในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…”
    นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ

    Read more
  • เหรียญ

    บล็อคถาวโรขีด__เหรียญท้าวเวสสุวัณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    บล็อคนี้ตรงคำว่า ถาวโร จะมีเส้นขีดจากขอบเหรียญลงมาที่สระอา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียก “บล็อคถาวโรมีขีด” ความแตกต่างของบล็อคนี้ คือ ที่รูปหน้าองค์หลวงพ่อจะดูแปลกตาแตกต่างจากบล็อคอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาทั้ง2ข้างของหลวงพ่อจะเรียวเล็ก ไม่รีมนเหมือนบล็อคอื่นๆ เส้นเกษาจะเป็นจุดเม็ดกลมชัดเจน ตัวหนังสือรอบเหรียญจะดูลึกเป็นเหลี่ยมเป็นแท่งมีมิติ

    ส่วนด้านหลังเหรียญ องค์ท้าวเวสสุวัณจะมีความลึกและคมชัดมาก รายละเอียดชัดเจน สวยชัดมากกว่าทุกๆพิมพ์ บริเวณเหนือหัวเขาด้านซ้ายขององค์ท้าวเวสสุวัณ จะมีเส้นขีดทำมุม45องศาชัดเจนทุกเหรียญ

    และสังเกตุตัวตัดขอบเหรียญ ซึ่งเหรียญแท้แทบจะทุกเหรียญจะเป็นรอยตัดไม่เต็มเหรียญ เหรียญท้าวเวสสุวัณทุกๆบล็อคจะมีลักษณะคล้ายๆแบบนี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นจุดตายในการดูเหรียญแท้-ไม่แท้ ที่ต้องจำให้ดี

    **********************************************************

    เหรียญท้าวเวสสุวัณที่พอจะจำแนกแยกเป็นบล็อคต่างๆ คร่าวๆได้ 7บล็อค คือ
    1) บล็อคขอบจุด
    2) บล็อคอินทนูลอย
    3) บล็อคถาวโรมีขีด
    4) บล็อคใต้จมูกจุด
    5) บล็อคหูแตก
    6) บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก
    7) บล็อคหน้ากระจก

    พุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น

    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…

    1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา
    3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ
    4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช
    5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์
    6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก
    7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ
    8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ
    ฯลฯ

    ในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…”
    นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ

    Read more
  • เหรียญ

    บล็อคหน้ากระจก__เหรียญท้าวเวสสุวัณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    หลังจากการปั๊มเหรียญมากๆเข้าไปอีกโดยไม่ได้แต่งบล็อค จากตัวบล็อคที่แตกบริเวณหูเหรียญ แตกที่บริเวณตัวหนังสือ “พระมหาวีระ ที่ระลึก…” ที่เป็นเส้นพาดยาวลงมา และแตกที่สังฆาฏิ คราวนี้แตกเพิ่มขึ้นที่บริเวณขอบเหรียญบริเวณคำว่า ลึก ซึ่งเป็นเนื้อเกินใหญ่นูนขึ้นมาชัดเจน และอีกจุดที่แตกคือ บริเวณขอบเหรียญบริเวณเลข ๒กับ เลข ๕ ซึ่งจะเป็นเนื้อเกินนูนขึ้นมาเล็กน้อย (บล็อคด้านหน้าแบบนี้ ก็มีในบางเหรียญของบล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก เหมือนกัน ซึ่งเป็นพิมพ์ท้ายๆของการปั๊มในบล็อคนั้น)

    ส่วนด้านหลังเหรียญ บริเวณใบหน้าขององค์ท้าวเวสสุวัณจะสึกเรียบ ซึ่งเกิดจากการปั๊มมากๆโดยไม่แต่งตัวบล็อค และนี่ก็เป็นที่มาของชื่อเรียก “บล็อคหน้ากระจก”

    และสังเกตุตัวตัดขอบเหรียญ ซึ่งเหรียญแท้แทบจะทุกเหรียญจะเป็นรอยตัดไม่เต็มเหรียญ เหรียญท้าวเวสสุวัณทุกๆบล็อคจะมีลักษณะคล้ายๆแบบนี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นจุดตายในการดูเหรียญแท้-ไม่แท้ ที่ต้องจำให้ดี

    **********************************************************

    เหรียญท้าวเวสสุวัณที่พอจะจำแนกแยกเป็นบล็อคต่างๆ คร่าวๆได้ 7บล็อค คือ
    1) บล็อคขอบจุด
    2) บล็อคอินทนูลอย
    3) บล็อคถาวโรมีขีด
    4) บล็อคใต้จมูกจุด
    5) บล็อคหูแตก
    6) บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก
    7) บล็อคหน้ากระจก

    พุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น

    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…

    1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา
    3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ
    4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช
    5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์
    6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก
    7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ
    8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ
    ฯลฯ

    ในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…”
    นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ

    Read more
  • เหรียญ

    บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก__เหรียญท้าวเวสสุวัณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    หลังจากการปั๊มเหรียญมากๆเข้า จากตัวบล็อคที่แตกบริเวณหูเหรียญ คราวนี้เริ่มมาแตกบริเวณตัวหนังสือ “พระมหาวีระ ที่ระลึก…” เป็นเส้นพาดยาวลงมา และบล็อคแตกอีกจุดที่บริเวณสังฆาฏิ ระหว่างเลข๕ กับ ก. ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียก “บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก” บล็อคนี้บริเวณใต้จมูกหลวงพ่อยังคงมีจุดไข่ปลาเล็กๆหนึ่งเม็ดเหมือนบล็อคจมูกจุดเหมือนเดิม แต่บริเวณตรงใต้คำว่า ฤาษี ที่มีเส้นขนแมวบางๆหลายเส้นทอดมายังศรีษะด้านซ้ายเหนือใบหูของหลวงพ่อจะมองไม่เห็นแล้ว

    ส่วนด้านหลังเหรียญทั้งองค์ท้าวเวสสุวัณและอักขระยันต์รอบๆ เหมือนบล็อคใต้จมูกจุด แต่ความคมชัดเริ่มน้อยกว่าเนื่องจากการปั๊มไปนานๆ ตัวบล็อคเริ่มสึกและตื้นมากขึ้น

    และสังเกตุตัวตัดขอบเหรียญ ซึ่งเหรียญแท้แทบจะทุกเหรียญจะเป็นรอยตัดไม่เต็มเหรียญ เหรียญท้าวเวสสุวัณทุกๆบล็อคจะมีลักษณะคล้ายๆแบบนี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นจุดตายในการดูเหรียญแท้-ไม่แท้ ที่ต้องจำให้ดี

    **********************************************************

    เหรียญท้าวเวสสุวัณที่พอจะจำแนกแยกเป็นบล็อคต่างๆ คร่าวๆได้ 7บล็อค คือ
    1) บล็อคขอบจุด
    2) บล็อคอินทนูลอย
    3) บล็อคถาวโรมีขีด
    4) บล็อคใต้จมูกจุด
    5) บล็อคหูแตก
    6) บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก
    7) บล็อคหน้ากระจก

    พุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น

    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…

    1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา
    3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ
    4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช
    5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์
    6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก
    7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ
    8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ
    ฯลฯ

    ในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…”
    นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ

    Read more
  • เหรียญ

    บล็อคหูแตก__เหรียญท้าวเวสสุวัณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    บล็อคนี้แท้จริงแล้วก็คือ บล็อคใต้จมูกจุด นั่นเอง แต่หลังจากการปั๊มเหรียญมากๆเข้า ตัวบล็อคบริเวณหูเหรียญเกิดมีรอยแตก ทำให้มีเส้นขีดจากหูเหรียญตรงมาที่ตัวสระอา ของคำว่าถาวโร ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียก “บล็อคหูแตก” บล็อคนี้บริเวณใต้จมูกหลวงพ่อยังคงมีจุดไข่ปลาเล็กๆหนึ่งเม็ดเหมือนบล็อคจมูกจุด แต่บริเวณตรงใต้คำว่า ฤาษี ที่มีเส้นขนแมวบางๆหลายเส้นทอดมายังศรีษะด้านซ้ายเหนือใบหูของหลวงพ่อจะพอเห็นลางๆในพิมพ์แรกของการปั๊ม และจะมองไม่เห็นเลยในพิมพ์ท้ายๆของการปั๊ม

    ส่วนด้านหลังเหรียญทั้งองค์ท้าวเวสสุวัณและอักขระยันต์รอบๆ ดูสวยงามเรียบร้อยดี ไม่มีรอยพรุนบริเวณฐานขององค์ท้าวเวสสุวัณ เหมือนบล็อคใต้จมูกจุด

    และสังเกตุตัวตัดขอบเหรียญ ซึ่งเหรียญแท้แทบจะทุกเหรียญจะเป็นรอยตัดไม่เต็มเหรียญ เหรียญท้าวเวสสุวัณทุกๆบล็อคจะมีลักษณะคล้ายๆแบบนี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นจุดตายในการดูเหรียญแท้-ไม่แท้ ที่ต้องจำให้ดี

    **********************************************************

    เหรียญท้าวเวสสุวัณที่พอจะจำแนกแยกเป็นบล็อคต่างๆ คร่าวๆได้ 7บล็อค คือ
    1) บล็อคขอบจุด
    2) บล็อคอินทนูลอย
    3) บล็อคถาวโรมีขีด
    4) บล็อคใต้จมูกจุด
    5) บล็อคหูแตก
    6) บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก
    7) บล็อคหน้ากระจก

    พุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น

    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…

    1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา
    3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ
    4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช
    5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์
    6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก
    7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ
    8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ
    ฯลฯ

    ในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…”
    นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ

    Read more
  • เหรียญ

    บล็อคอินธนูลอย__เหรียญท้าวเวสสุวัณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    บล็อคนี้สังเกตุตัวหนังสือรอบๆเหรียญจะดูหนากว่าบล็อคอื่นๆ และบางเหรียญของบล็อคนี้ บริเวณคำว่า ถาวโร ใต้ ถ.จะเป็นลักษณะคล้ายเนื้อนูน และมีเนื้อเกินจุดเล็กๆบริเวณขอบศรีษะหลวงพ่อค่อนไปทางซ้าย ซึ่งไม่เป็นทุกเหรียญ

    ส่วนด้านหลังเหรียญ บริเวณบ่าขององค์ท้าวเวสสุวัณ อินธนูทั้ง2ข้างจะไม่ต่อลงมาติดกับบ่าขององค์ท้าวเวสสุวัณ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียก “บล็อคอินธนูลอย” บริเวณฐานและอักขระข้างซ้ายล่างของท้าวเวสสุวัณจะมีรอยพรุนอยู่มากทุกเหรียญ

    และบล็อคนี้จะปั๊มเหรียญเนื้อเงินออกมาด้วย สร้างมาประมาณ20เหรียญ (เป็นบล็อคเดียวที่มีเหรียญเนื้อเงิน จำไว้..บล็อคอื่นๆไม่มีจัดสร้าง)

    และต้องไม่ลืมสังเกตุตัวตัดขอบเหรียญ ซึ่งเหรียญแท้แทบจะทุกเหรียญจะเป็นรอยตัดไม่เต็มเหรียญซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเหรียญปั๊มทั่วๆไป เหรียญท้าวเวสสุวัณทุกๆบล็อคจะมีลักษณะคล้ายๆแบบนี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นจุดตายในการดูเหรียญแท้-ไม่แท้ ที่ต้องจำให้ดี

    **********************************************************

    เหรียญท้าวเวสสุวัณที่พอจะจำแนกแยกเป็นบล็อคต่างๆ คร่าวๆได้ 7บล็อค คือ
    1) บล็อคขอบจุด
    2) บล็อคอินทนูลอย
    3) บล็อคถาวโรมีขีด
    4) บล็อคใต้จมูกจุด
    5) บล็อคหูแตก
    6) บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก
    7) บล็อคหน้ากระจก

    พุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น

    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…

    1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา
    3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ
    4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช
    5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์
    6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก
    7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ
    8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ
    ฯลฯ

    ในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…”
    นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ

    Read more
  • เหรียญ

    บล็อคใต้จมูกจุด__เหรียญท้าวเวสสุวัณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    บล็อคนี้บริเวณใต้จมูกของหลวงพ่อจะมีจุดไข่ปลาเล็กๆหนึ่งเม็ด ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียก “บล็อคใต้จมูกจุด” และตรงใต้คำว่า ฤาษี จะมีเส้นขนแมวบางๆหลายเส้นทอดมายังศรีษะด้านซ้ายเหนือใบหูของหลวงพ่อ

    ส่วนด้านหลังเหรียญทั้งองค์ท้าวเวสสุวัณและอักขระยันต์รอบๆ บล็อคนี้จะดูสวยงามเรียบร้อยดี ไม่มีรอยพรุนบริเวณฐานขององค์ท้าวเวสสุวัณ

    และสังเกตุตัวตัดขอบเหรียญ ซึ่งเหรียญแท้แทบจะทุกเหรียญจะเป็นรอยตัดไม่เต็มเหรียญ เหรียญท้าวเวสสุวัณทุกๆบล็อคจะมีลักษณะคล้ายๆแบบนี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นจุดตายในการดูเหรียญแท้-ไม่แท้ ที่ต้องจำให้ดี

    **********************************************************

    เหรียญท้าวเวสสุวัณที่พอจะจำแนกแยกเป็นบล็อคต่างๆ คร่าวๆได้ 7บล็อค คือ
    1) บล็อคขอบจุด
    2) บล็อคอินทนูลอย
    3) บล็อคถาวโรมีขีด
    4) บล็อคใต้จมูกจุด
    5) บล็อคหูแตก
    6) บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก
    7) บล็อคหน้ากระจก

    พุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น

    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…

    1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา
    3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ
    4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช
    5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์
    6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก
    7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ
    8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ
    ฯลฯ

    ในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…”
    นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ

    Read more
  • พระยอดนิยม เหรียญ

    รวมพระชุดเนื้อเงิน รุ่นต่างๆของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    รวมชุดเนื้อเงิน รุ่นต่างๆที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สร้างเอาไว้

    1) สมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 เนื้อเงิน
    2) สมเด็จองค์ปฐม ยันกลับ เนื้อเงิน
    3) รูปหล่อหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา พิมพ์ใหญ่ เนื้อเงิน
    4) รูปหล่อหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา พิมพ์เล็ก เนื้อเงิน
    5) แผ่นยันต์พระพุทธ เนื้อเงิน
    6) เหรียญท้าวเวสสุวัณ เนื้อเงิน
    7) เหรียญของขวัญวันเกิด เนื้อเงิน
    8) เหรียญใบโพธิ์ เนื้อเงิน
    9) รูปหล่อหลวงพ่อ รุ่นพระราชพรหมยาน เนื้อเงิน
    10) เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ เนื้อเงิน
    11) เหรียญมหาลาภ ปี30 เนื้อเงิน
    12) แผ่นยันต์ตะกรุดเมฯ เนื้อเงิน
    13) แผ่นยันต์ทำน้ำมนต์ใหญ่ เนื้อเงิน

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญ2หน้า สามัคคีมีสุข-กูผู้ชนะ เลี่ยมผ้ายันต์ธงพิชัยสงคราม (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    หลวงพ่อได้สร้างเหรียญสามัคคีมีสุข-กูผู้ชนะ ด้านหลังเป็นรูปพระเจ้าตากสินทรงม้า เนื้อโลหะรมดำ เมื่อวันวิสาขบูชา ที่ 21 พฤษภาคม 2521 และได้สร้างเหรียญนี้อีกครั้งเมื่อเดือนเมษายน ปี2528 แต่ทำเป็นโลหะสีทอง และได้นำมาประกบหน้า-หลัง เลี่ยมพลาสติกกันน้ำพร้อมผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงครามแบบเดิมๆออกจากวัด ซึ่งผ้ายันต์นี้เป็นยันต์ที่อยู่บนยอดธงออกรบสมัยโบราณ ตำราวิชานี้เป็นตำราพระร่วงที่หลวงพ่อเราสืบทอดมาเป็นท่านสุดท้าย..ถึงแม้ท่านอื่นนำไปทำผลมากที่สุดจะแค่ 10% เท่านั้นท่านบอกไว้

    ***************************************************************************

    เรื่องเล่าอานุภาพ ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม

    ในสมัยนั้นผกค.มีอิทธิพลสูง ได้ยึดเทือกเขาภูพานเป็นฐานใหญ่ของเขา และยังท้าทายฝ่ายทหารว่า หากจะตีเขาได้จะต้องใช้กำลังหลายกองพล และใช้เวลาหลายเดือนจึงจะสำเร็จ พล.ต.ยุทธศิลป์ เกสรสุข (ยศในขณะนั้นปัจจุบันมียศพล.ท.) ซึ่งเป็นรองแม่ทัพ จึงนำเรื่องนี้มากราบเรียนหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านเป็นพระ จะไปรบกับเขาก็ไม่สมควร แต่ท่านก็มีวิธีช่วยเป็นกำลังใจให้กับทหารได้ดังนี้

    ๑. ท่านเดินทางไปพร้อมกับคณะ เพื่อทำพิธีบวงสรวงก่อนที่ฐานทัพของทหาร
    ๒. แจกผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม ให้กับทหารในหน่วยนั้นทุกคน (ผ้ายันต์สีแดง)
    ๓. ให้ฤกษ์แก่ฝ่ายทหาร ทั้งนี้หมายถึงให้ฤกษ์ดีว่าเป็นมงคล ไม่ได้ระบุให้เข้าไปตีกันรบกัน เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่วนเขาจะไปทำอะไรกันนั้น พระท่านต้องอุเบกขา

    ผมจำได้ว่า หลวงพ่อทำพิธีตั้งแต่เช้ามาก เพราะจากรูปถ่ายที่ นาวาตรีประชา สิกขวานิช ร.น.ถ่ายไว้ ปรากฏพุทธนิมิตเป็นฉัตร ๕ ชั้น ทอดมาตามแสงแดดครอบคลุมองค์หลวงพ่อเท่านั้น ยังทำมุมน้อยมาก (มีรูปถ่ายอยู่ที่บ้านสายลม และที่วัดท่าซุง) หลังพิธีแล้ว ฝ่ายทหารก็นำหลวงพ่อ หลวงปู่ครูบาธรรมชัย และคณะเข้าห้องยุทธการ เพื่อฟังบรรยายสรุปของฝ่ายทหาร เมื่อบรรยายจบปรากฏว่ามีนายทหารที่ฉลาดถามได้ถามหลวงพ่อกับหลวงปู่ว่า ขณะนี้พวกผกค.เขาอยู่ที่ไหนบ้าง โดยให้ท่านเอาไม้เท้าช่วยชี้ไปในแผนที่ทหาร ปรากฏว่าท่านชี้จุดให้ทันทีทันใด โดยไม่ต้องคิดหรือต้องเสียเวลา เหล่าทหารต่างร้องอือพร้อม ๆ กันหลายคน และบอกว่าตรงจุดเป๋งเลยครับหลวงพ่อ บางคนไม่ฉลาดถามก็ถามวิธีเข้าโจมตี หลวงพ่อท่านก็ปฏิเสธเพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่วนวิธีถามที่ฉลาดผมขอสงวนไว้ก่อนครับ จากนั้นก็คุยกันในเรื่องอื่น ๆ ผมฟังไป ๆ คงจะตื่นเต้นมาก เลยเกิดทุกข์หนัก ต้องขอตัวขอเวลานอกไปพิจารณาทุกข์ที่ห้องสุขา และผมคงจะพิจารณาทุกข์ ขณะกำลังบรรเทาทุกข์แล้วมีผล คือ เห็นอริยสัจ เพราะธรรมะของพระองค์ท่านแนะนำวิธีปฏิบัติไว้ชัดว่าให้ปฏิบัติตลอดเวลาทุกเวลา ทุกโอกาส ทุกสถานที่ และทุกอิริยาบถ คือ เป็นอกาลิโก ผมก็ปฏิบัติตามท่านอย่างเพลิดเพลิน พอจบภารกิจส่วนตัวของผมแล้ว ก็ออกมารีบเดินเข้าห้องยุทธการ ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคนเดียว ชักใจไม่ดีรีบวิ่งออกมาข้างนอก ก็ปรากฏว่ารถหลวงพ่อและคณะหายไป ไม่พบใครสักคนเลย หันรีหันขวางอยู่ บังเอิญมีนายทหารท่านหนึ่งท่านจำผมได้ เห็นผมจึงถามว่าคุณมากับหลวงพ่อใช่ไหม ผมก็ตอบว่าใช่ครับ ทหารผู้นั้นก็บอกว่าหลวงพ่อกับคณะไปนานแล้ว คุณไปอยู่ที่ไหนมา ก็ตอบไปว่าอยู่ในห้องน้ำครับ ท้องมันไม่ค่อยดี ขณะนั้นผมเองรู้สึกเง็งไปหมด (ไม่ใช่งง เพราะมันเป็นความรู้สึกที่เกินกว่างง) แต่เคราะห์ยังดีที่ นายทหารท่านนั้นช่วยแก้สถานการณ์ให้ทันควัน โดยส่งรถจิ๊ปเล็ก พร้อมคนขับให้ผมกระโดดขึ้นพร้อมกับท่านรีบบึ่งตามคณะหลวงพ่อไปจนทัน การปฏิบัติธรรมของผมเป็นที่ครื้นเครงของพวกเราทุก ๆ คนที่ได้หัวเราะกันจนฉี่จะออก

    หลังจากที่หลวงพ่อและคณะได้เยี่ยมให้กำลังใจกับทหารตามหน่วยต่าง ๆ แล้วก็กลับไปกทม. และจากนั้นอีกไม่กี่วัน พล.ต.ยุทธศิลป์ ก็สั่งทหารแค่หนึ่งกองร้อยเข้าโจมตีที่มั่นของผกค.เป็นการหยั่งเชิง โดยมีตัวท่านเป็นผู้สั่งการอยู่ข้างบนเครื่องบิน ผลปรากฏว่าดีมากเกินคาดหมาย แต่มีรายงานจากวิทยุว่ามี ทหารเสียชีวิต ๑ นาย ท่านเกิดสงสัยว่ามันตายได้อย่างไร เพราะท่านมั่นใจว่า ทหารของท่านต้องไม่มีใครตาย ท่านให้แค่บาดเจ็บเท่านั้น จึงสั่งลงมาจากเครื่องบินให้ค้นตัวทหารที่ตายว่า พบอะไรติดตัวบ้าง โดยเฉพาะผ้ายันต์แดงธงมหาพิชัยสงคราม ทหารก็รายงานว่าไม่พบผ้ายันต์แดงเลยในตัว ท่านรู้สึกผิดหวังมากที่เขาไม่พกเอาผ้ายันต์แดงแดงไปด้วยทั้ง ๆ ที่สั่งแล้ว เมื่อถอนตัวกลับฐานทัพ ก็สอบข้อเท็จจริงเรื่องพลทหารที่ตายว่าชื่ออะไร อยู่หน่วยไหน ทำไมจึงไม่มีผ้ายันต์สีแดง ก็พบว่าเป็นทหารที่เพิ่งย้ายกลับเข้ามาเมื่อวานนี้เอง จากหน่วยทหารราชบุรี (อ.ปากห่อ) ท่านจึงถึงบางอ้อ

    วันที่สอง ท่านเพิ่มหน่วยจู่โจมเป็นสองกองร้อย ผลปรากฏว่ามีตาย ๒ คน และก็มีสาเหตุจากไม่มีผ้ายันต์แดงติดตัวเช่นกัน เพราะเพิ่งย้ายเข้ามาจากหน่วยอื่นความลับไม่มีในโลกทั่วทั้งกองทัพรู้ข่าวรู้อิทธิปาฏิหาริย์ของผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงครามกันหมด ผลก็คือ ทหารทุกคนที่ไม่มีผ้ายันต์ สีแดง จะไม่ยอมออกโจมตีในวันต่อไป จึงเดือดร้อนถึงท่านรองแม่ทัพ ดังนั้น เพื่อขวัญและกำลังใจของลูกน้อง ท่านรองจึงต้องบินมาหาหลวงพ่อในคืนนั้นเพื่อขอผ้ายันต์แดงไปแจกลูกน้องให้ครบทุกคน

    วันที่ ๓ ทุกคนมีขวัญและกำลังใจเต็ม ๑๐๐% ใช้กำลังเป็น ๓ กองร้อย ปรากฏผลว่าสามารถยึดฐานใหญ่และฐานย่อยของภูพานได้ทั้งหมดชนิดที่ผกค. ขวัญกระเจิงไม่ยอมสู้ด้วย เพราะวันที่ ๓ นี้ทหารทุกคนถือปืนวิ่งเข้ายึดฐานโดยไม่มีใครยอมหมอบ หรือวิ่งเข้าหาที่กำบังเหมือน ๒ วันแรก ทุกคนดาหน้าเข้ายึดเอาดื้อ ๆ โดยไม่กลัว ไม่ยอมหลบลูกปืนสักคน จึงยึดได้ด้วยเวลาอันสั้น และไม่มีใครเสียชีวิตเลย ผมนึกภาพเอาเองนะครับว่า หากผมเป็นผกค. ผมก็คงต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด เพราะยิงเท่าใดก็ไม่โดนตัว หรือโดนก็ไม่เข้าคงดาหน้าเข้ามาเต็มไปหมด เหมือนกับยิงทหารที่ทำจากหุ่น (เหมือนในสมัยขุนแผน ท่านเป็นแม่ทัพเสกหุ่นให้เป็นทหารรบที่ไหนก็ชนะหมด) พอหลวงพ่อท่านทราบข่าวจากท่านรองแม่ทัพ ท่านพร้อมคณะไปเยี่ยมทหารหน่วยนั้นในวันต่อมา

    หลังจากได้คุยกับทหารหน่วยพิเศษนี้แล้ว ผมพอจะสรุปผลย่อ ๆ ได้ดังนี้
    ๑. ขณะที่ฝ่าย ผกค.ยิงปืนเข้าใส่พวกเรานั้น ส่วนใหญ่บอกว่าไม่โดนแต่เฉี่ยวหรือเฉียดตัวไป รู้สึกว่าลูกปืนมันวิ่งมาเต็มไปหมด แต่ไม่ยักโดนตัว
    ๒. บางคนบอกว่า บางครั้งก็โดน แต่ไม่เข้า ไม่รู้สึกเจ็บ มีความรู้สึกคล้าย ๆ มีแมลงหรือผึ้งบินมาชนตัวเท่านั้น
    ๓. มีอยู่ ๑ ราย ที่เล่าว่าขณะที่เดินไปบ้าง วิ่งไปบ้าง ยิ่งปืนใส่ข้าศึกบ้าง รู้สึกหิวจึงเอามือล้วงมาม่า (เส้นหมี่) กินไปด้วย แต่แปลกใจว่าทำไมมาม่ามันถึงแข็งและเหนี่ยวนัก เลยคายออกมาจากปากดู ปรากฏว่ามันไม่ใช่มาม่า แต่เป็นลูกปืนที่ข้าศึกยิงมาโดนตัวแต่ไม่เข้า ลูกกระสุนแบนเหมือนถูกบี้ แล้วจึงหล่นลงไปในกระเป๋าเสื้อที่มีมาม่าอยู่
    ๔. บางคนเล่าว่า ขณะวิ่งไปยิงไปนั้น บางครั้งก็มองเห็นข้าศึกที่ซุ่มอยู่ข้างทาง แต่มันไม่ยักยิง เห็นตามันค้างคล้ายกับหุ่นหรือคนตกใจ ข้อนี้ขออนุญาตวิจารณ์ว่าคงเป็นอานุภาพของผ้ายันต์แดง ทำให้เกิดอาการ นะจังงังขึ้น หรือเพราะมันตกใจจริง ๆ ที่ไม่เคยเห็นคนที่ไม่ยอมหลบลูกปืน จึงมีสภาพคล้ายเห็นผี แล้วตกใจตาค้าง
    ๕. เรายึดได้ฐานใหญ่มากจนไม่น่าเชื่อ เพราะฐานนี้มีทั้งร.พ.และเวชภัณฑ์มากมาย มีโรงพละศึกษา, สนามบาส, โรงครัวขนาดใหญ่พร้อมเสบียงกินได้เป็นปี, อาวุธมากมาย, เครื่องปั่นไฟและน้ำมัน โดยเฉพาะราวตากผ้า ท่านรองแม่ทัพบอกว่าต้องใส่รถ ๑๐ ล้อทั้งคันอาจจะขนไม่หมด แสดงว่ามันมีกำลังพลไม่ใช่น้อยเกินกว่าที่เราคาดคะเนไว้อีก และมีการทดน้ำไว้ใช้ด้วย แสดงว่าเขาอยู่มานานหลายปี
    ๖. เนื่องจากเราใช้กำลังพลน้อยแค่ ๓ กองร้อย หากจะยึดพื้นที่ไว้ก็เสี่ยงเกินไปเพราะตอนกลางคืน มันอาจหวนกลับมาใหม่ก็ได้ จึงสั่งทำลายและเผาให้หมด สำหรับผมคิดเอาเองว่าหากผมเป็นผกค. ก็ไม่ขอยอมหันหลังกลับมาตียึดคืนแน่ ๆ เพราะเข็ดไปจนตาย จะไม่ขอพบทหารผี (ทหารหุ่น) เหล่านี้อีก
    ๗. เป็นจริงตามคาดหมาย เพราะตั้งแต่ครั้งนั้นเป็นตันมา ผกค.ก็หายซ่าไปเลย

    เรื่องของหลวงพ่อท่าน ยังมีอีกมาก ยากที่ผมจะเล่าให้ฟังหมดได้ และโดยธรรมแล้ว อะไรก็ตามที่มันมากเกินไป ผลมันแทนที่จะมากตามส่วนกลับไม่ได้ผลหรือกลับเป็นผลเสีย เช่น ยาทุกชนิด หากใช้เกินขนาดล้วนเป็นโทษแก่ผู้ใช้ทั้งสิ้น ร่างกายของคนก็เช่นกัน หากส่วนใดเจริญมากไป ก็กลายเป็นมะเร็ง สมจริงตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่ตรัสไว้ใน ปฐมเทศนาความว่าอย่าตึงไป (เครียดเกินไป) อย่าหย่อนไป (อยากมากเกินไป,ขี้เกียจมากไป) จะไม่มีผล ให้เดินสายกลาง ผมจึงต้องขอจบเรื่องไว้อีกตอนหนึ่งเพียงแค่นี้ แต่ก่อนจะจบ ขอสรุปเรื่องผ้ายันต์แดงธงมหาพิชัยสงครามไว้ เพื่อเตือนความจำ ดังนี้

    ๑. ความศักดิ์สิทธิ์ของธงมหาพิชัยสงครามมีมากมาย เขียนอีก ๒-๓ ตอนก็ไม่จบ ที่เล่าให้ฟังนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างบางเรื่องเท่านั้น
    ๒. ผู้นำไปใช้หากนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น เป็นโจรปล้น-ฆ่าเขา-ขโมยเขา ธงนี้จะไม่คุ้มครอง ซ้ำยังให้ผลร้ายกับผู้นั้นด้วย หากถูกยิงลูกปืนจะเข้าแสกหน้าทะลุออกท้ายทอยทุกราย
    ๓. ธงมหาพิชัยสงครามไม่ใช่ไสยศาสตร์ แต่เป็นพุทธศาสตร์ จึงไม่เสื่อม (หากใช้ในทางที่ดี)
    ๔. เวลาทำพิธีพุทธาภิเษกนั้น ธงแดงมหาพิชัยสงครามกับผ้ายันต์เกราะเพชรนั้น ทำเหมือนกัน มีคุณภาพเหมือนกันทุกประการ ใช้แทนกันได้
    ๕. เรื่องป้องกันหรือบรรเทาอุบัติเหตุไฟไหม้บ้าน, พายุใหญ่ หรือวาตภัย มีผู้เล่าให้ฟังเสมอว่ามีผลดีอย่างอัศจรรย์ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ต้องอธิษฐานขอ และผลขึ้นอยู่ที่ความมั่นคงของจิตของแต่ละคนด้วย…สาธุ

    :เหตุการณ์ระหว่างปี ๒๕๑๘-๒๕๒๐ เล่าโดยพล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวนคัดบางตอนจากหนังสือ ลูกศิษย์บันทึก

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญ2หน้า สามัคคีมีสุข-ไพรีพินาศ เลี่ยมผ้ายันต์ธงพิชัยสงคราม (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    หลวงพ่อได้สร้างเหรียญสามัคคีมีสุข-กูผู้ชนะ ด้านหลังเป็นรูปพระเจ้าตากสินทรงม้า เนื้อโลหะรมดำ เมื่อวันวิสาขบูชา ที่ 21 พฤษภาคม 2521 และได้สร้างเหรียญนี้อีกครั้งเมื่อเดือนเมษายน ปี2528 แต่ทำเป็นโลหะสีทอง และได้นำมาประกบหน้า-หลังกับเหรียญหน้าเดียวไพรีพินาศ เลี่ยมพลาสติกกันน้ำพร้อมผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม ซึ่งเป็นยันต์ที่อยู่บนยอดธงออกรบสมัยโบราณ ตำราวิชานี้เป็นตำราพระร่วงที่หลวงพ่อเราสืบทอดมาเป็นท่านสุดท้าย..ถึงแม้ท่านอื่นนำไปทำผลมากที่สุดจะแค่ 10% เท่านั้นท่านบอกไว้

    ***************************************************************************

    เรื่องเล่าอานุภาพ ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม

    ในสมัยนั้นผกค.มีอิทธิพลสูง ได้ยึดเทือกเขาภูพานเป็นฐานใหญ่ของเขา และยังท้าทายฝ่ายทหารว่า หากจะตีเขาได้จะต้องใช้กำลังหลายกองพล และใช้เวลาหลายเดือนจึงจะสำเร็จ พล.ต.ยุทธศิลป์ เกสรสุข (ยศในขณะนั้นปัจจุบันมียศพล.ท.) ซึ่งเป็นรองแม่ทัพ จึงนำเรื่องนี้มากราบเรียนหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านเป็นพระ จะไปรบกับเขาก็ไม่สมควร แต่ท่านก็มีวิธีช่วยเป็นกำลังใจให้กับทหารได้ดังนี้

    ๑. ท่านเดินทางไปพร้อมกับคณะ เพื่อทำพิธีบวงสรวงก่อนที่ฐานทัพของทหาร
    ๒. แจกผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม ให้กับทหารในหน่วยนั้นทุกคน (ผ้ายันต์สีแดง)
    ๓. ให้ฤกษ์แก่ฝ่ายทหาร ทั้งนี้หมายถึงให้ฤกษ์ดีว่าเป็นมงคล ไม่ได้ระบุให้เข้าไปตีกันรบกัน เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่วนเขาจะไปทำอะไรกันนั้น พระท่านต้องอุเบกขา

    ผมจำได้ว่า หลวงพ่อทำพิธีตั้งแต่เช้ามาก เพราะจากรูปถ่ายที่ นาวาตรีประชา สิกขวานิช ร.น.ถ่ายไว้ ปรากฏพุทธนิมิตเป็นฉัตร ๕ ชั้น ทอดมาตามแสงแดดครอบคลุมองค์หลวงพ่อเท่านั้น ยังทำมุมน้อยมาก (มีรูปถ่ายอยู่ที่บ้านสายลม และที่วัดท่าซุง) หลังพิธีแล้ว ฝ่ายทหารก็นำหลวงพ่อ หลวงปู่ครูบาธรรมชัย และคณะเข้าห้องยุทธการ เพื่อฟังบรรยายสรุปของฝ่ายทหาร เมื่อบรรยายจบปรากฏว่ามีนายทหารที่ฉลาดถามได้ถามหลวงพ่อกับหลวงปู่ว่า ขณะนี้พวกผกค.เขาอยู่ที่ไหนบ้าง โดยให้ท่านเอาไม้เท้าช่วยชี้ไปในแผนที่ทหาร ปรากฏว่าท่านชี้จุดให้ทันทีทันใด โดยไม่ต้องคิดหรือต้องเสียเวลา เหล่าทหารต่างร้องอือพร้อม ๆ กันหลายคน และบอกว่าตรงจุดเป๋งเลยครับหลวงพ่อ บางคนไม่ฉลาดถามก็ถามวิธีเข้าโจมตี หลวงพ่อท่านก็ปฏิเสธเพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่วนวิธีถามที่ฉลาดผมขอสงวนไว้ก่อนครับ จากนั้นก็คุยกันในเรื่องอื่น ๆ ผมฟังไป ๆ คงจะตื่นเต้นมาก เลยเกิดทุกข์หนัก ต้องขอตัวขอเวลานอกไปพิจารณาทุกข์ที่ห้องสุขา และผมคงจะพิจารณาทุกข์ ขณะกำลังบรรเทาทุกข์แล้วมีผล คือ เห็นอริยสัจ เพราะธรรมะของพระองค์ท่านแนะนำวิธีปฏิบัติไว้ชัดว่าให้ปฏิบัติตลอดเวลาทุกเวลา ทุกโอกาส ทุกสถานที่ และทุกอิริยาบถ คือ เป็นอกาลิโก ผมก็ปฏิบัติตามท่านอย่างเพลิดเพลิน พอจบภารกิจส่วนตัวของผมแล้ว ก็ออกมารีบเดินเข้าห้องยุทธการ ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคนเดียว ชักใจไม่ดีรีบวิ่งออกมาข้างนอก ก็ปรากฏว่ารถหลวงพ่อและคณะหายไป ไม่พบใครสักคนเลย หันรีหันขวางอยู่ บังเอิญมีนายทหารท่านหนึ่งท่านจำผมได้ เห็นผมจึงถามว่าคุณมากับหลวงพ่อใช่ไหม ผมก็ตอบว่าใช่ครับ ทหารผู้นั้นก็บอกว่าหลวงพ่อกับคณะไปนานแล้ว คุณไปอยู่ที่ไหนมา ก็ตอบไปว่าอยู่ในห้องน้ำครับ ท้องมันไม่ค่อยดี ขณะนั้นผมเองรู้สึกเง็งไปหมด (ไม่ใช่งง เพราะมันเป็นความรู้สึกที่เกินกว่างง) แต่เคราะห์ยังดีที่ นายทหารท่านนั้นช่วยแก้สถานการณ์ให้ทันควัน โดยส่งรถจิ๊ปเล็ก พร้อมคนขับให้ผมกระโดดขึ้นพร้อมกับท่านรีบบึ่งตามคณะหลวงพ่อไปจนทัน การปฏิบัติธรรมของผมเป็นที่ครื้นเครงของพวกเราทุก ๆ คนที่ได้หัวเราะกันจนฉี่จะออก

    หลังจากที่หลวงพ่อและคณะได้เยี่ยมให้กำลังใจกับทหารตามหน่วยต่าง ๆ แล้วก็กลับไปกทม. และจากนั้นอีกไม่กี่วัน พล.ต.ยุทธศิลป์ ก็สั่งทหารแค่หนึ่งกองร้อยเข้าโจมตีที่มั่นของผกค.เป็นการหยั่งเชิง โดยมีตัวท่านเป็นผู้สั่งการอยู่ข้างบนเครื่องบิน ผลปรากฏว่าดีมากเกินคาดหมาย แต่มีรายงานจากวิทยุว่ามี ทหารเสียชีวิต ๑ นาย ท่านเกิดสงสัยว่ามันตายได้อย่างไร เพราะท่านมั่นใจว่า ทหารของท่านต้องไม่มีใครตาย ท่านให้แค่บาดเจ็บเท่านั้น จึงสั่งลงมาจากเครื่องบินให้ค้นตัวทหารที่ตายว่า พบอะไรติดตัวบ้าง โดยเฉพาะผ้ายันต์แดงธงมหาพิชัยสงคราม ทหารก็รายงานว่าไม่พบผ้ายันต์แดงเลยในตัว ท่านรู้สึกผิดหวังมากที่เขาไม่พกเอาผ้ายันต์แดงแดงไปด้วยทั้ง ๆ ที่สั่งแล้ว เมื่อถอนตัวกลับฐานทัพ ก็สอบข้อเท็จจริงเรื่องพลทหารที่ตายว่าชื่ออะไร อยู่หน่วยไหน ทำไมจึงไม่มีผ้ายันต์สีแดง ก็พบว่าเป็นทหารที่เพิ่งย้ายกลับเข้ามาเมื่อวานนี้เอง จากหน่วยทหารราชบุรี (อ.ปากห่อ) ท่านจึงถึงบางอ้อ

    วันที่สอง ท่านเพิ่มหน่วยจู่โจมเป็นสองกองร้อย ผลปรากฏว่ามีตาย ๒ คน และก็มีสาเหตุจากไม่มีผ้ายันต์แดงติดตัวเช่นกัน เพราะเพิ่งย้ายเข้ามาจากหน่วยอื่นความลับไม่มีในโลกทั่วทั้งกองทัพรู้ข่าวรู้อิทธิปาฏิหาริย์ของผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงครามกันหมด ผลก็คือ ทหารทุกคนที่ไม่มีผ้ายันต์ สีแดง จะไม่ยอมออกโจมตีในวันต่อไป จึงเดือดร้อนถึงท่านรองแม่ทัพ ดังนั้น เพื่อขวัญและกำลังใจของลูกน้อง ท่านรองจึงต้องบินมาหาหลวงพ่อในคืนนั้นเพื่อขอผ้ายันต์แดงไปแจกลูกน้องให้ครบทุกคน

    วันที่ ๓ ทุกคนมีขวัญและกำลังใจเต็ม ๑๐๐% ใช้กำลังเป็น ๓ กองร้อย ปรากฏผลว่าสามารถยึดฐานใหญ่และฐานย่อยของภูพานได้ทั้งหมดชนิดที่ผกค. ขวัญกระเจิงไม่ยอมสู้ด้วย เพราะวันที่ ๓ นี้ทหารทุกคนถือปืนวิ่งเข้ายึดฐานโดยไม่มีใครยอมหมอบ หรือวิ่งเข้าหาที่กำบังเหมือน ๒ วันแรก ทุกคนดาหน้าเข้ายึดเอาดื้อ ๆ โดยไม่กลัว ไม่ยอมหลบลูกปืนสักคน จึงยึดได้ด้วยเวลาอันสั้น และไม่มีใครเสียชีวิตเลย ผมนึกภาพเอาเองนะครับว่า หากผมเป็นผกค. ผมก็คงต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด เพราะยิงเท่าใดก็ไม่โดนตัว หรือโดนก็ไม่เข้าคงดาหน้าเข้ามาเต็มไปหมด เหมือนกับยิงทหารที่ทำจากหุ่น (เหมือนในสมัยขุนแผน ท่านเป็นแม่ทัพเสกหุ่นให้เป็นทหารรบที่ไหนก็ชนะหมด) พอหลวงพ่อท่านทราบข่าวจากท่านรองแม่ทัพ ท่านพร้อมคณะไปเยี่ยมทหารหน่วยนั้นในวันต่อมา

    หลังจากได้คุยกับทหารหน่วยพิเศษนี้แล้ว ผมพอจะสรุปผลย่อ ๆ ได้ดังนี้
    ๑. ขณะที่ฝ่าย ผกค.ยิงปืนเข้าใส่พวกเรานั้น ส่วนใหญ่บอกว่าไม่โดนแต่เฉี่ยวหรือเฉียดตัวไป รู้สึกว่าลูกปืนมันวิ่งมาเต็มไปหมด แต่ไม่ยักโดนตัว
    ๒. บางคนบอกว่า บางครั้งก็โดน แต่ไม่เข้า ไม่รู้สึกเจ็บ มีความรู้สึกคล้าย ๆ มีแมลงหรือผึ้งบินมาชนตัวเท่านั้น
    ๓. มีอยู่ ๑ ราย ที่เล่าว่าขณะที่เดินไปบ้าง วิ่งไปบ้าง ยิ่งปืนใส่ข้าศึกบ้าง รู้สึกหิวจึงเอามือล้วงมาม่า (เส้นหมี่) กินไปด้วย แต่แปลกใจว่าทำไมมาม่ามันถึงแข็งและเหนี่ยวนัก เลยคายออกมาจากปากดู ปรากฏว่ามันไม่ใช่มาม่า แต่เป็นลูกปืนที่ข้าศึกยิงมาโดนตัวแต่ไม่เข้า ลูกกระสุนแบนเหมือนถูกบี้ แล้วจึงหล่นลงไปในกระเป๋าเสื้อที่มีมาม่าอยู่
    ๔. บางคนเล่าว่า ขณะวิ่งไปยิงไปนั้น บางครั้งก็มองเห็นข้าศึกที่ซุ่มอยู่ข้างทาง แต่มันไม่ยักยิง เห็นตามันค้างคล้ายกับหุ่นหรือคนตกใจ ข้อนี้ขออนุญาตวิจารณ์ว่าคงเป็นอานุภาพของผ้ายันต์แดง ทำให้เกิดอาการ นะจังงังขึ้น หรือเพราะมันตกใจจริง ๆ ที่ไม่เคยเห็นคนที่ไม่ยอมหลบลูกปืน จึงมีสภาพคล้ายเห็นผี แล้วตกใจตาค้าง
    ๕. เรายึดได้ฐานใหญ่มากจนไม่น่าเชื่อ เพราะฐานนี้มีทั้งร.พ.และเวชภัณฑ์มากมาย มีโรงพละศึกษา, สนามบาส, โรงครัวขนาดใหญ่พร้อมเสบียงกินได้เป็นปี, อาวุธมากมาย, เครื่องปั่นไฟและน้ำมัน โดยเฉพาะราวตากผ้า ท่านรองแม่ทัพบอกว่าต้องใส่รถ ๑๐ ล้อทั้งคันอาจจะขนไม่หมด แสดงว่ามันมีกำลังพลไม่ใช่น้อยเกินกว่าที่เราคาดคะเนไว้อีก และมีการทดน้ำไว้ใช้ด้วย แสดงว่าเขาอยู่มานานหลายปี
    ๖. เนื่องจากเราใช้กำลังพลน้อยแค่ ๓ กองร้อย หากจะยึดพื้นที่ไว้ก็เสี่ยงเกินไปเพราะตอนกลางคืน มันอาจหวนกลับมาใหม่ก็ได้ จึงสั่งทำลายและเผาให้หมด สำหรับผมคิดเอาเองว่าหากผมเป็นผกค. ก็ไม่ขอยอมหันหลังกลับมาตียึดคืนแน่ ๆ เพราะเข็ดไปจนตาย จะไม่ขอพบทหารผี (ทหารหุ่น) เหล่านี้อีก
    ๗. เป็นจริงตามคาดหมาย เพราะตั้งแต่ครั้งนั้นเป็นตันมา ผกค.ก็หายซ่าไปเลย

    เรื่องของหลวงพ่อท่าน ยังมีอีกมาก ยากที่ผมจะเล่าให้ฟังหมดได้ และโดยธรรมแล้ว อะไรก็ตามที่มันมากเกินไป ผลมันแทนที่จะมากตามส่วนกลับไม่ได้ผลหรือกลับเป็นผลเสีย เช่น ยาทุกชนิด หากใช้เกินขนาดล้วนเป็นโทษแก่ผู้ใช้ทั้งสิ้น ร่างกายของคนก็เช่นกัน หากส่วนใดเจริญมากไป ก็กลายเป็นมะเร็ง สมจริงตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่ตรัสไว้ใน ปฐมเทศนาความว่าอย่าตึงไป (เครียดเกินไป) อย่าหย่อนไป (อยากมากเกินไป,ขี้เกียจมากไป) จะไม่มีผล ให้เดินสายกลาง ผมจึงต้องขอจบเรื่องไว้อีกตอนหนึ่งเพียงแค่นี้ แต่ก่อนจะจบ ขอสรุปเรื่องผ้ายันต์แดงธงมหาพิชัยสงครามไว้ เพื่อเตือนความจำ ดังนี้

    ๑. ความศักดิ์สิทธิ์ของธงมหาพิชัยสงครามมีมากมาย เขียนอีก ๒-๓ ตอนก็ไม่จบ ที่เล่าให้ฟังนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างบางเรื่องเท่านั้น
    ๒. ผู้นำไปใช้หากนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น เป็นโจรปล้น-ฆ่าเขา-ขโมยเขา ธงนี้จะไม่คุ้มครอง ซ้ำยังให้ผลร้ายกับผู้นั้นด้วย หากถูกยิงลูกปืนจะเข้าแสกหน้าทะลุออกท้ายทอยทุกราย
    ๓. ธงมหาพิชัยสงครามไม่ใช่ไสยศาสตร์ แต่เป็นพุทธศาสตร์ จึงไม่เสื่อม (หากใช้ในทางที่ดี)
    ๔. เวลาทำพิธีพุทธาภิเษกนั้น ธงแดงมหาพิชัยสงครามกับผ้ายันต์เกราะเพชรนั้น ทำเหมือนกัน มีคุณภาพเหมือนกันทุกประการ ใช้แทนกันได้
    ๕. เรื่องป้องกันหรือบรรเทาอุบัติเหตุไฟไหม้บ้าน, พายุใหญ่ หรือวาตภัย มีผู้เล่าให้ฟังเสมอว่ามีผลดีอย่างอัศจรรย์ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ต้องอธิษฐานขอ และผลขึ้นอยู่ที่ความมั่นคงของจิตของแต่ละคนด้วย…สาธุ

    :เหตุการณ์ระหว่างปี ๒๕๑๘-๒๕๒๐ เล่าโดยพล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวนคัดบางตอนจากหนังสือ ลูกศิษย์บันทึก

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญ2หน้า หลวงปู่ปานผูกพัทธสีมาเลี่ยมผ้ายันต์ธงพิชัยสงคราม (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    หลวงพ่อสร้างเหรียญหลวงปู่ปาน เนื้ออัลปากานี้ เนื่องในงานผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2520 ได้นำมาเลี่ยมพลาสติกันน้ำคู่กับเหรียญเอกราช รุ่น2 พร้อมผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม ซึ่งเป็นยันต์ที่อยู่บนยอดธงออกรบสมัยโบราณ ตำราวิชานี้เป็นตำราพระร่วงที่หลวงพ่อเราสืบทอดมาเป็นท่านสุดท้าย..ถึงแม้ท่านอื่นนำไปทำผลมากที่สุดจะแค่ 10% เท่านั้นท่านบอกไว้

    แบบนี้เลี่ยมเดิมๆจากวัด

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญ2หน้า เอกราช รุ่น2 เลี่ยมผ้ายันต์ธงพิชัยสงคราม (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    หลวงพ่อสร้างเหรียญเอกราช รุ่น2 เพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ ๑๐๐ปีเกิด หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เมื่อ พ.ศ. 2518 ได้นำมา2เหรียญประกบหน้าหลัง เลี่ยมพลาสติกกันน้ำพร้อมผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม ซึ่งเป็นยันต์ที่อยู่บนยอดธงออกรบสมัยโบราณ ตำราวิชานี้เป็นตำราพระร่วงที่หลวงพ่อเราสืบทอดมาเป็นท่านสุดท้าย..ถึงแม้ท่านอื่นนำไปทำผลมากที่สุดจะแค่ 10% เท่านั้นท่านบอกไว้

    แบบนี้เลี่ยมเดิมๆจากวัด

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ปี2520 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    พุทธาภิเษกเมื่อปี พ.ศ.2520 โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    ด้านหน้าเป็นรูปกรมหลวงชุมพรฯ ใต้รูปรอบล่างเขียนว่า “กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์”
    ส่วนด้านหลังเป็นรูปพระอาทิตย์ (อาภากร) ทรงราชรถ รอบบนเหรียญมีคาถาประจำราชสกุลอาภากร เขียนว่า ” กยิราเจ กยิราเถนํ ” (อ่านว่า กะ ยิ รา เจ กะ ยิ รา เถ นัง) แปลว่า ถ้าจะทำก็พึงทำตามนั้นจริง

    จัดสร้างจำนวน 100,000เหรียญ

    เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เรื่องวิธีการบนเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร

    1) ข้าวปากหม้อ ___คำว่า ข้าวปากหม้อ หมายความว่า ข้าวปากหม้อที่ยังไม่เป็นเดนใคร ตักมา 1ถ้วย
    2) หมูต้ม ___ เอาหมูธรรมดา ประมาณสักครึ่งกิโลกรัม แต่ถ้าจนมาก..ก็เอาชิ้นเดียว อย่าให้เล็กนัก
    3) ไก่ต้ม ___ ถ้าจนมากมีทุนน้อย ก็ไม่ต้องเอาถึงตัว เอาชิ้นเดียวก็ได้ แต่ถ้าคนมีทุนมาก ต้องเอาทั้งตัว อย่าขี้เหนียวนะ ขี้เหนียวเทวดาไม่ช่วย
    4) ทองหยิบ ฝอยทอง ___ อย่างละถ้วยเล็กๆก็ได้ 2-3อัน ก็ได้นะ
    5) ขนมจีนน้ำพริก

    เท่านี้ก็พอแล้ว แต่ว่าตามพิธีกรรม ถ้าจะบนท่านให้ใช้ของทั้งหมดนี้ก่อนเวลาบน ถวายก่อน เวลาถวายท่านกำหนดว่า เวลาตอนเช้าให้ใช้เวลาก่อน 2โมงเช้า 10นาที หรือก่อนหน้านั้นนิดหน่อยก็ได้ แต่อย่าให้ถึง 2โมงเช้า ถ้าจะแก้ตอนบ่าย ตอนเย็นให้ใช้เวลา 3โมงเย็น แต่ก่อนเวลา 3โมงเย็นสัก 10นาที เรื่องเหล้ายาปลาปิ้งไม่ต้องใช้กััน เวลานี้ท่านเป็น “ท้าววิรุฬหก” (ตามความเชื่อของสายวัดท่าซุง) เมื่อก่อนเป็นท้าววิรุฬหก ชอบให้เขาแก้บนด้วยน้ำตาลเมา แต่เดี๋ยวนี้บอก ไม่เอาแล้ว ลูกน้องมันมาก เดี๋ยวลูกน้องมันเมา มนุษย์จะมีความลำบาก เทวดาเมานี่ยุ่ง แต่ความจริงเทวดาไม่กินน้ำตงน้ำตาลหรอก ก็ว่ากันเรื่อยเฉื่อยไป เป็นสัญลักษณ์ว่าสมัยเป็นคนชอบอะไรก็ขออย่างนั้น…

    **************************************

    บันทึกของ เสด็จในกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์

    เจอบันทึกนี้ ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรับรู้ว่า กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราช ขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษได้เอาเนื้อเอาชีวิตเข้าแลกไว้ ไอ้อีผู้ใด มันคิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ฤากระทำการทุจริต ก่อให้เกิดความเดือนร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดคิดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตรให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยาม อันเป็นที่รักของกู ตราบใดที่คำว่าอาภากร ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาแผ่นดินสยามของกู ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้กำเนิดเรามา แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญกูผู้ชนะ – ไพรีพินาศ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญกูผู้ฃนะ – ไพรีพินาศ ด้านหน้าสร้างเป็นรูปหลวงพ่อครึงองค์ มีข้อความเขียนด้านบนซ้ายว่า “กูผู้ชนะ” ที่ด้านบนขวาว่า “ไพรีพินาศ” และด้านล่างเขียน “ฤาษีลิงดำ” ส่วนด้านหลังจะเป็นรูปพระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว หลวงพ่อปลุกเสกเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2521 พุทธคุณเด่นเรื่องคงกระพัน แคล้วคลาด ชนะทั่วทุกสารทิศ

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญของขวัญวันเกิด รุ่น1 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียของขวัญวันเกิด รุ่น 1 บนตัวเหรียญด้านที่มีรูปหลวงพ่อจะปรากฎเส้นขนแมว อยู่เหนือศรีษะหลวงพ่อ ประมาณแถวๆอุนาโลม 1จุด และด้านข้างซ้ายและขวาของบ่าหลวงพ่อ ด้านละประมาณ 3 เส้น อยู่ใต้คำว่า”ของ” และคำว่า “ลิงดำ” ปกติเลี่ยมกรอบเดิมๆจะติดเข็มกลัดเป็นรูปธงชาติ มีเป็นกรอบหลายสี สร้างประมาณปี 2523

    ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อ มีอักขระตัว “อะ” และยันต์อุณาโลมเปล่งรัศมีด้านบัน มีข้อความว่า “ของขวัญวันเกิด ฤษีลิงดำ” อยู่ด้านล่าง
    ด้านหลัง เป็นรูปพระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว มีอักขระตัว “อะ” และยันต์อุณาโลมเปล่งรัศมี อยู่ด้านบนและมีข้อความว่า “พระเจ้าพรหมมหาราชปราบริปูพ่าย” อยู่ด้านล่าง

    อานุภาพเหรียญของขวัญวันเกิด

    ๑. ป้องกันอันตราย
    ๒. ผู้ทำคุณไสยมาจะย้อนกลับไปหาเจ้าของ
    ๓. ศัตรูทำอันตรายได้ยาก
    ๔. เมื่อปลุกเสกเสมอ อย่าแช่งคนอื่น เพราะจะเป็นไปตามนั้น
    ๕. ทำน้ำมนต์ กินคลอดบุตรง่าย และรักษาโรค
    ๖. ติดตัวไว้จะไม่มีอันตรายจากยาพิษ เมื่อบังเอิญกินเข้าไป จะมีอาการมึนงงราวหนึ่งชั่วโมง แล้วจะหายเอง
    ๗. เมตตามหานิยม
    ๘. กันรังสีต่างๆ
    ๙. กันโรคระบาด ถ้ามีโรคระบาดเกิดขึ้นให้ใส่บาตรอุทิศกุศลให้ท่านท้าวมหาชมภู จะพ้นภัย ๑ องค์กันได้ทั้งบ้าน

    วิธีทำน้ำมนต์ ให้เอาเหรียญวางไว้ใกล้ขันน้ำ แล้วอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอิรยสงฆ์ ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย สืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุด แล้วอธิษฐานตามต้องการ เสร็จแล้วเอาพระจุ่มน้ำแล้วเอาขึ้น

    Read more
  • เหรียญ เหรียญ-โชว์

    เหรียญของขวัญวันเกิด รุ่น1 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียของขวัญวันเกิด รุ่น 1 บนตัวเหรียญด้านที่มีรูปหลวงพ่อจะปรากฎเส้นขนแมว อยู่เหนือศรีษะหลวงพ่อ ประมาณแถวๆอุนาโลม 1จุด และด้านข้างซ้ายและขวาของบ่าหลวงพ่อ ด้านละประมาณ 3 เส้น อยู่ใต้คำว่า”ของ” และคำว่า “ลิงดำ” ปกติเลี่ยมกรอบเดิมๆจะติดเข็มกลัดเป็นรูปธงชาติ มีเป็นกรอบหลายสี สร้างประมาณปี 2523 ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อ มีข้อความว่า “ของขวัญวันเกิด ฤษีลิงดำ” ด้านหลังเป็นรูปพระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว มีข้อความว่า “พระเจ้าพรหมมหาราชปราบริปูพ่าย”

    อานุภาพเหรียญของขวัญวันเกิด

    ๑. ป้องกันอันตราย
    ๒. ผู้ทำคุณไสยมาจะย้อนกลับไปหาเจ้าของ
    ๓. ศัตรูทำอันตรายได้ยาก
    ๔. เมื่อปลุกเสกเสมอ อย่าแช่งคนอื่น เพราะจะเป็นไปตามนั้น
    ๕. ทำน้ำมนต์ กินคลอดบุตรง่าย และรักษาโรค
    ๖. ติดตัวไว้จะไม่มีอันตรายจากยาพิษ เมื่อบังเอิญกินเข้าไป จะมีอาการมึนงงราวหนึ่งชั่วโมง แล้วจะหายเอง
    ๗. เมตตามหานิยม
    ๘. กันรังสีต่างๆ
    ๙. กันโรคระบาด ถ้ามีโรคระบาดเกิดขึ้นให้ใส่บาตรอุทิศกุศลให้ท่านท้าวมหาชมภู จะพ้นภัย ๑ องค์กันได้ทั้งบ้าน

    วิธีทำน้ำมนต์ ให้เอาเหรียญวางไว้ใกล้ขันน้ำ แล้วอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอิรยสงฆ์ ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย สืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุด แล้วอธิษฐานตามต้องการ เสร็จแล้วเอาพระจุ่มน้ำแล้วเอาขึ้น

    ตามความคิดผม ผมว่าเป็นเหรียญที่มีพุทธคุณครอบจักรวาล คล้ององค์เดียวเสร็จสรรพ เหรียญนี้ผิวองค์พระสวยมาก มองผ่านๆแล้วนึกว่าเป็นเนื้อทองคำ

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญของขวัญวันเกิด รุ่น2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียของขวัญวันเกิด รุ่น 2 เลี่ยมกรอบเดิมๆจากวัด จะติดเข็มกลัดเป็นโบว์ยันต์ผูก บารมี30ทัศ จะมีอยู่ด้วยกันหลายสี สร้างประมาณปี 2524

    ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อ มีอักขระตัว “อะ” และยันต์อุณาโลมเปล่งรัศมีด้านบัน มีข้อความว่า “ของขวัญวันเกิด ฤษีลิงดำ” อยู่ด้านล่าง
    ด้านหลัง เป็นรูปพระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว มีอักขระตัว “อะ” และยันต์อุณาโลมเปล่งรัศมี อยู่ด้านบนและมีข้อความว่า “พระเจ้าพรหมมหาราชปราบริปูพ่าย” อยู่ด้านล่าง
    โดยนำพิมพ์บล็อครุ่นแรกมาแก้ไขพิมพ์อีกทีนึง

    อานุภาพเหรียญของขวัญวันเกิด

    ๑. ป้องกันอันตราย
    ๒. ผู้ทำคุณไสยมาจะย้อนกลับไปหาเจ้าของ
    ๓. ศัตรูทำอันตรายได้ยาก
    ๔. เมื่อปลุกเสกเสมอ อย่าแช่งคนอื่น เพราะจะเป็นไปตามนั้น
    ๕. ทำน้ำมนต์ กินคลอดบุตรง่าย และรักษาโรค
    ๖. ติดตัวไว้จะไม่มีอันตรายจากยาพิษ เมื่อบังเอิญกินเข้าไป จะมีอาการมึนงงราวหนึ่งชั่วโมง แล้วจะหายเอง
    ๗. เมตตามหานิยม
    ๘. กันรังสีต่างๆ
    ๙. กันโรคระบาด ถ้ามีโรคระบาดเกิดขึ้นให้ใส่บาตรอุทิศกุศลให้ท่านท้าวมหาชมภู จะพ้นภัย ๑ องค์กันได้ทั้งบ้าน

    วิธีทำน้ำมนต์ ให้เอาเหรียญวางไว้ใกล้ขันน้ำ แล้วอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอิรยสงฆ์ ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย สืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุด แล้วอธิษฐานตามต้องการ เสร็จแล้วเอาพระจุ่มน้ำแล้วเอาขึ้น

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญของขวัญวันเกิด รุ่น3 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียของขวัญวันเกิด รุ่น 3 พิมพ์เหมือนกับรุ่น2ทุกอย่าง มีทั้งแบบผิวเหรียญที่เป็นผิวตึงและผิวขรุขระ ต่างกันที่รุ่น3ไม่ได้เลี่ยมกรอบจากวัด เข้าใจว่าน่าจะทำเหรียญออกมาพร้อมกันหมด แต่เลี่ยมกรอบไม่ทัน ก็เลยนำออกให้บูชาในคราวต่อมา และยังคงติดเข็มกลัดเป็นโบว์ยันต์ผูก บารมี30ทัศเหมือนเดิม สร้างประมาณปี 2524

    ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อ มีอักขระตัว “อะ” และยันต์อุณาโลมเปล่งรัศมีด้านบัน มีข้อความว่า “ของขวัญวันเกิด ฤษีลิงดำ” อยู่ด้านล่าง
    ด้านหลัง เป็นรูปพระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว มีอักขระตัว “อะ” และยันต์อุณาโลมเปล่งรัศมี อยู่ด้านบนและมีข้อความว่า “พระเจ้าพรหมมหาราชปราบริปูพ่าย” อยู่ด้านล่าง

    อานุภาพเหรียญของขวัญวันเกิด

    ๑. ป้องกันอันตราย
    ๒. ผู้ทำคุณไสยมาจะย้อนกลับไปหาเจ้าของ
    ๓. ศัตรูทำอันตรายได้ยาก
    ๔. เมื่อปลุกเสกเสมอ อย่าแช่งคนอื่น เพราะจะเป็นไปตามนั้น
    ๕. ทำน้ำมนต์ กินคลอดบุตรง่าย และรักษาโรค
    ๖. ติดตัวไว้จะไม่มีอันตรายจากยาพิษ เมื่อบังเอิญกินเข้าไป จะมีอาการมึนงงราวหนึ่งชั่วโมง แล้วจะหายเอง
    ๗. เมตตามหานิยม
    ๘. กันรังสีต่างๆ
    ๙. กันโรคระบาด ถ้ามีโรคระบาดเกิดขึ้นให้ใส่บาตรอุทิศกุศลให้ท่านท้าวมหาชมภู จะพ้นภัย ๑ องค์กันได้ทั้งบ้าน

    วิธีทำน้ำมนต์ ให้เอาเหรียญวางไว้ใกล้ขันน้ำ แล้วอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอิรยสงฆ์ ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย สืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุด แล้วอธิษฐานตามต้องการ เสร็จแล้วเอาพระจุ่มน้ำแล้วเอาขึ้น

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญของขวัญวันเกิด รุ่น4 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียของขวัญวันเกิด รุ่น 4 รุ่นนี้สร้างออกมาโดยแก้ไขพิมพ์ใหม่ทั้งหมด มีทั้งแบบผิวเหรียญที่เป็นผิวตึงและผิวขรุขระเหมือนกัน ไม่ได้เลี่ยมกรอบและไม่มีเข็มกลัดเป็นโบว์ยันต์ผูก บารมี30ทัศจากวัด สร้างเมื่อปี 2524 ประมาณ 30,000เหรียญ

    ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อ มีอักขระตัว “อะ” และยันต์อุณาโลมเปล่งรัศมีด้านบัน มีข้อความว่า “ของขวัญวันเกิด ฤษีลิงดำ” (เพิ่มสระอา หลังตัว ฤ) อยู่ด้านล่าง
    ด้านหลัง เป็นรูปพระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว มีอักขระตัว “อะ” และยันต์อุณาโลมเปล่งรัศมี อยู่ด้านบนและมีข้อความว่า “พระเจ้าพรหมมหาราชปราบริปูพ่าย” อยู่ด้านล่าง

    อานุภาพเหรียญของขวัญวันเกิด

    ๑. ป้องกันอันตราย
    ๒. ผู้ทำคุณไสยมาจะย้อนกลับไปหาเจ้าของ
    ๓. ศัตรูทำอันตรายได้ยาก
    ๔. เมื่อปลุกเสกเสมอ อย่าแช่งคนอื่น เพราะจะเป็นไปตามนั้น
    ๕. ทำน้ำมนต์ กินคลอดบุตรง่าย และรักษาโรค
    ๖. ติดตัวไว้จะไม่มีอันตรายจากยาพิษ เมื่อบังเอิญกินเข้าไป จะมีอาการมึนงงราวหนึ่งชั่วโมง แล้วจะหายเอง
    ๗. เมตตามหานิยม
    ๘. กันรังสีต่างๆ
    ๙. กันโรคระบาด ถ้ามีโรคระบาดเกิดขึ้นให้ใส่บาตรอุทิศกุศลให้ท่านท้าวมหาชมภู จะพ้นภัย ๑ องค์กันได้ทั้งบ้าน

    วิธีทำน้ำมนต์ ให้เอาเหรียญวางไว้ใกล้ขันน้ำ แล้วอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอิรยสงฆ์ ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย สืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุด แล้วอธิษฐานตามต้องการ เสร็จแล้วเอาพระจุ่มน้ำแล้วเอาขึ้น

    Read more
  • ๒. พระเครื่อง พระยอดนิยม เหรียญ

    เหรียญของขวัญวันเกิด รุ่น4 เนื้อเงิน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียของขวัญวันเกิด รุ่น 4 เนื้อเงินนี้ สร้างออกมาโดยแก้ไขพิมพ์ใหม่ทั้งหมด (ไม่ซ้ำกับ รุ่น1-3) จะไม่ได้เลี่ยมกรอบและไม่มีเข็มกลัดเป็นโบว์ยันต์ผูก บารมี30ทัศจากวัด จัดสร้างประมาณ 20-30เหรียญ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อ มีข้อความว่า “ของขวัญวันเกิด ฤาษีลิงดำ” (เพิ่มสระอา หลังตัว ฤ) ด้านหลังเป็นรูปพระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว มีข้อความว่า “พระเจ้าพรหมมหาราชปราบริปูพ่าย”

    อานุภาพเหรียญของขวัญวันเกิด

    ๑. ป้องกันอันตราย
    ๒. ผู้ทำคุณไสยมาจะย้อนกลับไปหาเจ้าของ
    ๓. ศัตรูทำอันตรายได้ยาก
    ๔. เมื่อปลุกเสกเสมอ อย่าแช่งคนอื่น เพราะจะเป็นไปตามนั้น
    ๕. ทำน้ำมนต์ กินคลอดบุตรง่าย และรักษาโรค
    ๖. ติดตัวไว้จะไม่มีอันตรายจากยาพิษ เมื่อบังเอิญกินเข้าไป จะมีอาการมึนงงราวหนึ่งชั่วโมง แล้วจะหายเอง
    ๗. เมตตามหานิยม
    ๘. กันรังสีต่างๆ
    ๙. กันโรคระบาด ถ้ามีโรคระบาดเกิดขึ้นให้ใส่บาตรอุทิศกุศลให้ท่านท้าวมหาชมภู จะพ้นภัย ๑ องค์กันได้ทั้งบ้าน

    วิธีทำน้ำมนต์ ให้เอาเหรียญวางไว้ใกล้ขันน้ำ แล้วอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอิรยสงฆ์ ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย สืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุด แล้วอธิษฐานตามต้องการ เสร็จแล้วเอาพระจุ่มน้ำแล้วเอาขึ้น

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญครบรอบ 100ปีเกิด หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค “ลาภ ผล พูน ทวี”

    จัดสร้างโดยวัดบางนมโค เมื่อปี พ.ศ.2518 เนื่องในวาระครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เป็นเหรียญทรงกลม มี 3 แบบ คือ เนื้อโลหะชุบทอง เนื้อโลหะชุบเงิน และเนื้อโลหะรมดำ ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อปานครึ่งองค์ ส่วนด้านหลัง เขียนคำว่า ลาภ ผล พูน ทวี ในวงการพระจะเรียกเหรียญนี้ว่า “เหรียญลาภผลพูนทวี”

    หมายเหตุ: ด้านหน้าของเหรียญนี้จะใช้แม่พิมพ์เดียวกันกับเหรียญเศรษฐี ของวัดท่าซุง โดยมีข้อแตกต่างกันที่ด้านหลัง มีบางคนเข้าใจว่าสร้างที่วัดท่าซุง ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ เหรียญนี้ออกที่วัดบางนมโค

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญครบรอบ 100ปีเกิด หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค “เหรียญบินเล็ก” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในงานครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จัดงานยิ่งใหญ่ ณ วัดท่าซุง โดยนิมนต์พระสุปฏิปัณโณ พระสหธรรมมิกของหลวงพ่อหลายรูปมาร่วมงาน

    จัดสร้างพร้อมกับเหรียญบินใหญ่ และเพื่อเป็นการง่ายต่อการเรียกชื่อรุ่น ในวงการเรียกว่า “เหรียญบินเล็ก”

    เหรียญรุ่นนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2เนื้อ คือ
    1) เนื้อชุบกะไหล่ทอง
    2) เนื้อรมดำ

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญครบรอบ 100ปีเกิด หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค “เหรียญบินใหญ่” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในงานครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จัดงานยิ่งใหญ่ ณ วัดท่าซุง โดยนิมนต์พระสุปฏิปัณโณ พระสหธรรมมิกของหลวงพ่อหลายรูปมาร่วมงาน

    เหรียญนี้มีชื่อเรียกในวงการว่า “เหรียญบินใหญ่” เพราะมีเรื่องเล่าขานกันมาว่า ขณะที่พุทธาภิเษก มีพระที่ร่วมปลุกเศกในพระอุโบสถเห็นเหรียญรุ่นนี้บินอยู่ในพระอุโบสถ จึงเป็นที่มาของชื่อเหรียญนี้ว่า “เหรียญบิน”

    เหรียญรุ่นนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 3เนื้อ คือ
    1) เนื้อชุบอัลปาก้า จะมีการตอกเลขไทยไว้ 2ตำแหน่ง คือ ที่ขอบเหรียญ กับ ที่ด้านหลังเหรียญ ข้างยันต์เกราะเพชร
    2) เนื้อรมดำ จะตอกเลขไทยที่ด้านหลังเหรียญ ข้างยันต์เกราะเพชร
    3) เนื้อชุบกะไหล่ทอง จะตอกเลขอารบิคที่ด้านหลังเหรียญ เหนือยันต์เกราะเพชร

    สำหรับเหรียญรุ่นนี้ เนื้อชุบอัลปาก้า และ เนื้อรมดำ (ตอกเลขไทยเหมือนกัน) ทางวัดท่าซุงจัดสร้าง ส่วนเนื้อชุบกะไหล่ทอง (ตอกเลขอารบิค) ทางวัดบางนมโคจัดสร้าง

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญครบรอบ 100ปีเกิด หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค “เหรียญบินใหญ่” ไม่ตอกโค๊ต (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในงานครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จัดงานยิ่งใหญ่ ณ วัดท่าซุง โดยนิมนต์พระสุปฏิปัณโณ พระสหธรรมมิกของหลวงพ่อหลายรูปมาร่วมงาน

    เหรียญนี้มีชื่อเรียกในวงการว่า “เหรียญบินใหญ่” เพราะมีเรื่องเล่าขานกันมาว่า ขณะที่พุทธาภิเษก มีพระที่ร่วมปลุกเศกในพระอุโบสถเห็นเหรียญรุ่นนี้บินอยู่ในพระอุโบสถ จึงเป็นที่มาของชื่อเหรียญนี้ว่า “เหรียญบิน”

    เหรียญรุ่นนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 3เนื้อ คือ
    1) เนื้อชุบอัลปาก้า จะมีการตอกเลขไทยไว้ 2ตำแหน่ง คือ ที่ขอบเหรียญ กับ ที่ด้านหลังเหรียญ ข้างยันต์เกราะเพชร
    2) เนื้อรมดำ จะตอกเลขไทยที่ด้านหลังเหรียญ ข้างยันต์เกราะเพชร
    3) เนื้อชุบกะไหล่ทอง จะตอกเลขอารบิคที่ด้านหลังเหรียญ เหนือยันต์เกราะเพชร

    สำหรับเหรียญรุ่นนี้ เนื้อชุบอัลปาก้า และ เนื้อรมดำ (ตอกเลขไทยเหมือนกัน) ทางวัดท่าซุงจัดสร้าง ส่วนเนื้อชุบกะไหล่ทอง (ตอกเลขอารบิค) ทางวัดบางนมโคจัดสร้าง

    ส่วนเหรียญนี้…เป็นเหรียญเนื้อชุบอัลปาก้า แต่ไม่ได้ตอกโค๊ตหมายเลข ในเหรียญ

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญครบรอบ 100ปีเกิด หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปี24 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญครบรอบ 100ปีเกิด หลวงพ่อปาน ทั่วๆไปจะสร้างเมื่อปี18 แต่เหรียญนี้ยังคงใช้รูปแบบเหรียญด้านหน้ามีข้อความว่า “ครบรอบ 100ปีเกิด หลวงพ่อปาน” แต่ด้านหลังมีการดัดแปลง แก้ปี พ.ศ. เป็นปี 2524 พระเดชพระคุณหลวงพ่อปลุกเสก และสร้างออกที่วัดท่าซุงโดยตรง

    Read more
  • เหรียญ เหรียญ-โชว์

    เหรียญครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงพ่อปาน “เหรียญเศรษฐี” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    หลวงพ่อท่านสร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 เนื่องในวาระครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เป็นเหรียญทรงกลม เนื้อโลหะชุบทอง ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อปานครึ่งองค์ ด้านหลังเป็นรูปพระพุทธ ยันต์มะอะอุ ตามแบบฉบับพระเนื้อดินที่หลวงพ่อปานท่านได้สร้างไว้เป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่ว มาพร้อมกับโบว์บารมี 30ทัศ

    แรกเริ่มเดิมทีในวงการเรียกเหรียญนี้ว่า “เหรียญกลมครบรอบ๑๐๐ปีเกิดหลวงปู่ปาน” แต่มาภายหลังจากหลวงพ่อท่านมรณภาพแล้ว มีศิษย์พูดๆกันว่า พระผู้ใหญ่ที่วัดท่านเคยได้ยินหลวงพ่อบอกว่าเหรียญนี้ต่อไปจะอยู่ในคอเศรษฐีเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นกระแสในการปั่นราคาพระในขณะนั้น พูดให้มีจุดขาย บ้างก็ว่าเป็นเรื่องที่ยืนยันได้ ก็ว่ากันไป..พระหลวงพ่อท่านดีหมด ไม่ว่าจะเรียกชื่อรุ่นกันว่าอะไร ต่อไปก็จะหายากทั้งนั้น ซึ้งต่อมาภายหลังก็เรียกเหรียญรุ่นนี้กันติดปากว่า “เหรียญเศรษฐี”

    ************************************************************************************************

    รู้ไว้ใช่ว่า ที่มาของชื่อ “เหรียญเศรษฐี”

    แรกเริ่มเดิมทีเหรียญนี้เราจะเรียกกันว่า “เหรียญกลม 100ปีเกิดหลวงพ่อปาน” ลูกศิษย์ลูกหาเรียกชื่อนี้กันมานานจนหลวงพ่อท่านละสังขาร แต่หลังจากนั้น ในวงการพระสายหลวงพ่อก็มีการเปลี่ยนมาเรียกว่า “เหรียญเศรษฐี” เพราะมีคำบอกเล่าจากพระผู้ใหญ่ที่วัดท่านนึง (ปัจจุบันท่านมรณะภาพแล้ว) ท่านเล่าว่า…………..ระหว่างหลวงพ่อท่านนั่งรับสังฆทาน ช่วงนั้นก็มีการแจกเหรียญนี้เป็นที่ระลึก ก็มีโยมคนหนึ่งเข้ามาถวายสังฆทาน ถวายเสร็จหลวงพ่อก็แจกเหรียญนี้ให้ โยมคนนั้นก็บอกกับหลวงพ่อประมาณว่า โยมไม่เอา โยมมีพระของหลวงพ่อเยอะแล้ว ให้เอาไว้แจกคนอื่นๆต่อไปดีกว่าครับ หลวงพ่อท่านก็บอกว่า…รับไปเถอะ ต่อไปเหรียญนี้จะอยู่กับเศรษฐีเท่านั้น เรื่องราวคร่าวๆประมาณนี้………..

    แต่ก็ยังไม่มีใครหาเทปหรือบันทึกที่หลวงพ่อท่านกล่าวไว้ได้เลย มีการพูดกันในกลุ่มผู้เล่นพระสายหลวงพ่อ ว่าหลวงพ่อมีการกล่าวไว้อย่างนั้นด้วยหรือ มีหลายคนที่ได้ฟังเรื่องราวนี้ ก็เช็คข่าวๆกันว่ามีใครเคยได้ยินเรื่องนี้บ้าง มีใครรู้บ้าง ก็คุยหัวเราะกันไปว่า ขำขำกันไปว่า…สงสัยท่านคงได้ยินแค่คนเดียว

    จากนั้นเรื่องราวนี้ก็มีการพูดปากต่อปากไปเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนเรื่องทำท่าจะไม่มีอะไร ราคากลางพระรุ่นนี้ตอนนั้นก็ไม่ได้มีการขยับขึ้นหวือหวา หลายๆคนก็ยังไม่ได้เรียกว่าเหรียญเศรษฐีด้วยซ้ำไป ยังคงเรียกเหรียญกลม100ปีเกิดหลังพระพุทธ จนมีคนนำเหรียญรุ่นนี้เข้าประมูลในเว๊ปพลังจิต และมีการนำเอาคำกล่าวนี้มาพูดถึง “…ว่าเหรียญนี้จะอยู่ในคอเศรษฐีเท่านั้น…” เป็นจุดขายสำคัญ (ถ้าเปรียบเป็นนักธุรกิจ ก็เรียกได้ว่าตอนนั้นคนนี้เป็นนักการตลาดขั้นเทพ) จุดประเด็นคำพูดนี้จนราคาประมูลขยับขึ้นมาจากราคาที่ซื้อขายกันในท้องตลาดราวๆ1เท่าตัว และจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีการนำเหรียญที่2มาลงประมูลอีก คราวนี้ราคาพุ่งทะลุหมื่นกว่าบาท ในวงการพระเครื่องสายหลวงพ่อตะลึ่งกันทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น คราวนี้ก็วิ่งเสาะแสวงหาเหรียญนี้กันยกใหญ่ ราคากลางเริ่มขยับขึ้นมายื่นเหยียบๆหมื่นในช่วงนั้นภายในเวลาไม่ถึงเดือน และก็มีการเรียกชื่อเหรียญนี้ว่า “เหรียญเศรษฐี” กันในวงกว้างขึ้นจนมาถึงปัจจุบันนี้

    ที่นำมาเล่าก็แค่อยากให้คนรุ่นหลังๆทราบที่มาที่ไป ว่าทำไมจึงเรียกกันว่า เหรียญเศรษฐี ส่วนความต้องการก็เป็นไปตามกลไกของตลาด แต่ข้อมูลและข้อเท็จจริงก็เป็นเรื่องที่น่าจะรู้กันไว้ เอามาเล่าสู่กันฟังประดับเป็นความรู้ไม่เสียหายนะ ส่วนเรื่องเล่านี้ หลวงพ่อท่านพูดไว้จริงไหม ต้องไปหาคำตอบกันเอง ผมเองก็ไม่รู้ ก็ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนๆกัน

    แต่ก็มีข้อให้คิดอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมถึงมาเรียกชื่อว่า “เหรียญเศรษฐี” หลังจากหลวงพ่อท่านมรณภาพแล้ว ทำไมไม่มีใครกล่าวอ้างกันตั้งแต่แรกเริ่มว่าหลวงพ่อกล่าวกันไว้แบบนี้ เหมือนกับพระคำข้าวรุ่นปืนแตก (ชื่อนี้ถูกตั้งตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะหลวงพ่อกล่าวไว้เลยว่า ใครเอาไปทดลองยิง ถ้ายิงเกิน3ครั้ง ปืนจะแตก)

    ส่วนประเด็นเรื่องเหรียญผิวรมดำรุ่นนี้ มีสร้างที่วัดบางนมโคด้วยเหรอ? ก็ต้องขอตอบตามความเป็นจริง..ว่ามีสร้างด้วย แต่เหรียญผิวรมดำก็มีออกที่วัดท่าซุงด้วยเช่นเดียวกัน แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอว่ามีออกที่วัดบางนมโคด้วย โดยใช้บล็อคเดียวกันเลย ก็ต้องลองนึกถึงเหรียญรูปไข่ครบรอบ100ปีเกิดหลวงปู่ปานที่ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร (หรือที่ในวงการพระเครื่องเรียกกันว่า เหรียญบิน) เหรียญนี้ของวัดท่าซุงจะเป็นเหรียญอัลบาก้าตอกเลขไทย ส่วนของวัดบางนมโคเป็นแบบชุบทองตอกเลขอารบิค โดยตัวเหรียญเป็นบล็อคเดียวกัน // หรือจะเป็นอีกรุ่นคือเหรียญเอกราชรุ่น1หลังยันต์เกราะเพชร ถ้าของวัดท่าซุงจะมีตัวอักษรซ้อนด้านหน้า ส่วนของวัดบางนมโคไม่มี แต่รูปลักษณ์ของเหรียญคล้ายกัน // หรือจะเป็นพระบูชา5นิ้วหลวงปู่ปานก็มี องค์ที่ฐานด้านหน้าสลักว่า “หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค” พิมพ์นี้จะมี่ออกทั้งที่วัดท่าซุงและที่วัดบางนมโค ซึ่งจากที่กล่าวมา ก็แสดงให้เห็นว่า เหรียญเศรษฐีผิวรมดำ ก็ไม่แปลกอะไรที่วัดบางนมโคจะทำเหรียญนี้ออกมาด้วย เท่าที่ทราบข้อมูลนี้ก็รู้มาจากลูกศิษย์รุ่นเก่า ที่เค้ายืนยันว่าเค้าบูชาเหรียญรมดำนี้มาจากวัดบางนมโค และก็มีเพื่อนๆกันก็เล่าให้ฟังเช่นกันว่า เค้าก็ไปเจอมา เจ้าของบอกว่าบูชามาจากวัดบางนมโคเหมือนกัน

    ถ้าย้อนอดีตไปในช่วงพระหลวงพ่อยังไม่มีใครเล่นหากัน ในวงการพระเครื่องสายหลวงพ่อเราจะไม่เล่นผิวรมดำนี้เลยด้วยซ้ำไป เพราะตีไปเป็นของวัดบางนมโคทั้งหมด แต่พอมาหลังๆก็มีการซื้อขายกันหมด ไม่มีการแยกแล้ว แต่ก็แปลก…กลับไม่มีใครบอกว่าเหรียญรุ่นนี้ผิวรมดำนั้นมีออกวัดบางนมโคด้วย เล่นเป็นของวัดท่าซุงทั้งหมดไปเลย แถมมีการนำเหรียญผิวรมดำเอามาชุบทองใหม่เสียอีกจะได้ดูเป็นของวัดท่าซุงแบบไม่ต้องมีประเด็นสงสัยตามมาภายหลัง แถมเอาโบว์ของเหรียญของขวัญวันเกิด (ให้สังเกตุว่าโบว์ด้านหลังจะเรียบ) มาใส่อีก ให้ดูครบถ้วนเหมือนออกจากวัด (ถ้าดูไม่เป็นนะ) เล่นกันสับสนไปหมด ชุบเดิมชุบใหม่ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเหรียญผิวรมดำเหรียญไหนออกวัดบางนมโค เหรียญไหนออกวัดท่าซุง คงเป็นคำถามตามมาอีก เหรียญมีทั้งเหรียญหนาและเหรียญบาง…ยังเป็นประเด็นต่อไป (แต่ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัว เลือกได้จะเลือกเหรียญบางชุบทองเดิมๆมีโบว์เดิมๆไว้ก่อน ถ้าเป็นรมดำก็เน้นเอาเหรียญบางไว้ก่อน ส่วนใครจะชอบแบบไหน ก็เป็นความชอบของแต่ละคนนะ)

    พระของหลวงพ่อท่านดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเรียกชื่อรุ่นกันว่าอะไร ต่อไปก็จะหายากทั้งนั้น จะหาเหรียญรุ่นนี้สะสมไว้ ก็เลือกเอาแบบที่เราชอบแล้วกัน ใครชอบรมดำก็หารมดำ ใครชอบแบบชุบทองเดิมๆมีโบว์เดิมๆก็หาแบบนั้น เลือกเอาแบบที่เราสบายใจแล้วกันเนอะ ^_^

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงพ่อปาน “เหรียญเศรษฐี” รมดำ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    หลวงพ่อท่านสร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 เนื่องในวาระครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เป็นเหรียญทรงกลม เนื้อรมดำ ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อปานครึ่งองค์ ด้านหลังเป็นรูปพระพุทธ ยันต์มะอะอุ ตามแบบฉบับพระเนื้อดินที่หลวงพ่อปานท่านได้สร้างไว้เป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่ว

    แรกเริ่มเดิมทีในวงการเรียกเหรียญนี้ว่า “เหรียญกลมครบรอบ๑๐๐ปีเกิดหลวงปู่ปาน” แต่มาภายหลังจากหลวงพ่อท่านมรณภาพแล้ว มีศิษย์พูดๆกันว่า พระผู้ใหญ่ที่วัดท่านเคยได้ยินหลวงพ่อบอกว่าเหรียญนี้ต่อไปจะอยู่ในคอเศรษฐีเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นกระแสในการปั่นราคาพระในขณะนั้น พูดให้มีจุดขาย บ้างก็ว่าเป็นเรื่องที่ยืนยันได้ ก็ว่ากันไป..พระหลวงพ่อท่านดีหมด ไม่ว่าจะเรียกชื่อรุ่นกันว่าอะไร ต่อไปก็จะหายากทั้งนั้น ซึ้งต่อมาภายหลังก็เรียกเหรียญรุ่นนี้กันติดปากว่า “เหรียญเศรษฐี”

    องค์นี้เป็นเนื้อรมดำ (จะไม่มีโบว์บารมี30ทัศ) สภาพเดิมๆ

    ******************************************************

    รู้ไว้ใช่ว่า ที่มาของชื่อ “เหรียญเศรษฐี”

    แรกเริ่มเดิมทีเหรียญนี้เราจะเรียกกันว่า “เหรียญกลม 100ปีเกิดหลวงพ่อปาน” ลูกศิษย์ลูกหาเรียกชื่อนี้กันมานานจนหลวงพ่อท่านละสังขาร แต่หลังจากนั้น ในวงการพระสายหลวงพ่อก็มีการเปลี่ยนมาเรียกว่า “เหรียญเศรษฐี” เพราะมีคำบอกเล่าจากพระผู้ใหญ่ที่วัดท่านนึง (ปัจจุบันท่านมรณะภาพแล้ว) ท่านเล่าว่า…………..ระหว่างหลวงพ่อท่านนั่งรับสังฆทาน ช่วงนั้นก็มีการแจกเหรียญนี้เป็นที่ระลึก ก็มีโยมคนหนึ่งเข้ามาถวายสังฆทาน ถวายเสร็จหลวงพ่อก็แจกเหรียญนี้ให้ โยมคนนั้นก็บอกกับหลวงพ่อประมาณว่า โยมไม่เอา โยมมีพระของหลวงพ่อเยอะแล้ว ให้เอาไว้แจกคนอื่นๆต่อไปดีกว่าครับ หลวงพ่อท่านก็บอกว่า…รับไปเถอะ ต่อไปเหรียญนี้จะอยู่กับเศรษฐีเท่านั้น เรื่องราวคร่าวๆประมาณนี้………..

    แต่ก็ยังไม่มีใครหาเทปหรือบันทึกที่หลวงพ่อท่านกล่าวไว้ได้เลย มีการพูดกันในกลุ่มผู้เล่นพระสายหลวงพ่อ ว่าหลวงพ่อมีการกล่าวไว้อย่างนั้นด้วยหรือ มีหลายคนที่ได้ฟังเรื่องราวนี้ ก็เช็คข่าวๆกันว่ามีใครเคยได้ยินเรื่องนี้บ้าง มีใครรู้บ้าง ก็คุยหัวเราะกันไปว่า ขำขำกันไปว่า…สงสัยท่านคงได้ยินแค่คนเดียว

    จากนั้นเรื่องราวนี้ก็มีการพูดปากต่อปากไปเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนเรื่องทำท่าจะไม่มีอะไร ราคากลางพระรุ่นนี้ตอนนั้นก็ไม่ได้มีการขยับขึ้นหวือหวา หลายๆคนก็ยังไม่ได้เรียกว่าเหรียญเศรษฐีด้วยซ้ำไป ยังคงเรียกเหรียญกลม100ปีเกิดหลังพระพุทธ จนมีคนนำเหรียญรุ่นนี้เข้าประมูลในเว๊ปพลังจิต และมีการนำเอาคำกล่าวนี้มาพูดถึง “…ว่าเหรียญนี้จะอยู่ในคอเศรษฐีเท่านั้น…” เป็นจุดขายสำคัญ (ถ้าเปรียบเป็นนักธุรกิจ ก็เรียกได้ว่าตอนนั้นคนนี้เป็นนักการตลาดขั้นเทพ) จุดประเด็นคำพูดนี้จนราคาประมูลขยับขึ้นมาจากราคาที่ซื้อขายกันในท้องตลาดราวๆ1เท่าตัว และจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีการนำเหรียญที่2มาลงประมูลอีก คราวนี้ราคาพุ่งทะลุหมื่นกว่าบาท ในวงการพระเครื่องสายหลวงพ่อตะลึ่งกันทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น คราวนี้ก็วิ่งเสาะแสวงหาเหรียญนี้กันยกใหญ่ ราคากลางเริ่มขยับขึ้นมายื่นเหยียบๆหมื่นในช่วงนั้นภายในเวลาไม่ถึงเดือน และก็มีการเรียกชื่อเหรียญนี้ว่า “เหรียญเศรษฐี” กันในวงกว้างขึ้นจนมาถึงปัจจุบันนี้

    ที่นำมาเล่าก็แค่อยากให้คนรุ่นหลังๆทราบที่มาที่ไป ว่าทำไมจึงเรียกกันว่า เหรียญเศรษฐี ส่วนความต้องการก็เป็นไปตามกลไกของตลาด แต่ข้อมูลและข้อเท็จจริงก็เป็นเรื่องที่น่าจะรู้กันไว้ เอามาเล่าสู่กันฟังประดับเป็นความรู้ไม่เสียหายนะ ส่วนเรื่องเล่านี้ หลวงพ่อท่านพูดไว้จริงไหม ต้องไปหาคำตอบกันเอง ผมเองก็ไม่รู้ ก็ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนๆกัน

    แต่ก็มีข้อให้คิดอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมถึงมาเรียกชื่อว่า “เหรียญเศรษฐี” หลังจากหลวงพ่อท่านมรณภาพแล้ว ทำไมไม่มีใครกล่าวอ้างกันตั้งแต่แรกเริ่มว่าหลวงพ่อกล่าวกันไว้แบบนี้ เหมือนกับพระคำข้าวรุ่นปืนแตก (ชื่อนี้ถูกตั้งตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะหลวงพ่อกล่าวไว้เลยว่า ใครเอาไปทดลองยิง ถ้ายิงเกิน3ครั้ง ปืนจะแตก)

    ส่วนประเด็นเรื่องเหรียญผิวรมดำรุ่นนี้ มีสร้างที่วัดบางนมโคด้วยเหรอ? ก็ต้องขอตอบตามความเป็นจริง..ว่ามีสร้างด้วย แต่เหรียญผิวรมดำก็มีออกที่วัดท่าซุงด้วยเช่นเดียวกัน แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอว่ามีออกที่วัดบางนมโคด้วย โดยใช้บล็อคเดียวกันเลย ก็ต้องลองนึกถึงเหรียญรูปไข่ครบรอบ100ปีเกิดหลวงปู่ปานที่ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร (หรือที่ในวงการพระเครื่องเรียกกันว่า เหรียญบิน) เหรียญนี้ของวัดท่าซุงจะเป็นเหรียญอัลบาก้าตอกเลขไทย ส่วนของวัดบางนมโคเป็นแบบชุบทองตอกเลขอารบิค โดยตัวเหรียญเป็นบล็อคเดียวกัน // หรือจะเป็นอีกรุ่นคือเหรียญเอกราชรุ่น1หลังยันต์เกราะเพชร ถ้าของวัดท่าซุงจะมีตัวอักษรซ้อนด้านหน้า ส่วนของวัดบางนมโคไม่มี แต่รูปลักษณ์ของเหรียญคล้ายกัน // หรือจะเป็นพระบูชา5นิ้วหลวงปู่ปานก็มี องค์ที่ฐานด้านหน้าสลักว่า “หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค” พิมพ์นี้จะมี่ออกทั้งที่วัดท่าซุงและที่วัดบางนมโค ซึ่งจากที่กล่าวมา ก็แสดงให้เห็นว่า เหรียญเศรษฐีผิวรมดำ ก็ไม่แปลกอะไรที่วัดบางนมโคจะทำเหรียญนี้ออกมาด้วย เท่าที่ทราบข้อมูลนี้ก็รู้มาจากลูกศิษย์รุ่นเก่า ที่เค้ายืนยันว่าเค้าบูชาเหรียญรมดำนี้มาจากวัดบางนมโค และก็มีเพื่อนๆกันก็เล่าให้ฟังเช่นกันว่า เค้าก็ไปเจอมา เจ้าของบอกว่าบูชามาจากวัดบางนมโคเหมือนกัน

    ถ้าย้อนอดีตไปในช่วงพระหลวงพ่อยังไม่มีใครเล่นหากัน ในวงการพระเครื่องสายหลวงพ่อเราจะไม่เล่นผิวรมดำนี้เลยด้วยซ้ำไป เพราะตีไปเป็นของวัดบางนมโคทั้งหมด แต่พอมาหลังๆก็มีการซื้อขายกันหมด ไม่มีการแยกแล้ว แต่ก็แปลก…กลับไม่มีใครบอกว่าเหรียญรุ่นนี้ผิวรมดำนั้นมีออกวัดบางนมโคด้วย เล่นเป็นของวัดท่าซุงทั้งหมดไปเลย แถมมีการนำเหรียญผิวรมดำเอามาชุบทองใหม่เสียอีกจะได้ดูเป็นของวัดท่าซุงแบบไม่ต้องมีประเด็นสงสัยตามมาภายหลัง แถมเอาโบว์ของเหรียญของขวัญวันเกิด (ให้สังเกตุว่าโบว์ด้านหลังจะเรียบ) มาใส่อีก ให้ดูครบถ้วนเหมือนออกจากวัด (ถ้าดูไม่เป็นนะ) เล่นกันสับสนไปหมด ชุบเดิมชุบใหม่ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเหรียญผิวรมดำเหรียญไหนออกวัดบางนมโค เหรียญไหนออกวัดท่าซุง คงเป็นคำถามตามมาอีก เหรียญมีทั้งเหรียญหนาและเหรียญบาง…ยังเป็นประเด็นต่อไป (แต่ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัว เลือกได้จะเลือกเหรียญบางชุบทองเดิมๆมีโบว์เดิมๆไว้ก่อน ถ้าเป็นรมดำก็เน้นเอาเหรียญบางไว้ก่อน ส่วนใครจะชอบแบบไหน ก็เป็นความชอบของแต่ละคนนะ)

    พระของหลวงพ่อท่านดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเรียกชื่อรุ่นกันว่าอะไร ต่อไปก็จะหายากทั้งนั้น จะหาเหรียญรุ่นนี้สะสมไว้ ก็เลือกเอาแบบที่เราชอบแล้วกัน ใครชอบรมดำก็หารมดำ ใครชอบแบบชุบทองเดิมๆมีโบว์เดิมๆก็หาแบบนั้น เลือกเอาแบบที่เราสบายใจแล้วกันเนอะ ^_^

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงพ่อปาน “เหรียญเศรษฐี” หลังเรียบ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    สร้างเมื่อปี พ.ศ.2518 เนื่องในวาระครบรอบ ๑๐๐ปีเกิดหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เป็นเหรียญทรงกลม เนื้อโลหะชุบทอง ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อปานครึ่งองค์ (แบบเหรียญเศรษฐี) ส่วนด้านหลังเป็นผิวเรียบ (ไม่มีพระพุทธและยันต์มะอะอุ แบบเหรียญเศรษฐีทั่วๆไป) ถือว่าเป็นเหรียญแปลกเหรียญนึง ซึ่งอาจจะเกิดจากความผิดพลาดระหว่างการสร้าง ยังไม่ทราบประวัติและข้อมูลที่แน่ชัด หลายๆคนเพิ่งจะเคยเห็นกันเป็นครั้งแรก

    Read more
  • เหรียญ เหรียญ-โชว์

    เหรียญคอมพิวเตอร์ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    ลักษณะเหรียญเป็นเนื้อโลหะชุบทอง สร้างในปี 2529 โดยคณะวัดพระแก้ว (ช่างแขก..ทีมช่างผู้ติดตั้งและซ่อมแอร์ที่วัด) เป็นผู้สร้างถวาย มีด้านกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.1ซม. สูงประมาณ 2.4ซม. ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อ ลักษณะเป็นร่องฉลุเป็นลายเส้นลึกลงไปในเหรียญถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของเหรียญคอมพิวเตอร์ มีข้อความ “วัดท่าซุง” และ “ฤาษีลิงดำ” อยู่ทางด้านซ้ายและขวา ส่วนด้านล่างมีตัวเลขบอก พ.ศ. เขียนว่า “๒๙” เป็นเลขไทย ส่วนด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร และมีข้อความพิมพ์อยู่ทางด้านบน เขียนว่า “ยันต์เกราะเพชร” เป็นหนึ่งวิชาในตำราพระร่วงที่โด่งดังตั้งแต่สมัยหลวงพ่อปานจวบจนถึงหลวงพ่อ เป็นยันต์พุทธคุณบทแรก เขียนโยงเส้นยันต์ได้ 8บท ป้องกันอันตรายแปดทิศทุกด้านทุกทาง สร้างประมาณ 200เหรียญ

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญคอมพิวเตอร์ ยันต์เกราะเพชร “เหรียญใหญ่” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    ลักษณะเหรียญเป็นเนื้อโลหะชุบทอง สร้างในปี 2529 โดยคณะวัดพระแก้ว (ช่างแขก..ทีมช่างผู้ติดตั้งและซ่อมแอร์ที่วัด) เป็นผู้สร้างถวาย มีด้านกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3.6ซม. (ขนาดใหญ่กว่าเหรียญคอมพิวเตอร์ทั่วไป ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.1ซม.) ด้านหน้าเป็นยันต์เกราะเพชร และมีข้อความพิมพ์อยู่ทั้งสี่มุม เขียนว่า “ยันต์เกราะเพชร” เป็นหนึ่งวิชาในตำราพระร่วงที่โด่งดังตั้งแต่สมัยหลวงพ่อปานจวบจนถึงหลวงพ่อ เป็นยันต์พุทธคุณบทแรก เขียนโยงเส้นยันต์ได้ 8บท ป้องกันอันตรายแปดทิศทุกด้านทุกทาง ส่วนอีกด้านเรียบๆ เป็นเหรียญหน้าเดียว สร้างพร้อมกับเหรียญคอมพิวเตอร์ทั่วไป

    เหรียญนี้เจ้าของเดิมได้มาจากช่างโม่ง ซึ่งเป็นลูกน้องของช่างแขก…คนสร้างเหรียญคอมพิวเตอร์ถวายหลวงพ่อ เค้าว่ามีแค่4เหรียญเท่านั้น เป็นเหรียญหายากมากๆ บางท่านอาจไม่ทราบที่มาที่ไปเพราะไม่มีลงไประวัติไว้ในหนังสือสมบัติพ่อให้

    ผิวเหรียญตึงไม่บวม ลายยันต์ลึกคมชัด เปรียบเทียบกับด้านหลังเหรียญคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งมีลักษณะและรูปแบบเหรียญเหมือนกัน

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญคอมพิวเตอร์ ยันต์เกราะเพชร2หน้า (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    ลักษณะเหรียญเป็นเนื้อโลหะชุบทอง สร้างในปี 2529 โดยคณะวัดพระแก้ว (ช่างแขก..ทีมช่างผู้ติดตั้งและซ่อมแอร์ที่วัด) เป็นผู้สร้างถวาย มีด้านกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.1ซม. สูงประมาณ 2.4ซม.เหรียญนี้พิเศษที่ด้านหน้า-ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชรทั้ง2ข้าง ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้ว..ด้านหน้าจะเป็นรูปหลวงพ่อ

    ลักษณะเหรียญเป็นร่องฉลุเป็นลายเส้นลึกลงไปในเหรียญถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของเหรียญคอมพิวเตอร์ เป็นเหรียญประกบยันต์เกราะเพชรหน้า-หลัง มีข้อความพิมพ์อยู่ทางด้านบน เขียนว่า “ยันต์เกราะเพชร” เป็นหนึ่งวิชาในตำราพระร่วงที่โด่งดังตั้งแต่สมัยหลวงพ่อปานจวบจนถึงหลวงพ่อ เป็นยันต์พุทธคุณบทแรก เขียนโยงเส้นยันต์ได้ 8บท ป้องกันอันตรายแปดทิศทุกด้านทุกทาง

    เหรียญนี้เจ้าของเดิมได้มาจากช่างโม่ง ซึ่งเป็นลูกน้องของช่างแขก…คนสร้างเหรียญคอมพิวเตอร์ถวายหลวงพ่อ เป็นเหรียญหายาก ซึ่งทางผู้จัดสร้างทำไว้ใช้กันเอง มีทั้งที่เป็นหลวงพ่อ2หน้า และยันต์เกราะเพชร2หน้าแบบนี้ บางท่านอาจไม่ทราบที่มาที่ไปเพราะไม่มีลงไประวัติไว้ในหนังสือสมบัติพ่อให้

    ผิวเหรียญตึงไม่บวม ลายยันต์ลึกคมชัด เปรียบเทียบกับด้านหลังเหรียญคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งมีลักษณะและรูปแบบเหรียญเหมือนกัน

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญคอมพิวเตอร์ หลวงพ่อ2หน้า (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    ลักษณะเหรียญเป็นเนื้อโลหะชุบทอง สร้างในปี 2529 โดยคณะวัดพระแก้ว (ช่างแขก..ทีมช่างผู้ติดตั้งและซ่อมแอร์ที่วัด) เป็นผู้สร้างถวาย มีด้านกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.1ซม. สูงประมาณ 2.4ซม.เหรียญนี้พิเศษๆที่ด้านหน้า-ด้านหลังเป็นหลวงพ่อทั้ง2ข้าง ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้ว..ด้านหน้าจะเป็นรูปหลวงพ่อ ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร

    ลักษณะเหรียญเป็นร่องฉลุเป็นลายเส้นลึกลงไปในเหรียญถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของเหรียญคอมพิวเตอร์ เป็นเหรียญประกบยันต์เกราะเพชรหน้า-หลัง มีข้อความพิมพ์อยู่ทางด้านบน เขียนว่า “ยันต์เกราะเพชร” เป็นหนึ่งวิชาในตำราพระร่วงที่โด่งดังตั้งแต่สมัยหลวงพ่อปานจวบจนถึงหลวงพ่อ เป็นยันต์พุทธคุณบทแรก เขียนโยงเส้นยันต์ได้ 8บท ป้องกันอันตรายแปดทิศทุกด้านทุกทาง

    เหรียญนี้เจ้าของเดิมได้มาจากช่างโม่ง ซึ่งเป็นลูกน้องของช่างแขก…คนสร้างเหรียญคอมพิวเตอร์ถวายหลวงพ่อ เป็นเหรียญหายาก ซึ่งทางผู้จัดสร้างทำไว้ใช้กันเอง มีทั้งที่เป็นหลวงพ่อ2หน้า และยันต์เกราะเพชร2หน้าแบบนี้ บางท่านอาจไม่ทราบที่มาที่ไปเพราะไม่มีลงไประวัติไว้ในหนังสือสมบัติพ่อให้

    ผิวเหรียญตึงไม่บวม ลายยันต์ลึกคมชัด เปรียบเทียบกับด้านหลังเหรียญคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งมีลักษณะและรูปแบบเหรียญเหมือนกัน

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญซุ้มประตู หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค

    เหรียญซุ้มประตู หลวงปู่ปาน เป็นเหรียญที่นายปัญจะ นางวรรณศรี กาญจะโนสถ สร้างถวาย เพื่อแจกในงานกฐินสามัคคี เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2529 โดยทางเจ้าภาพได้เคยสร้างรูปหลวงปู่ปาน เป็นแผ่นทองเหลืองปั๊ม ถวายหลวงพ่อด้วย

    Read more
  • พระยอดนิยม เหรียญ

    เหรียญท้าวเวสสุวัณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    เหรียญท้าวเวสสุวัณที่พอจะจำแนกแยกเป็นบล็อคต่างๆ คร่าวๆได้ 7บล็อค คือ
    1) บล็อคขอบจุด
    2) บล็อคอินทนูลอย
    3) บล็อคถาวโรมีขีด
    4) บล็อคใต้จมูกจุด
    5) บล็อคหูแตก
    6) บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก
    7) บล็อคหน้ากระจก

    พุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น

    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…

    1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา
    3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ
    4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช
    5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์
    6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก
    7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ
    8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ
    ฯลฯ

    ในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…”
    นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ

    Read more
  • ๒. พระเครื่อง พระยอดนิยม เหรียญ เหรียญ-โชว์

    เหรียญท้าวเวสสุวัณ เนื้อเงิน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ(พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ด้านหลังเป็นรูปท่านท้าวเวสสุวัณ เหรียญเป็นเนื้อเงินซึ่งจัดสร้างน้อยมากๆ ว่ากันว่าจัดสร้างเพียง 20เหรียญ และเป็นบล็อคอินทนูลอย

    **********************************************************

    เหรียญท้าวเวสสุวัณที่พอจะจำแนกแยกเป็นบล็อคต่างๆ คร่าวๆได้ 7บล็อค คือ
    1) บล็อคขอบจุด
    2) บล็อคอินทนูลอย
    3) บล็อคถาวโรมีขีด
    4) บล็อคใต้จมูกจุด
    5) บล็อคหูแตก
    6) บล็อคหูแตก สังฆาฏิแตก
    7) บล็อคหน้ากระจก

    พุทธาภิเษกที่ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521 ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ สร้างจำนวนทั้งสิ้น 44,227เหรียญ พิธีนี้พระท่านทำคงกระพันชาตรีแรงมากที่สุดคือนำหน้า มีเมตตามหานิยมอยู่บ้างพอสมควร ออกให้บูชาเหรียญละ 30บาทในขณะนั้น

    เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญรุ่นพิเศษที่ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 8 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบปีเปิดค่ายเมื่อปี 2521 วัตถุประสงค์ก็เพื่อแจกตำรวจตระวณชายแดนผู้ปฏิบัติการเสี่ยงภัย และให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเอารายได้ ถวายแก่วัดยากจนในภาคใต้ คณะผู้ดำเนินการสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์ และตะกรุดทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากมาเป็นชนวนของเนื้อเหรียญ และจัดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช อันแสนศักดิ์สิทธิ์ โดยมี “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช” มือปราบจอมหนังเหนียวเป็นเจ้าพิธี พระเครื่องรุ่นใดที่ท่านนี้มีส่วนร่วมในการสร้างด้วยส่วนใหญ่จะดังและศักดิ์สิทธิ์ตามพิธีของท่าน เพราะท่านเป็นคนรุ่นเก่า รู้เรื่องพิธีกรรมเยอะ นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ เข้าร่วมปลุกเสกหลายท่านด้วยกันครับ ดังนี้…

    1.พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    2.พระครูวรเวชย์วิสิฐ (หลวงปู่ครูบาธรรมชัย) พระอริยสงฆ์ แห่งวัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่ สหธรรมมิก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรา
    3.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช อริยะสงฆ์แห่งแดนทักษิณ
    4.พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ จ.นครศรีธรรมราช
    5.พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สร้างพระปิดตาอันลือชื่อแห่งภาคใต้ พระปิตาของท่านส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อตะกั่ว มีหลายพิมพ์
    6. พ่อท่านจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้มีเมตตาสูงส่งยิ่งนัก ผู้ใดไปหาท่าน มักจะได้รับความเมตตาจากท่านอย่างมาก
    7. พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านเป็นพระคณาจารย์ ศิษย์สายเขาอ้อ ครับ
    8. พรอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง วิปัสสนาจารย์สายเขาอ้อ
    ฯลฯ

    ในเอกสารนั้นบอกไว้ว่า หลวงพ่อท่านปรารภไว้ว่า “ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้แล้วจะไม่มีตายโหง…”
    นอกจากนั้นยังมีปรากฎการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นในระหว่างการหล่อเหรียญรุ่นนี้เช่น แผ่นทองหลายแผ่นไม่ละลายที่นำมาหล่อไม่ยอมละลาย จนต้องจุดธูปบอกกล่าว จึงหลอมได้สำเร็จ

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญทำน้ำมนต์ “บล็อคคอขีด” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญทำน้ำมนต์เป็นเหรียญโลหะชุบทอง เดิมๆจะอัดกรอบพลาสติกสีเหลืองจากวัด หลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษก “เหรียญทำน้ำมนต์” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2532 ที่วิหารแก้ว 100 เมตร เวลาประมาณ 6 โมงเย็น (แต่ในหนังสือสมบัติพ่อให้เล่มใหม่ลงไว้ว่าสร้างเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2532) ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อและชื่อ “พระสุธรรมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)” ใต้รูปเขียนว่า “วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” ส่วนด้านหลังเป็นยันต์พระสารีบุตร และคำว่า “ทำน้ำมนต์”

    ถัดไปอีก 2 วันเป็นงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ 13 ในวันเสาร์ 5 ที่ 2 ธันวาคม 2532 พิธีมีขึ้นที่ศาลา 4 ไร่

    จากวิดีโอเทปวันพิธีปลุกเสกเหรียญทำน้ำมนต์และวันพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ถอดคำเฉพาะบางตอนที่หลวงพ่อกล่าวถึงที่มาการสร้างและอานุภาพเหรียญน้ำมนต์ไว้ดังนี้

    ในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรวันที่ 2 ธันวาคม 2532 รอบแรก หลังจากหลวงพ่อได้แนะนำเรื่องการรับและรักษายันต์เกราะเพชรจบแล้ว ท่านได้พูดถึงเรื่องเหรียญทำน้ำมันต์ให้ฟังประมาณนี้ว่า

    ช่วงเดือนตุลาคม ร่างกายท่านเคลียด มีอาการป่วยมาก ท่านขึ้นไปวิมานท่านบนแดนพระนิพพานแล้วตัดสินใจว่าถ้าร่างกายไม่ดีก็จะไม่กลับ พระพุทธองค์ท่านก็มายับยั้ง ท่านบอกกับหลวงพ่อว่าให้เป็นหมอเอาไหม หลวงพ่อบอกว่าร่างกายแบบนี้เป็นหมอไม่มีใครเชื่อถือ เป็นหมอยา หมอพิธีกรรม ท่านไม่อยากเป็นเพราะจิตใจเป็นกังวล ไม่มีสุข

    ท้ายสุดพระท่านบอกว่า ถ้าทำน้ำมนต์อย่างเดียว รักษาได้ทุกโรคเอาไหม หลวงพ่อก็ว่าถ้ารักษาโรคภัยไข้เจ็บทางกายอย่างเดียวเอา แต่ยังไม่พอใจนัก ต้องรักษาโรคทรัพย์จางได้ด้วย พระพุทธองค์ท่านก็เรียกพระสารีบุตรมาให้สอนหลวงพ่อ พระสารีบุตรท่านว่าเคยสอนแล้วเมื่อปี 2504 แต่หลวงพ่อบอกว่าตอนนั้นทำครั้งเดียวเลิกไปเลย ก็สอนกันใหม่ และพระสารีบุตรท่านก็ติดตามมาสอนหลวงพ่อต่ออีก 3-4 วัน รักษาโรคได้ทั้งทางกายและทางใจพวกคุณไสย พวกผีเข้าเจ้าสิง

    หลวงพ่อพูดแนะนำว่า ” ถ้าผู้หญิงมีครรถ์ ให้ทานน้ำมนต์ทุกวันก่อนจะหลับ อธิษฐานก่อน วันละอึกก็พอ อธิษฐาน ขอให้บุตรในครรค์จงเป็นผู้แข็งแรงไม่มีโรค และมารดาก็ไม่มีโรคด้วย แข็งแรงปลอดภัย เวลาเจ็บท้องใหม่ๆ ดื่มซัก 1 อึก อธิษฐานว่า ขอให้คลอดง่าย อย่างนี้ก็จะคลอดง่าย ”

    ” ถ้าญาติโยมพุทธบริษัทต้องการลาภจากค้าขายทำมาหากิน ถ้าค้าขาย ตอนเช้าไปพรมหน้าร้าน ว่าคาถาตามหนังสือที่แนะนำไปให้ ถ้าต้องการปลูกผักปลูกหญ้า หรือข้าวกล้าทั้งหลายจะลงทำนา เอาน้ำมนต์ไปลงก่อนจะมีผลดีมาก ”

    ” ยันต์นี้มีรูปอาตมาอยู่ด้วย เป็นอันว่าท่านอนุญาติให้ทำ ท่านก็ตั้งราคาเสร็จ เหรียญที่มียันต์นี่ ท่านตั้งราคาบอกว่าใช้ราคาเกิน 30 บาทไม่ได้ ”

    ในพิธีพุทธาภิเษกเหรียญทำน้ำมนต์ที่วิหาร 100 เมตรในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2532 หลวงพ่อเล่าตอนนึงว่า

    ” ทีแรกไม่ให้ทำเลย ไม่ให้แจกเลย(หมายถึงว่าพระท่านไม่ให้ทำเหรียญ ให้ทำเฉพาะแผ่นยันต์อย่างเดียว ทำน้ำมนต์แล้วให้คนมาตักไปเอง ประมาณๆนี้) เพราะกำลังใจคนเราไม่เท่ากัน นี่พระพุทธเจ้าเองนะ ต่อมาขอร้องเข้า คุยกันตั้งแต่ตี 2 ถึงตี 4 เอางี๊ก็แล้วกัน คุณทำได้แต่ทำได้ไม่เกินครั้งนึงไม่เกินพันองค์ เลยบอกท่านว่าถ้าไม่เกินพันองค์นี่มันตีกันแน่ เดี๊ยวก็ขึ้นราคากัน คนที่ได้ไป ก็ไปขึ้นราคากับคนไม่ได้ เลยขออนุญาติท่านเป็นพิเศษว่า เฉพาะรับงานเป่ายันต์คนมาก พันองค์คงไม่ไหว ท่านก็เลยอนุมัติว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกให้เป็นพิเศษให้ 3 หมื่นองค์ แต่ว่าต่อไปจะทำอีก ครั้งต่อไปจะได้ไม่เกินพันองค์ ”

    หลวงพ่อท่านบอกเพิ่มเติมว่า ” บูชาทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกอย่าง ค้าขายก็ได้ หาลาภก็ได้ ปลอดภัยก็มี ทุกอย่างท่านบอกทุกอย่าง วิชานี้โดยตรงผู้ให้คือพระสารีบุตร แต่ว่าการทำคือพระพุทธเจ้าทำ ”

    ” หลวงพ่อบอกเหรียญทำน้ำมนต์นี้ กันและแก้ได้ทุกอย่าง จะรักษาโรคอะไรสุดแท้แต่จะอธิฐาน ”

    วิธีการอาราธนาเหรียญทำน้ำมนต์

    ให้เอาเหรียญใส่ขัน ตั้งนะโม 3จบ แล้วสวด อิติปิโส ทั้ง 3ห้อง (อิติปิโส… สวากขาโต… สุปฏิปันโน…) อีก7จบ และปิดท้ายด้วย นะ มะ พะ ธะ (พร้อมทั้งกำหนดลมหายใจเข้า-ออกด้วยจะดีมาก) อีก 15จบ แล้วอธิษฐานตามความปรารถนา แต่จะมีผลเฉพาะผู้ที่มีความเคารพในพระรัตนตรัยเท่านั้น แล้วนำน้ำมนต์ไปประพรม อาบหรือดี่มกินได้

    ตอนพุทธาภิเษกเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่อเล่าว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิ์สัตว์ พระอรหันต์พรหมและเทวดาทุกๆ พระองค์จะนั่งหลับตาเข้าสมาธิกันหมดโดยไม่ใช้พลังทั้งสิ้น… ต่างกับวัตถุมงคลอื่นๆ ทุกๆพระองค์จะใช้พลังแสงพุ่งออกจากกายที่สำคัญและพิเศษที่สุดคือ เหรียญทำน้ำมนต์ นี้ถือเป็นเหรียญเดียวที่สามารถคลายกฎแห่งกรรมได้ (ปกติกฎแห่งกรรม ไม่สามารถคลายหรือลดได้)

    เหรียญทำน้ำมนต์ถือว่าเป็นเหรียญที่ทำได้ยากมาก กว่าพระท่านจะทรงอนุญาติให้หลวงพ่อสร้างได้ เพราะครั้งแรกจะต้องใช้ทองคำเท่านั้น แต่หลวงพ่อขอพระท่านจนสำเร็จ

    เหรียญนี้พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ลุงพุฒ(ท่านพญายมราช)มาบอกหลวงพ่อ ให้บอกลูกหลานว่า ถ้ามีกำลังใจสูงกำลังใจเข้มข้นแล้ว ก็ไม่ต้องใช้เหรียญทำน้ำมนต์ ให้นึกถึงภาพยันต์น้ำมนต์(ที่อยู่ด้านหลังเหรียญ)ให้อยู่กลางกระหม่อม แล้วก็สวดภาวนาตามวิธีอาราธนาใช้เหรียญไปเรื่อยๆ จะค่อยๆคลายกฎของกรรมได้ ถ้าทำทุกวันต่อไปก็จะเหลือนิดเดียว

    ******************************************

    ถอดจากเทปพิธีพุทธาพิเษกเหรียญทำน้ำมนต์….

    “…เหรียญที่จะได้ไปนี้ทั้งหมด เหรียญชุบทองก็ดี เหรียญเงินก็ตาม เหรียญเงินก็เรียบร้อยไปแล้ว แผ่นเงินก็เรียบร้อยไปแล้ว เพราะว่าไม่ได้ทำเพื่อเช่า แต่พันเอกสถาพร เอามาถวาย ได้เงินเท่าไหร่ก็เขาเอาเข้าวัด ทั้งหมดนี้ทุกท่านนำไปบ้าน เอาไปบูชา แล้วก็ทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกอย่าง ค้าขายก็ได้ มหาลาภก็ได้ ปลอดภัยก็มี ทุกอย่างนะท่านบอกทุกอย่าง…”

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญทำน้ำมนต์ “บล็อคคอนูน” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญทำน้ำมนต์เป็นเหรียญโลหะชุบทอง เดิมๆจะอัดกรอบพลาสติกสีเหลืองจากวัด หลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษก “เหรียญทำน้ำมนต์” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2532 ที่วิหารแก้ว 100 เมตร เวลาประมาณ 6 โมงเย็น (แต่ในหนังสือสมบัติพ่อให้เล่มใหม่ลงไว้ว่าสร้างเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2532) ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อและชื่อ “พระสุธรรมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)” ใต้รูปเขียนว่า “วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” ส่วนด้านหลังเป็นยันต์พระสารีบุตร และคำว่า “ทำน้ำมนต์”

    ถัดไปอีก 2 วันเป็นงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ 13 ในวันเสาร์ 5 ที่ 2 ธันวาคม 2532 พิธีมีขึ้นที่ศาลา 4 ไร่

    จากวิดีโอเทปวันพิธีปลุกเสกเหรียญทำน้ำมนต์และวันพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ถอดคำเฉพาะบางตอนที่หลวงพ่อกล่าวถึงที่มาการสร้างและอานุภาพเหรียญน้ำมนต์ไว้ดังนี้

    ในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรวันที่ 2 ธันวาคม 2532 รอบแรก หลังจากหลวงพ่อได้แนะนำเรื่องการรับและรักษายันต์เกราะเพชรจบแล้ว ท่านได้พูดถึงเรื่องเหรียญทำน้ำมันต์ให้ฟังประมาณนี้ว่า

    ช่วงเดือนตุลาคม ร่างกายท่านเคลียด มีอาการป่วยมาก ท่านขึ้นไปวิมานท่านบนแดนพระนิพพานแล้วตัดสินใจว่าถ้าร่างกายไม่ดีก็จะไม่กลับ พระพุทธองค์ท่านก็มายับยั้ง ท่านบอกกับหลวงพ่อว่าให้เป็นหมอเอาไหม หลวงพ่อบอกว่าร่างกายแบบนี้เป็นหมอไม่มีใครเชื่อถือ เป็นหมอยา หมอพิธีกรรม ท่านไม่อยากเป็นเพราะจิตใจเป็นกังวล ไม่มีสุข

    ท้ายสุดพระท่านบอกว่า ถ้าทำน้ำมนต์อย่างเดียว รักษาได้ทุกโรคเอาไหม หลวงพ่อก็ว่าถ้ารักษาโรคภัยไข้เจ็บทางกายอย่างเดียวเอา แต่ยังไม่พอใจนัก ต้องรักษาโรคทรัพย์จางได้ด้วย พระพุทธองค์ท่านก็เรียกพระสารีบุตรมาให้สอนหลวงพ่อ พระสารีบุตรท่านว่าเคยสอนแล้วเมื่อปี 2504 แต่หลวงพ่อบอกว่าตอนนั้นทำครั้งเดียวเลิกไปเลย ก็สอนกันใหม่ และพระสารีบุตรท่านก็ติดตามมาสอนหลวงพ่อต่ออีก 3-4 วัน รักษาโรคได้ทั้งทางกายและทางใจพวกคุณไสย พวกผีเข้าเจ้าสิง

    หลวงพ่อพูดแนะนำว่า ” ถ้าผู้หญิงมีครรถ์ ให้ทานน้ำมนต์ทุกวันก่อนจะหลับ อธิษฐานก่อน วันละอึกก็พอ อธิษฐาน ขอให้บุตรในครรค์จงเป็นผู้แข็งแรงไม่มีโรค และมารดาก็ไม่มีโรคด้วย แข็งแรงปลอดภัย เวลาเจ็บท้องใหม่ๆ ดื่มซัก 1 อึก อธิษฐานว่า ขอให้คลอดง่าย อย่างนี้ก็จะคลอดง่าย ”

    ” ถ้าญาติโยมพุทธบริษัทต้องการลาภจากค้าขายทำมาหากิน ถ้าค้าขาย ตอนเช้าไปพรมหน้าร้าน ว่าคาถาตามหนังสือที่แนะนำไปให้ ถ้าต้องการปลูกผักปลูกหญ้า หรือข้าวกล้าทั้งหลายจะลงทำนา เอาน้ำมนต์ไปลงก่อนจะมีผลดีมาก ”

    ” ยันต์นี้มีรูปอาตมาอยู่ด้วย เป็นอันว่าท่านอนุญาติให้ทำ ท่านก็ตั้งราคาเสร็จ เหรียญที่มียันต์นี่ ท่านตั้งราคาบอกว่าใช้ราคาเกิน 30 บาทไม่ได้ ”

    ในพิธีพุทธาภิเษกเหรียญทำน้ำมนต์ที่วิหาร 100 เมตรในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2532 หลวงพ่อเล่าตอนนึงว่า

    ” ทีแรกไม่ให้ทำเลย ไม่ให้แจกเลย(หมายถึงว่าพระท่านไม่ให้ทำเหรียญ ให้ทำเฉพาะแผ่นยันต์อย่างเดียว ทำน้ำมนต์แล้วให้คนมาตักไปเอง ประมาณๆนี้) เพราะกำลังใจคนเราไม่เท่ากัน นี่พระพุทธเจ้าเองนะ ต่อมาขอร้องเข้า คุยกันตั้งแต่ตี 2 ถึงตี 4 เอางี๊ก็แล้วกัน คุณทำได้แต่ทำได้ไม่เกินครั้งนึงไม่เกินพันองค์ เลยบอกท่านว่าถ้าไม่เกินพันองค์นี่มันตีกันแน่ เดี๊ยวก็ขึ้นราคากัน คนที่ได้ไป ก็ไปขึ้นราคากับคนไม่ได้ เลยขออนุญาติท่านเป็นพิเศษว่า เฉพาะรับงานเป่ายันต์คนมาก พันองค์คงไม่ไหว ท่านก็เลยอนุมัติว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกให้เป็นพิเศษให้ 3 หมื่นองค์ แต่ว่าต่อไปจะทำอีก ครั้งต่อไปจะได้ไม่เกินพันองค์ ”

    หลวงพ่อท่านบอกเพิ่มเติมว่า ” บูชาทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกอย่าง ค้าขายก็ได้ หาลาภก็ได้ ปลอดภัยก็มี ทุกอย่างท่านบอกทุกอย่าง วิชานี้โดยตรงผู้ให้คือพระสารีบุตร แต่ว่าการทำคือพระพุทธเจ้าทำ ”

    ” หลวงพ่อบอกเหรียญทำน้ำมนต์นี้ กันและแก้ได้ทุกอย่าง จะรักษาโรคอะไรสุดแท้แต่จะอธิฐาน ”

    วิธีการอาราธนาเหรียญทำน้ำมนต์

    ให้เอาเหรียญใส่ขัน ตั้งนะโม 3จบ แล้วสวด อิติปิโส ทั้ง 3ห้อง (อิติปิโส… สวากขาโต… สุปฏิปันโน…) อีก7จบ และปิดท้ายด้วย นะ มะ พะ ธะ (พร้อมทั้งกำหนดลมหายใจเข้า-ออกด้วยจะดีมาก) อีก 15จบ แล้วอธิษฐานตามความปรารถนา แต่จะมีผลเฉพาะผู้ที่มีความเคารพในพระรัตนตรัยเท่านั้น แล้วนำน้ำมนต์ไปประพรม อาบหรือดี่มกินได้

    ตอนพุทธาภิเษกเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่อเล่าว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิ์สัตว์ พระอรหันต์พรหมและเทวดาทุกๆ พระองค์จะนั่งหลับตาเข้าสมาธิกันหมดโดยไม่ใช้พลังทั้งสิ้น… ต่างกับวัตถุมงคลอื่นๆ ทุกๆพระองค์จะใช้พลังแสงพุ่งออกจากกายที่สำคัญและพิเศษที่สุดคือ เหรียญทำน้ำมนต์ นี้ถือเป็นเหรียญเดียวที่สามารถคลายกฎแห่งกรรมได้ (ปกติกฎแห่งกรรม ไม่สามารถคลายหรือลดได้)

    เหรียญทำน้ำมนต์ถือว่าเป็นเหรียญที่ทำได้ยากมาก กว่าพระท่านจะทรงอนุญาติให้หลวงพ่อสร้างได้ เพราะครั้งแรกจะต้องใช้ทองคำเท่านั้น แต่หลวงพ่อขอพระท่านจนสำเร็จ

    เหรียญนี้พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ลุงพุฒ(ท่านพญายมราช)มาบอกหลวงพ่อ ให้บอกลูกหลานว่า ถ้ามีกำลังใจสูงกำลังใจเข้มข้นแล้ว ก็ไม่ต้องใช้เหรียญทำน้ำมนต์ ให้นึกถึงภาพยันต์น้ำมนต์(ที่อยู่ด้านหลังเหรียญ)ให้อยู่กลางกระหม่อม แล้วก็สวดภาวนาตามวิธีอาราธนาใช้เหรียญไปเรื่อยๆ จะค่อยๆคลายกฎของกรรมได้ ถ้าทำทุกวันต่อไปก็จะเหลือนิดเดียว

    ****************************************************

    ถอดจากเทปพิธีพุทธาพิเษกเหรียญทำน้ำมนต์….

    “…เหรียญที่จะได้ไปนี้ทั้งหมด เหรียญชุบทองก็ดี เหรียญเงินก็ตาม เหรียญเงินก็เรียบร้อยไปแล้ว แผ่นเงินก็เรียบร้อยไปแล้ว เพราะว่าไม่ได้ทำเพื่อเช่า แต่พันเอกสถาพร เอามาถวาย ได้เงินเท่าไหร่ก็เขาเอาเข้าวัด ทั้งหมดนี้ทุกท่านนำไปบ้าน เอาไปบูชา แล้วก็ทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกอย่าง ค้าขายก็ได้ มหาลาภก็ได้ ปลอดภัยก็มี ทุกอย่างนะท่านบอกทุกอย่าง…”

    Read more
  • เหรียญ เหรียญ-โชว์

    เหรียญทำน้ำมนต์ “บล็อคตัวหนังสือซ้อน” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญทำน้ำมนต์เป็นเหรียญโลหะชุบทอง เดิมๆจะอัดกรอบพลาสติกสีเหลืองจากวัด หลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษก “เหรียญทำน้ำมนต์” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2532 ที่วิหารแก้ว 100 เมตร เวลาประมาณ 6 โมงเย็น (แต่ในหนังสือสมบัติพ่อให้เล่มใหม่ลงไว้ว่าสร้างเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2532) ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อและชื่อ “พระสุธรรมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)” ใต้รูปเขียนว่า “วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” ส่วนด้านหลังเป็นยันต์พระสารีบุตร และคำว่า “ทำน้ำมนต์”

    ถัดไปอีก 2 วันเป็นงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ 13 ในวันเสาร์ 5 ที่ 2 ธันวาคม 2532 พิธีมีขึ้นที่ศาลา 4 ไร่

    จากวิดีโอเทปวันพิธีปลุกเสกเหรียญทำน้ำมนต์และวันพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ถอดคำเฉพาะบางตอนที่หลวงพ่อกล่าวถึงที่มาการสร้างและอานุภาพเหรียญน้ำมนต์ไว้ดังนี้

    ในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรวันที่ 2 ธันวาคม 2532 รอบแรก หลังจากหลวงพ่อได้แนะนำเรื่องการรับและรักษายันต์เกราะเพชรจบแล้ว ท่านได้พูดถึงเรื่องเหรียญทำน้ำมันต์ให้ฟังประมาณนี้ว่า

    ช่วงเดือนตุลาคม ร่างกายท่านเคลียด มีอาการป่วยมาก ท่านขึ้นไปวิมานท่านบนแดนพระนิพพานแล้วตัดสินใจว่าถ้าร่างกายไม่ดีก็จะไม่กลับ พระพุทธองค์ท่านก็มายับยั้ง ท่านบอกกับหลวงพ่อว่าให้เป็นหมอเอาไหม หลวงพ่อบอกว่าร่างกายแบบนี้เป็นหมอไม่มีใครเชื่อถือ เป็นหมอยา หมอพิธีกรรม ท่านไม่อยากเป็นเพราะจิตใจเป็นกังวล ไม่มีสุข

    ท้ายสุดพระท่านบอกว่า ถ้าทำน้ำมนต์อย่างเดียว รักษาได้ทุกโรคเอาไหม หลวงพ่อก็ว่าถ้ารักษาโรคภัยไข้เจ็บทางกายอย่างเดียวเอา แต่ยังไม่พอใจนัก ต้องรักษาโรคทรัพย์จางได้ด้วย พระพุทธองค์ท่านก็เรียกพระสารีบุตรมาให้สอนหลวงพ่อ พระสารีบุตรท่านว่าเคยสอนแล้วเมื่อปี 2504 แต่หลวงพ่อบอกว่าตอนนั้นทำครั้งเดียวเลิกไปเลย ก็สอนกันใหม่ และพระสารีบุตรท่านก็ติดตามมาสอนหลวงพ่อต่ออีก 3-4 วัน รักษาโรคได้ทั้งทางกายและทางใจพวกคุณไสย พวกผีเข้าเจ้าสิง

    หลวงพ่อพูดแนะนำว่า ” ถ้าผู้หญิงมีครรถ์ ให้ทานน้ำมนต์ทุกวันก่อนจะหลับ อธิษฐานก่อน วันละอึกก็พอ อธิษฐาน ขอให้บุตรในครรค์จงเป็นผู้แข็งแรงไม่มีโรค และมารดาก็ไม่มีโรคด้วย แข็งแรงปลอดภัย เวลาเจ็บท้องใหม่ๆ ดื่มซัก 1 อึก อธิษฐานว่า ขอให้คลอดง่าย อย่างนี้ก็จะคลอดง่าย ”

    ” ถ้าญาติโยมพุทธบริษัทต้องการลาภจากค้าขายทำมาหากิน ถ้าค้าขาย ตอนเช้าไปพรมหน้าร้าน ว่าคาถาตามหนังสือที่แนะนำไปให้ ถ้าต้องการปลูกผักปลูกหญ้า หรือข้าวกล้าทั้งหลายจะลงทำนา เอาน้ำมนต์ไปลงก่อนจะมีผลดีมาก ”

    ” ยันต์นี้มีรูปอาตมาอยู่ด้วย เป็นอันว่าท่านอนุญาติให้ทำ ท่านก็ตั้งราคาเสร็จ เหรียญที่มียันต์นี่ ท่านตั้งราคาบอกว่าใช้ราคาเกิน 30 บาทไม่ได้ ”

    ในพิธีพุทธาภิเษกเหรียญทำน้ำมนต์ที่วิหาร 100 เมตรในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2532 หลวงพ่อเล่าตอนนึงว่า

    ” ทีแรกไม่ให้ทำเลย ไม่ให้แจกเลย(หมายถึงว่าพระท่านไม่ให้ทำเหรียญ ให้ทำเฉพาะแผ่นยันต์อย่างเดียว ทำน้ำมนต์แล้วให้คนมาตักไปเอง ประมาณๆนี้) เพราะกำลังใจคนเราไม่เท่ากัน นี่พระพุทธเจ้าเองนะ ต่อมาขอร้องเข้า คุยกันตั้งแต่ตี 2 ถึงตี 4 เอางี๊ก็แล้วกัน คุณทำได้แต่ทำได้ไม่เกินครั้งนึงไม่เกินพันองค์ เลยบอกท่านว่าถ้าไม่เกินพันองค์นี่มันตีกันแน่ เดี๊ยวก็ขึ้นราคากัน คนที่ได้ไป ก็ไปขึ้นราคากับคนไม่ได้ เลยขออนุญาติท่านเป็นพิเศษว่า เฉพาะรับงานเป่ายันต์คนมาก พันองค์คงไม่ไหว ท่านก็เลยอนุมัติว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกให้เป็นพิเศษให้ 3 หมื่นองค์ แต่ว่าต่อไปจะทำอีก ครั้งต่อไปจะได้ไม่เกินพันองค์ ”

    หลวงพ่อท่านบอกเพิ่มเติมว่า ” บูชาทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกอย่าง ค้าขายก็ได้ หาลาภก็ได้ ปลอดภัยก็มี ทุกอย่างท่านบอกทุกอย่าง วิชานี้โดยตรงผู้ให้คือพระสารีบุตร แต่ว่าการทำคือพระพุทธเจ้าทำ ”

    ” หลวงพ่อบอกเหรียญทำน้ำมนต์นี้ กันและแก้ได้ทุกอย่าง จะรักษาโรคอะไรสุดแท้แต่จะอธิฐาน ”

    วิธีการอาราธนาเหรียญทำน้ำมนต์

    ให้เอาเหรียญใส่ขัน ตั้งนะโม 3จบ แล้วสวด อิติปิโส ทั้ง 3ห้อง (อิติปิโส… สวากขาโต… สุปฏิปันโน…) อีก7จบ และปิดท้ายด้วย นะ มะ พะ ธะ (พร้อมทั้งกำหนดลมหายใจเข้า-ออกด้วยจะดีมาก) อีก 15จบ แล้วอธิษฐานตามความปรารถนา แต่จะมีผลเฉพาะผู้ที่มีความเคารพในพระรัตนตรัยเท่านั้น แล้วนำน้ำมนต์ไปประพรม อาบหรือดี่มกินได้

    ตอนพุทธาภิเษกเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่อเล่าว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิ์สัตว์ พระอรหันต์พรหมและเทวดาทุกๆ พระองค์จะนั่งหลับตาเข้าสมาธิกันหมดโดยไม่ใช้พลังทั้งสิ้น… ต่างกับวัตถุมงคลอื่นๆ ทุกๆพระองค์จะใช้พลังแสงพุ่งออกจากกายที่สำคัญและพิเศษที่สุดคือ เหรียญทำน้ำมนต์ นี้ถือเป็นเหรียญเดียวที่สามารถคลายกฎแห่งกรรมได้ (ปกติกฎแห่งกรรม ไม่สามารถคลายหรือลดได้)

    เหรียญทำน้ำมนต์ถือว่าเป็นเหรียญที่ทำได้ยากมาก กว่าพระท่านจะทรงอนุญาติให้หลวงพ่อสร้างได้ เพราะครั้งแรกจะต้องใช้ทองคำเท่านั้น แต่หลวงพ่อขอพระท่านจนสำเร็จ

    เหรียญนี้พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ลุงพุฒ(ท่านพญายมราช)มาบอกหลวงพ่อ ให้บอกลูกหลานว่า ถ้ามีกำลังใจสูงกำลังใจเข้มข้นแล้ว ก็ไม่ต้องใช้เหรียญทำน้ำมนต์ ให้นึกถึงภาพยันต์น้ำมนต์(ที่อยู่ด้านหลังเหรียญ)ให้อยู่กลางกระหม่อม แล้วก็สวดภาวนาตามวิธีอาราธนาใช้เหรียญไปเรื่อยๆ จะค่อยๆคลายกฎของกรรมได้ ถ้าทำทุกวันต่อไปก็จะเหลือนิดเดียว

    ****************************************

    ถอดจากเทปพิธีพุทธาพิเษกเหรียญทำน้ำมนต์….

    “…เหรียญที่จะได้ไปนี้ทั้งหมด เหรียญชุบทองก็ดี เหรียญเงินก็ตาม เหรียญเงินก็เรียบร้อยไปแล้ว แผ่นเงินก็เรียบร้อยไปแล้ว เพราะว่าไม่ได้ทำเพื่อเช่า แต่พันเอกสถาพร เอามาถวาย ได้เงินเท่าไหร่ก็เขาเอาเข้าวัด ทั้งหมดนี้ทุกท่านนำไปบ้าน เอาไปบูชา แล้วก็ทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกอย่าง ค้าขายก็ได้ มหาลาภก็ได้ ปลอดภัยก็มี ทุกอย่างนะท่านบอกทุกอย่าง…”

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญทำน้ำมนต์ “บล็อคยันต์ใหญ่” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญทำน้ำมนต์เป็นเหรียญโลหะชุบทอง เดิมๆจะอัดกรอบพลาสติกสีเหลืองจากวัด หลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษก “เหรียญทำน้ำมนต์” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2532 ที่วิหารแก้ว 100 เมตร เวลาประมาณ 6 โมงเย็น (แต่ในหนังสือสมบัติพ่อให้เล่มใหม่ลงไว้ว่าสร้างเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2532) ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อและชื่อ “พระสุธรรมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)” ใต้รูปเขียนว่า “วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” ส่วนด้านหลังเป็นยันต์พระสารีบุตร และคำว่า “ทำน้ำมนต์”

    ถัดไปอีก 2 วันเป็นงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ 13 ในวันเสาร์ 5 ที่ 2 ธันวาคม 2532 พิธีมีขึ้นที่ศาลา 4 ไร่

    จากวิดีโอเทปวันพิธีปลุกเสกเหรียญทำน้ำมนต์และวันพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ถอดคำเฉพาะบางตอนที่หลวงพ่อกล่าวถึงที่มาการสร้างและอานุภาพเหรียญน้ำมนต์ไว้ดังนี้

    ในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรวันที่ 2 ธันวาคม 2532 รอบแรก หลังจากหลวงพ่อได้แนะนำเรื่องการรับและรักษายันต์เกราะเพชรจบแล้ว ท่านได้พูดถึงเรื่องเหรียญทำน้ำมันต์ให้ฟังประมาณนี้ว่า

    ช่วงเดือนตุลาคม ร่างกายท่านเคลียด มีอาการป่วยมาก ท่านขึ้นไปวิมานท่านบนแดนพระนิพพานแล้วตัดสินใจว่าถ้าร่างกายไม่ดีก็จะไม่กลับ พระพุทธองค์ท่านก็มายับยั้ง ท่านบอกกับหลวงพ่อว่าให้เป็นหมอเอาไหม หลวงพ่อบอกว่าร่างกายแบบนี้เป็นหมอไม่มีใครเชื่อถือ เป็นหมอยา หมอพิธีกรรม ท่านไม่อยากเป็นเพราะจิตใจเป็นกังวล ไม่มีสุข

    ท้ายสุดพระท่านบอกว่า ถ้าทำน้ำมนต์อย่างเดียว รักษาได้ทุกโรคเอาไหม หลวงพ่อก็ว่าถ้ารักษาโรคภัยไข้เจ็บทางกายอย่างเดียวเอา แต่ยังไม่พอใจนัก ต้องรักษาโรคทรัพย์จางได้ด้วย พระพุทธองค์ท่านก็เรียกพระสารีบุตรมาให้สอนหลวงพ่อ พระสารีบุตรท่านว่าเคยสอนแล้วเมื่อปี 2504 แต่หลวงพ่อบอกว่าตอนนั้นทำครั้งเดียวเลิกไปเลย ก็สอนกันใหม่ และพระสารีบุตรท่านก็ติดตามมาสอนหลวงพ่อต่ออีก 3-4 วัน รักษาโรคได้ทั้งทางกายและทางใจพวกคุณไสย พวกผีเข้าเจ้าสิง

    หลวงพ่อพูดแนะนำว่า ” ถ้าผู้หญิงมีครรถ์ ให้ทานน้ำมนต์ทุกวันก่อนจะหลับ อธิษฐานก่อน วันละอึกก็พอ อธิษฐาน ขอให้บุตรในครรค์จงเป็นผู้แข็งแรงไม่มีโรค และมารดาก็ไม่มีโรคด้วย แข็งแรงปลอดภัย เวลาเจ็บท้องใหม่ๆ ดื่มซัก 1 อึก อธิษฐานว่า ขอให้คลอดง่าย อย่างนี้ก็จะคลอดง่าย ”

    ” ถ้าญาติโยมพุทธบริษัทต้องการลาภจากค้าขายทำมาหากิน ถ้าค้าขาย ตอนเช้าไปพรมหน้าร้าน ว่าคาถาตามหนังสือที่แนะนำไปให้ ถ้าต้องการปลูกผักปลูกหญ้า หรือข้าวกล้าทั้งหลายจะลงทำนา เอาน้ำมนต์ไปลงก่อนจะมีผลดีมาก ”

    ” ยันต์นี้มีรูปอาตมาอยู่ด้วย เป็นอันว่าท่านอนุญาติให้ทำ ท่านก็ตั้งราคาเสร็จ เหรียญที่มียันต์นี่ ท่านตั้งราคาบอกว่าใช้ราคาเกิน 30 บาทไม่ได้ ”

    ในพิธีพุทธาภิเษกเหรียญทำน้ำมนต์ที่วิหาร 100 เมตรในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2532 หลวงพ่อเล่าตอนนึงว่า

    ” ทีแรกไม่ให้ทำเลย ไม่ให้แจกเลย(หมายถึงว่าพระท่านไม่ให้ทำเหรียญ ให้ทำเฉพาะแผ่นยันต์อย่างเดียว ทำน้ำมนต์แล้วให้คนมาตักไปเอง ประมาณๆนี้) เพราะกำลังใจคนเราไม่เท่ากัน นี่พระพุทธเจ้าเองนะ ต่อมาขอร้องเข้า คุยกันตั้งแต่ตี 2 ถึงตี 4 เอางี๊ก็แล้วกัน คุณทำได้แต่ทำได้ไม่เกินครั้งนึงไม่เกินพันองค์ เลยบอกท่านว่าถ้าไม่เกินพันองค์นี่มันตีกันแน่ เดี๊ยวก็ขึ้นราคากัน คนที่ได้ไป ก็ไปขึ้นราคากับคนไม่ได้ เลยขออนุญาติท่านเป็นพิเศษว่า เฉพาะรับงานเป่ายันต์คนมาก พันองค์คงไม่ไหว ท่านก็เลยอนุมัติว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกให้เป็นพิเศษให้ 3 หมื่นองค์ แต่ว่าต่อไปจะทำอีก ครั้งต่อไปจะได้ไม่เกินพันองค์ ”

    หลวงพ่อท่านบอกเพิ่มเติมว่า ” บูชาทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกอย่าง ค้าขายก็ได้ หาลาภก็ได้ ปลอดภัยก็มี ทุกอย่างท่านบอกทุกอย่าง วิชานี้โดยตรงผู้ให้คือพระสารีบุตร แต่ว่าการทำคือพระพุทธเจ้าทำ ”

    ” หลวงพ่อบอกเหรียญทำน้ำมนต์นี้ กันและแก้ได้ทุกอย่าง จะรักษาโรคอะไรสุดแท้แต่จะอธิฐาน ”

    วิธีการอาราธนาเหรียญทำน้ำมนต์

    ให้เอาเหรียญใส่ขัน ตั้งนะโม 3จบ แล้วสวด อิติปิโส ทั้ง 3ห้อง (อิติปิโส… สวากขาโต… สุปฏิปันโน…) อีก7จบ และปิดท้ายด้วย นะ มะ พะ ธะ (พร้อมทั้งกำหนดลมหายใจเข้า-ออกด้วยจะดีมาก) อีก 15จบ แล้วอธิษฐานตามความปรารถนา แต่จะมีผลเฉพาะผู้ที่มีความเคารพในพระรัตนตรัยเท่านั้น แล้วนำน้ำมนต์ไปประพรม อาบหรือดี่มกินได้

    ตอนพุทธาภิเษกเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่อเล่าว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิ์สัตว์ พระอรหันต์พรหมและเทวดาทุกๆ พระองค์จะนั่งหลับตาเข้าสมาธิกันหมดโดยไม่ใช้พลังทั้งสิ้น… ต่างกับวัตถุมงคลอื่นๆ ทุกๆพระองค์จะใช้พลังแสงพุ่งออกจากกายที่สำคัญและพิเศษที่สุดคือ เหรียญทำน้ำมนต์ นี้ถือเป็นเหรียญเดียวที่สามารถคลายกฎแห่งกรรมได้ (ปกติกฎแห่งกรรม ไม่สามารถคลายหรือลดได้)

    เหรียญทำน้ำมนต์ถือว่าเป็นเหรียญที่ทำได้ยากมาก กว่าพระท่านจะทรงอนุญาติให้หลวงพ่อสร้างได้ เพราะครั้งแรกจะต้องใช้ทองคำเท่านั้น แต่หลวงพ่อขอพระท่านจนสำเร็จ

    เหรียญนี้พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ลุงพุฒ(ท่านพญายมราช)มาบอกหลวงพ่อ ให้บอกลูกหลานว่า ถ้ามีกำลังใจสูงกำลังใจเข้มข้นแล้ว ก็ไม่ต้องใช้เหรียญทำน้ำมนต์ ให้นึกถึงภาพยันต์น้ำมนต์(ที่อยู่ด้านหลังเหรียญ)ให้อยู่กลางกระหม่อม แล้วก็สวดภาวนาตามวิธีอาราธนาใช้เหรียญไปเรื่อยๆ จะค่อยๆคลายกฎของกรรมได้ ถ้าทำทุกวันต่อไปก็จะเหลือนิดเดียว

    ***************************************

    ถอดจากเทปพิธีพุทธาพิเษกเหรียญทำน้ำมนต์….

    “…เหรียญที่จะได้ไปนี้ทั้งหมด เหรียญชุบทองก็ดี เหรียญเงินก็ตาม เหรียญเงินก็เรียบร้อยไปแล้ว แผ่นเงินก็เรียบร้อยไปแล้ว เพราะว่าไม่ได้ทำเพื่อเช่า แต่พันเอกสถาพร เอามาถวาย ได้เงินเท่าไหร่ก็เขาเอาเข้าวัด ทั้งหมดนี้ทุกท่านนำไปบ้าน เอาไปบูชา แล้วก็ทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกอย่าง ค้าขายก็ได้ มหาลาภก็ได้ ปลอดภัยก็มี ทุกอย่างนะท่านบอกทุกอย่าง…”

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญทำน้ำมนต์ “ผิวทราย” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญทำน้ำมนต์เป็นเหรียญโลหะชุบทอง เดิมๆจะอัดกรอบพลาสติกสีเหลืองจากวัด หลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษก “เหรียญทำน้ำมนต์” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2532 ที่วิหารแก้ว 100 เมตร เวลาประมาณ 6 โมงเย็น (แต่ในหนังสือสมบัติพ่อให้เล่มใหม่ลงไว้ว่าสร้างเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2532) ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อและชื่อ “พระสุธรรมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)” ใต้รูปเขียนว่า “วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” ส่วนด้านหลังเป็นยันต์พระสารีบุตร และคำว่า “ทำน้ำมนต์”

    ถัดไปอีก 2 วันเป็นงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ 13 ในวันเสาร์ 5 ที่ 2 ธันวาคม 2532 พิธีมีขึ้นที่ศาลา 4 ไร่

    จากวิดีโอเทปวันพิธีปลุกเสกเหรียญทำน้ำมนต์และวันพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ถอดคำเฉพาะบางตอนที่หลวงพ่อกล่าวถึงที่มาการสร้างและอานุภาพเหรียญน้ำมนต์ไว้ดังนี้

    ในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรวันที่ 2 ธันวาคม 2532 รอบแรก หลังจากหลวงพ่อได้แนะนำเรื่องการรับและรักษายันต์เกราะเพชรจบแล้ว ท่านได้พูดถึงเรื่องเหรียญทำน้ำมันต์ให้ฟังประมาณนี้ว่า

    ช่วงเดือนตุลาคม ร่างกายท่านเคลียด มีอาการป่วยมาก ท่านขึ้นไปวิมานท่านบนแดนพระนิพพานแล้วตัดสินใจว่าถ้าร่างกายไม่ดีก็จะไม่กลับ พระพุทธองค์ท่านก็มายับยั้ง ท่านบอกกับหลวงพ่อว่าให้เป็นหมอเอาไหม หลวงพ่อบอกว่าร่างกายแบบนี้เป็นหมอไม่มีใครเชื่อถือ เป็นหมอยา หมอพิธีกรรม ท่านไม่อยากเป็นเพราะจิตใจเป็นกังวล ไม่มีสุข

    ท้ายสุดพระท่านบอกว่า ถ้าทำน้ำมนต์อย่างเดียว รักษาได้ทุกโรคเอาไหม หลวงพ่อก็ว่าถ้ารักษาโรคภัยไข้เจ็บทางกายอย่างเดียวเอา แต่ยังไม่พอใจนัก ต้องรักษาโรคทรัพย์จางได้ด้วย พระพุทธองค์ท่านก็เรียกพระสารีบุตรมาให้สอนหลวงพ่อ พระสารีบุตรท่านว่าเคยสอนแล้วเมื่อปี 2504 แต่หลวงพ่อบอกว่าตอนนั้นทำครั้งเดียวเลิกไปเลย ก็สอนกันใหม่ และพระสารีบุตรท่านก็ติดตามมาสอนหลวงพ่อต่ออีก 3-4 วัน รักษาโรคได้ทั้งทางกายและทางใจพวกคุณไสย พวกผีเข้าเจ้าสิง

    หลวงพ่อพูดแนะนำว่า ” ถ้าผู้หญิงมีครรถ์ ให้ทานน้ำมนต์ทุกวันก่อนจะหลับ อธิษฐานก่อน วันละอึกก็พอ อธิษฐาน ขอให้บุตรในครรค์จงเป็นผู้แข็งแรงไม่มีโรค และมารดาก็ไม่มีโรคด้วย แข็งแรงปลอดภัย เวลาเจ็บท้องใหม่ๆ ดื่มซัก 1 อึก อธิษฐานว่า ขอให้คลอดง่าย อย่างนี้ก็จะคลอดง่าย ”

    ” ถ้าญาติโยมพุทธบริษัทต้องการลาภจากค้าขายทำมาหากิน ถ้าค้าขาย ตอนเช้าไปพรมหน้าร้าน ว่าคาถาตามหนังสือที่แนะนำไปให้ ถ้าต้องการปลูกผักปลูกหญ้า หรือข้าวกล้าทั้งหลายจะลงทำนา เอาน้ำมนต์ไปลงก่อนจะมีผลดีมาก ”

    ” ยันต์นี้มีรูปอาตมาอยู่ด้วย เป็นอันว่าท่านอนุญาติให้ทำ ท่านก็ตั้งราคาเสร็จ เหรียญที่มียันต์นี่ ท่านตั้งราคาบอกว่าใช้ราคาเกิน 30 บาทไม่ได้ ”

    ในพิธีพุทธาภิเษกเหรียญทำน้ำมนต์ที่วิหาร 100 เมตรในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2532 หลวงพ่อเล่าตอนนึงว่า

    ” ทีแรกไม่ให้ทำเลย ไม่ให้แจกเลย(หมายถึงว่าพระท่านไม่ให้ทำเหรียญ ให้ทำเฉพาะแผ่นยันต์อย่างเดียว ทำน้ำมนต์แล้วให้คนมาตักไปเอง ประมาณๆนี้) เพราะกำลังใจคนเราไม่เท่ากัน นี่พระพุทธเจ้าเองนะ ต่อมาขอร้องเข้า คุยกันตั้งแต่ตี 2 ถึงตี 4 เอางี๊ก็แล้วกัน คุณทำได้แต่ทำได้ไม่เกินครั้งนึงไม่เกินพันองค์ เลยบอกท่านว่าถ้าไม่เกินพันองค์นี่มันตีกันแน่ เดี๊ยวก็ขึ้นราคากัน คนที่ได้ไป ก็ไปขึ้นราคากับคนไม่ได้ เลยขออนุญาติท่านเป็นพิเศษว่า เฉพาะรับงานเป่ายันต์คนมาก พันองค์คงไม่ไหว ท่านก็เลยอนุมัติว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกให้เป็นพิเศษให้ 3 หมื่นองค์ แต่ว่าต่อไปจะทำอีก ครั้งต่อไปจะได้ไม่เกินพันองค์ ”

    หลวงพ่อท่านบอกเพิ่มเติมว่า ” บูชาทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกอย่าง ค้าขายก็ได้ หาลาภก็ได้ ปลอดภัยก็มี ทุกอย่างท่านบอกทุกอย่าง วิชานี้โดยตรงผู้ให้คือพระสารีบุตร แต่ว่าการทำคือพระพุทธเจ้าทำ ”

    ” หลวงพ่อบอกเหรียญทำน้ำมนต์นี้ กันและแก้ได้ทุกอย่าง จะรักษาโรคอะไรสุดแท้แต่จะอธิฐาน ”

    วิธีการอาราธนาเหรียญทำน้ำมนต์

    ให้เอาเหรียญใส่ขัน ตั้งนะโม 3จบ แล้วสวด อิติปิโส ทั้ง 3ห้อง (อิติปิโส… สวากขาโต… สุปฏิปันโน…) อีก7จบ และปิดท้ายด้วย นะ มะ พะ ธะ (พร้อมทั้งกำหนดลมหายใจเข้า-ออกด้วยจะดีมาก) อีก 15จบ แล้วอธิษฐานตามความปรารถนา แต่จะมีผลเฉพาะผู้ที่มีความเคารพในพระรัตนตรัยเท่านั้น แล้วนำน้ำมนต์ไปประพรม อาบหรือดี่มกินได้

    ตอนพุทธาภิเษกเหรียญทำน้ำมนต์ หลวงพ่อเล่าว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิ์สัตว์ พระอรหันต์พรหมและเทวดาทุกๆ พระองค์จะนั่งหลับตาเข้าสมาธิกันหมดโดยไม่ใช้พลังทั้งสิ้น… ต่างกับวัตถุมงคลอื่นๆ ทุกๆพระองค์จะใช้พลังแสงพุ่งออกจากกายที่สำคัญและพิเศษที่สุดคือ เหรียญทำน้ำมนต์ นี้ถือเป็นเหรียญเดียวที่สามารถคลายกฎแห่งกรรมได้ (ปกติกฎแห่งกรรม ไม่สามารถคลายหรือลดได้)

    เหรียญทำน้ำมนต์ถือว่าเป็นเหรียญที่ทำได้ยากมาก กว่าพระท่านจะทรงอนุญาติให้หลวงพ่อสร้างได้ เพราะครั้งแรกจะต้องใช้ทองคำเท่านั้น แต่หลวงพ่อขอพระท่านจนสำเร็จ

    เหรียญนี้พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ลุงพุฒ(ท่านพญายมราช)มาบอกหลวงพ่อ ให้บอกลูกหลานว่า ถ้ามีกำลังใจสูงกำลังใจเข้มข้นแล้ว ก็ไม่ต้องใช้เหรียญทำน้ำมนต์ ให้นึกถึงภาพยันต์น้ำมนต์(ที่อยู่ด้านหลังเหรียญ)ให้อยู่กลางกระหม่อม แล้วก็สวดภาวนาตามวิธีอาราธนาใช้เหรียญไปเรื่อยๆ จะค่อยๆคลายกฎของกรรมได้ ถ้าทำทุกวันต่อไปก็จะเหลือนิดเดียว

    ******************************************

    ถอดจากเทปพิธีพุทธาพิเษกเหรียญทำน้ำมนต์….

    “…เหรียญที่จะได้ไปนี้ทั้งหมด เหรียญชุบทองก็ดี เหรียญเงินก็ตาม เหรียญเงินก็เรียบร้อยไปแล้ว แผ่นเงินก็เรียบร้อยไปแล้ว เพราะว่าไม่ได้ทำเพื่อเช่า แต่พันเอกสถาพร เอามาถวาย ได้เงินเท่าไหร่ก็เขาเอาเข้าวัด ทั้งหมดนี้ทุกท่านนำไปบ้าน เอาไปบูชา แล้วก็ทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกอย่าง ค้าขายก็ได้ มหาลาภก็ได้ ปลอดภัยก็มี ทุกอย่างนะท่านบอกทุกอย่าง…”

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญที่ระลึกงานผูกพัทธสีมา ปี20 ชุบกะไหล่ทองพร้อมโบว์บารมี30ทัศ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)

    เป็นเหรียญชุบกะไหล่ทอง มีโบว์บารมี30ทัศติดเข็มกลัดด้านบน หลวงพ่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในงานผูกพัทธสีมาวัดท่าซุง เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2520

    ด้านหน้าสร้างเป็นรูปหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ครึ่งองค์ มีข้อความด้านบนเขียนว่า “ที่ระลึกผูกพัทธสีมา” ด้านล่างเขียนว่า “หลวงพ่อปาน” ส่วนด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อครึ่งองค์ มีข้อความด้านล่างเขียนว่า “พระมหาวีระ ถาวโร” พุทธคุณสูงมาก เด่นในด้านคุ้มกันภัย และป้องกันโรคระบาดทั้งปวง

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญที่ระลึกงานเป่ายันต์เกราะเพชร ปี๒๗ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่๓ เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2527

    ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อมีอักขระ ” มะ อะ อุ ” และยันต์อุณาโลมเปล่งรัศมี และมีข้อความ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง” อยู่ในโบว์ด้านล่าง
    ส่วนด้านหลัง เป็นยันต์เกราะเพชร มีข้อความ “ที่ระลึกงานเป่ายันต์เกราะเพชร ๗ ม.ค. ๒๕๒๗”

    ว่ากันว่า ผู้ใดมีวัตถุมงคลที่เข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรติดตัว ก็เหมือนได้เข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร แต่ต้องไม่เกินวิสัยกฎแห่งกรรม และต้องไม่ผิดศีลข้อที่2 และข้อที่5 ถึงจะเป็นผล

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญบูชาพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    ร.ต. มังกุร ชัยพันธุ์ สร้างถวายหลวงพ่อ จำนวน 20,000 เหรียญ เป็นเหรียญทองแดงรมดำ หลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษกที่บ้าน พล.อ.ท. ม.ร.ว. เสริม ศุขสวัสดิ์ (บ้านสายลม) เมื่อวันเสาร์ที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ (วันเสาร์ห้า)

    ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อมีอักขระคาถารอบและมีข้อความ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ” ใต้รูป
    ส่วนด้านหลัง เป็นยันต์ท่านท้าวมหาชมภู มีพุทธคาถาและคาถาหัวใจต่าง ๆ ล้อมรอบ ด้านล่างมีข้อความว่า “คณะศิษย์จัดสร้างบูชาพระคุณหลวงพ่อ”

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญผูกพัทธสีมา อัลปาก้า ปี20 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เป็นเหรียญชุบอัลปาก้าที่หลวงพ่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในงานผูกพัทธสีมาวัดท่าซุง เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2520

    ด้านหน้าสร้างเป็นรูปหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ครึ่งองค์ มีข้อความด้านบนเขียนว่า “ที่ระลึกผูกพัทธสีมา” ด้านล่างเขียนว่า “หลวงพ่อปาน” ส่วนด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร มีข้อความด้านบนเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน” ด้านล่างเขียนว่า “๒๓ เม.ย.๒๕๒๐” พุทธคุณสูงมาก เด่นในด้านคุ้มกันภัย และป้องกันโรคระบาดทั้งปวง

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญผูกพัทธสีมา เหรียญคู่พร้อมโบว์ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญผูกพัทธสีมา ( เหรียญคู่ ) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สร้างปี 2520

    เป็นเหรียญโลหะชุบสีทอง เป็นเหรียญคู่กัน เหรียญหนึ่งเป็นรูปหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค มีข้อความด้านหน้าเขียนว่า “ที่ระลึกผูกพัทธสีมา หลวงพ่อปาน” ด้านหลัง เป็นยันต์ประจำองค์หลวงพ่อปาน และลงวันที่ 23 เมษายน 2520 ส่วนอีกเหรียญหนึ่งเป็นรูปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ด้านหน้าเขียนข้อความว่า “ที่ระลึกผูกพัทธสีมา พระมหาวีระถาวโร” ด้านหลังเป็นรูปยันต์เกราะเพชร

    พุทธคุณรุ่นนี้จะเด่นเป็นพิเศษในด้านของการป้องกันโรคระบาด

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญพระยืน 30ศอก “หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    หลวงพ่อท่านสร้างเป็นเหรียญโลหะสีนาค สร้างเมื่อปี พ.ศ.2533 ด้านหน้าเป็นรูปพระยืนอุ้มบาตร 30ศอก มีข้อความด้านบนว่า “พระยืนสามสิบศอก” ใต้องค์พระเขียนว่า “วัดจันทาราม (วัดท่าซุง)” ส่วนด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อยืนถือไม้เท้า มีชื่อ “พระราชพรหมยาน” อยู่ด้านบน และด้านล่างเขียนว่า “จ.อุทัยธานี ๒๕๓๓”

    เมื่อพระสร้างเสร็จแล้ว หลวงพ่อท่านกำหนดจิตสักพักหนึ่ง ท่านพูดบอกว่า พระองค์นี้มีลาภมาก จึงเป็นที่มาของเหรียญคำว่า “หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา” จะให้การเงินคล่องตัว ต้องบูชาพร้อมสวดพระคาถาเงินล้าน

    พระคาถาเงินล้าน
    (ตั้งนะโมฯ 3 จบ )

    สัมปจิตฉามิ (คาถาสนองกลับ)
    นาสังสิโม (คาถาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธกัสสป)
    พรหมา จะ มหาเทวา สัมเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะมหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม (คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
    พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้เร็วขึ้น)
    เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤๅๆ

    (บูชา 9 จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)

    ตั้งจิตอธิษฐานขออาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา ขอให้ความปรารถนาทุกอย่างจงสำเร็จทุกประการ หรืออธิษฐานขอเฉพาะเรื่อง เมื่อสำเร็จแล้วทำบุญถวายแด่องค์ท่าน

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญมหาลาภ – เอกราช หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

    เหรียญมหาลาภ-เอกราช สร้างขึ้นในปี 2520 มีอยู่ด้านกัน 2เนื้อ คือเนื้อโลหะรมดำ และโลหะชุบทอง ในส่วนของเหรียญเนื้อโลหะชุบทองนั้นจะมีโบว์เป็นเข็มกลัดติดเสื้อด้วย

    ลักษณะ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อปาน มีข้อความด้านบนเขียนว่า “หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค” ส่วนด้านล่างเขียนว่า “มหาลาภ”
    ด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มีข้อความด้านบนเขียนคำว่า “พระมหาวีระ ถาวโร” ส่วนด้านล่างเขียนว่า “เอกราช”

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญมหาลาภ ปี30 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญมหาลาภ ปี30รุ่นนี้ ถือเป็นเหรียญมหาลาภ รุ่นที่2 เข้าพิธีพุทธาภิเษกในงานสะเดาะเคราะห์ใหญ่ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2530 ปลุกเสกพร้อมพระบูชาแก้วใสรุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พระวิสุทธิเทพแก้ว รูปหล่อหลวงปู่ปาน-หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระบูชาสุโขทัย ๓ นิ้ว, ๕ นิ้ว, ๙ นิ้ว รูปเหมือนท่านแม่ทั้งสามเนื้อเรซิ่นใส รวมถึงแหวนเพชรจักรพรรดิ์

    ว่ากันว่า….บูชาเหรียญนี้ติดกระเป๋าใส่สตางค์หรือที่เก็บเงิน แล้วเงินจะไม่ขาดมือ อธิษฐานได้ดังหวังตลอด ถ้าจะให้ดี ให้บูชาด้วยคาถาเงินล้าน แล้วปลุกด้วยคาถาหลวงปู่ปาน มีลูกศิษย์นำไปบูชาแล้วได้ผลกันแล้วมากมาย

    เหรียญมหาลาภ รุ่น2 นี้จะเป็นเหรียญคู่ มี 2 แบบ คือ
    1. ด้านหน้ารูปหลวงพ่อ มีชื่อ “พระสุธรรมยานเถระ” ใต้องค์หลวงพ่อ
    ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร เขียนว่า “ทำบุญต่ออายุ พ.ศ.๒๕๓๐”

    2. ด้านหน้ารูปหลวงพ่อ มีชื่อ “พระสุธรรมยานเถระ” ใต้องค์หลวงพ่อ
    ด้านหลังเป็นรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เขียนว่า “ทำบุญถวายพระราชกุศล ๒๕๓๐”

    แต่ถ้าเป็นเหรียญเนื้อเงิน จะมีแค่แบบที่ 1 (ด้านหน้ารูปหลวงพ่อ ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร) อย่างเดียว จัดสร้างจำนวนไม่มากนัก น่าจะประมาณราวๆ 30เหรียญ

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญมหาลาภ ปี30 มีหมายเลข (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญมหาลาภ ปี30รุ่นนี้ ถือเป็นเหรียญมหาลาภ รุ่นที่2 เข้าพิธีพุทธาภิเษกในงานสะเดาะเคราะห์ใหญ่ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2530 ปลุกเสกพร้อมพระบูชาแก้วใสรุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พระวิสุทธิเทพแก้ว รูปหล่อหลวงปู่ปาน-หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระบูชาสุโขทัย ๓ นิ้ว, ๕ นิ้ว, ๙ นิ้ว รูปเหมือนท่านแม่ทั้งสามเนื้อเรซิ่นใส รวมถึงแหวนเพชรจักรพรรดิ์

    ว่ากันว่า….บูชาเหรียญนี้ติดกระเป๋าใส่สตางค์หรือที่เก็บเงิน แล้วเงินจะไม่ขาดมือ อธิษฐานได้ดังหวังตลอด ถ้าจะให้ดี ให้บูชาด้วยคาถาเงินล้าน แล้วปลุกด้วยคาถาหลวงปู่ปาน มีลูกศิษย์นำไปบูชาแล้วได้ผลกันแล้วมากมาย

    เหรียญมหาลาภ รุ่น2 นี้จะเป็นเหรียญคู่ มี 2 แบบ คือ
    1. ด้านหน้ารูปหลวงพ่อ มีชื่อ “พระสุธรรมยานเถระ” ใต้องค์หลวงพ่อ
    ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร เขียนว่า “ทำบุญต่ออายุ พ.ศ.๒๕๓๐”

    2. ด้านหน้ารูปหลวงพ่อ มีชื่อ “พระสุธรรมยานเถระ” ใต้องค์หลวงพ่อ
    ด้านหลังเป็นรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เขียนว่า “ทำบุญถวายพระราชกุศล ๒๕๓๐”

    แต่ถ้าเป็นเหรียญเนื้อเงิน จะมีแค่แบบที่ 1 (ด้านหน้ารูปหลวงพ่อ ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร) อย่างเดียว จัดสร้างจำนวนไม่มากนัก น่าจะประมาณราวๆ 30เหรียญ

    ********************************************

    ปล.ที่มาที่ไปสำหรับเหรียญมหาลาภที่มีหมายเลขนั้น ได้มีลูกศิษย์หลวงพ่ออาวุโสท่านนึง ได้บูฃาเหรียญมหาลาภคู่2เหรียญจากวัด ในราคาคู่ละ 320บาทในสมัยนั้น ไปจำนวน 1,000คู่ แล้วนำเหรียญไปยิงเลเซอร์หมายเลขกำกับเป็นคู่ๆตรงกัน (ในตำแหน่ง ต่อจากชื่อ พระสุธรรมยานเถระ ในฝั่งเหรียญด้านหลวงพ่อ) โดยความตั้งใจเดิมนั้นต้องการจะนำเหรียญ ด้านหน้าหลวงพ่อ-ด้านหลังยันต์เกราะเพชร ออกให้ร่วมบุญกัน 1,000เหรียญ และนำเหรียญด้านหน้าหลวงพ่อ-ด้านหลังในหลวง อีก 1,000เหรียญ ส่งมอบให้กับทหารชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปกป้องประเทศและต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย

    เหรียญหลวงพ่อ-ยันต์เกราะเพชร ที่นำออกให้ร่วมบุญ ก็ได้ถูกร่วมบุญไปบางส่วน อีกบางส่วนศิษย์อาวุโสก็ยังเก็บไว้เพื่อออกงานบุญในวาระต่อๆไป ส่วนเหรียญหลวงพ่อ-ในหลวง เดิมที่จะส่งไปให้ทหารชายแดนภาคใต้ ศิษย์อาวุโสท่านนี้พอดีได้มีโอกาสเล่าเรื่องนี้หลวงพ่อหนุนฟัง ท่านเลยบอกว่าไม่ต้องส่งไปหรอก (จะด้วยเหตุที่ท่านรู้ก็ได้ว่า ส่งไปแล้วอาจจะไม่ถึงมือทหารตามเจตนารมณ์) ศิษย์อาวุโสท่านนี้เลยถวายเหรียญชุดนี้ทั้งหมดไว้กับหลวงพ่อหนุนเลย

    นำเรื่องราวมาบอกกล่าวให้ทราบกัน ว่าเดิมๆจากวัดนั้นไม่มีหมายเลข มาทำกันเองในภายหลังครับ

    Read more
  • เหรียญ

    เหรียญมหาลาภ รุ่น1 ปี2519 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เหรียญมหาลาภ รุ่นแรก สร้างเมื่อปี พ.ศ.2519 เป็นเนื้ออัลป้าก้าชุบเงิน จำนวนสร้างประมาณ 10,000เหรียญ

    ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อหันข้าง มีข้อความว่า “เหรียญมหาลาภ” อยู่ด้านบน และ ข้อความ “หลวงพ่อมหาวีระ ถาวโร” อยู่ด้านล่าง
    ด้านหลัง มีข้อความ “มหาปุญโญ มหาลาโภ ภวันตุเม ย.พ.ส. บางมูลนาค ๒๕๑๙”

    โดยพระครูวิจารณ์วิหารกิจ (หลวงพ่อพระครูสุรินทร์) ได้นำครูวิเชียร นันทนพิบูล นายกยุวพุทธิกสมาคม บางมูลนาก มาขออนุญาตสร้าง เพื่อแจกผู้ทำบุญกับสมาคม

    หลวงพ่อพุทธาภิเษก ณ วัดท่าซุง ตลอดไตรมาส 3เดือนเต็ม ปี19 ด้วยพระคาถาเงินล้าน

    ปล. หลวงพ่อท่านได้แนะนำลูกศิษย์ให้นำเหรียญนี้ติดกระเป๋าสตางค์ไว้ บูชาเหรียญนี้แล้ว เงินทองจะไม่ขาดมือ

    Read more