พระบูชา พระพุทธ
-
พระบูชา 2นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม รุ่นครบรอบ ๙๙ปีเกิด (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระบูชา 2นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม จัดสร้างเนื่องในวาระครบรอบ ๙๙ปีเกิด ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง ในปี2558 หล่อด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ มีทั้งแบบปิดทองทั้งองค์ ปิดทองที่องค์พระ และไม่ปิดทอง สร้างออกมาได้ปราณีตสวยสดงดงามมากๆ ใต็ฐานสลักข้อความว่า…
“เราพระมหาวีระ มีพระราชานามว่า ภูมิพล เป็นผู้อุปถัมภ์
ร่วมด้วยพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ สร้างวัดนี้เป็นพุทธบูชา
เมื่อศักราชล่วงไป ๒,๗๐๐ ปีปลาย จะมีพระเจ้าธรรมิกราชนามว่า ศิริธรรมาราชา
สืบเชื้อสายมาจากเชียงแสนและสุโขทัย ร่วมกับพระอรหันต์
จะมาบูรณะวัดนี้ สืบพระศาสนาด่อไป คณะของเราขอโมทนา
แต่อยู่ช่วยไม่ได้เพราะไปพระนิพพานหมดแล้ว”
เป็นข้อความที่หลวงพ่อ จารึกใต้ฐานพระประธานอุโบสถวัดท่าซุง เมื่อปี ๒๕๑๙
-
พระบูชา 9นิ้ว หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ รุ่น๑ ฐานบัว (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
สำหรับพระบูชา 9นิ้ว หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ รุ่นฐานบัว ทางวัดท่าซุงจัดสร้างเพียง 500องค์ เพื่อนำปัจจัยร่วมสร้างวิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ พุทธลักษณะปางมารวิชัย ที่ด้านหน้าตรงฐานพระจะตอกโค๊ตระฆัง และเขียนเลข ๑ ที่ด้านหลังองค์พระเขียนว่า “หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์”
ชนวนมวลสารในการหล่อ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ รุ่นฐานบัว หน้าตัก 9 นิ้ว ประกอบด้วย
1.ชนวนมวลสารของสมเด็จองค์ปฐม
2.ชนวนมวลสารจากของการหล่อ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ 19 องค์ (หน้าตัก 3 เมตร 2 องค์ และ หน้าตัก 24 นิ้ว 17 องค์) ที่ประดิษฐานรอบวิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ และ บนหน้าบัน
3.ชนวนมวลสารทองสัมฤทธิ์จากการหล่อระฆังหมุนหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ รับพระเคราะห์เสวยอายุ สูง 3 เมตร
4.ทองคำพุทธาภิเษก วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2557 ที่โบสถ์วัดท่าซุง
**************************************************************************************************
หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่เก่าแก่ อยู่ในวิหารหลวงปู่ใหญ่มาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ (หลวงปู่ใหญ่ท่านมาบูรณะวัดท่าซุงนี้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ครองราชย์ได้ปีที่ ๙ ปี ท่านมาถึงวัดท่าซุงเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๓๓๒)
ในวิหารนี้มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่หลายองค์ส่วนมากจะปั้นเป็นพระพุทธรูปทรงสมัยอยุธยาเป็นเกศหนามขนุนทั้งสิ้น ต่อมาพระพุทธรูปบางองค์รวมทั้งหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ถูกพวกมิจฉาชีพตัดเอาเศียรพระไป และมีคนมาปั้นเศียรพระต่อให้แต่ก็ไม่สวยงามเท่าไรนัก โดยปั้นเป็นหน้าคนฟันเหยิน ตาโปน หมุ่นมวยผม
ดังนั้น เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๓ ผู้บูรณะได้กราบขออนุญาตจากพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อมหาวีระ ถาวโร หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เจ้าอาวาสวัดท่าซุงในสมัยนั้น) ซ่อมแซมพระพุทธรูปทั้งหมดที่ชำรุด รวมทั้งขอปั้นปูนทับอค์หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ด้วย หลวงพ่อท่านอนุญาต และได้กล่าวอีกว่า พระพุทธรูปองค์นี้ เมื่อปั้นเสร็จให้ทำป้ายชื่อติดเอาไว้ พ่อให้ชื่อท่านว่า “หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์” ต่อไปในภายภาคหน้าจะมีคนขึ้นกับท่านมาก และนี่ก็คือประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ตามที่ได้กล่าวมาจนถึงทุกวันนี้…
สิ่งที่ผู้คนนิยมมาทำบุญแลขอพระกับหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์มากทีเห็นก็คงจะเป็นการถวายผ้าสไบห่มองค์พระ โดยจะมีหลวงพี่องค์หนึ่งท่านนำสวดถวายและขอพรให้ เรียกว่าแบบละเอียดเลยก็ว่าได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนเยอะขนาดไหน ถ้าคนเยอะเกินไปท่านจะไม่อธิบายมาก แนะนำให้ไปวันธรรมดาคนน้อยๆท่านจะเล่าสาระดีๆให้เกี่ยวกับหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ให้ฟังอย่างละเอียด
ฉะนั้นถ้าใครได้อ่านและปรารถนาที่จะได้ชมบารมีของท่านก็ขอเชิญสักการะได้ที่วิหารหลวงปู่ใหญ่ อยู่คู่กับโบสถ์เก่า วัดท่าซุง ท่านเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก บางท่านได้อธิษฐานจิตขอพรจากท่าน และได้สมความปรารถนาก็มีหลายราย ดังนั้นท่านใดที่สนใจจะเข้าชมบารมีหรืออธิษฐานจิตขอพรจากท่านก็เชิญได้ตามที่ปรารถนา ถ้าไม่เกินวิสัยก็ขอให้โชคดี สมความปรารถนาทุกผู้คน
คาถาบูชาหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์
ตั้ง นะโม 3 จบ
อิติ สุคะโต นะโมพุทธายะ พุทธบูชา วันทามิ
ให้ว่าคาถานี้วันละ 9 จบ เป็นอย่างน้อย บูชาทุกวัน จัดเป็น “พุทธานุสสติ” และเป็นการเสริมบุญบารมี ความเป็นศิริมงคลแก่ตัวผู้สวดได้เป็นอย่างดี..
-
พระบูชา 9นิ้ว หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ รุ่นฐานผ้าทิพย์ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
สำหรับพระบูชา 9นิ้ว หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ รุ่นฐานผ้าทิพย์ ทางวัดท่าซุงจัดสร้างเบื้องต้นเสร็จในชุดแรก 50กว่าองค์ พุทธลักษณะปางมารวิชัย นั่งประทับบนฐานสูงผ้าทิพย์ ที่ด้านหน้าตรงฐานพระจะตอกโค๊ตระฆัง จัดสร้างออกมาด้วยกัน 3เนื้อ คือ เนื้อทองเหลืองขัดเงา, เนื้อทองเหลืองผิวด้าน และเนื้อรมดำ
และทางวัดได้เตรียมนำพระชุดนี้ขึ้นทูลเกล้าถวายในหลวงด้วย เข้าพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันเสาร์ ที่ 20 กันยายน พ.ศ.2557 ที่โบสถ์วัดท่าซุง
**************************************************************************************************
หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่เก่าแก่ อยู่ในวิหารหลวงปู่ใหญ่มาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ (หลวงปู่ใหญ่ท่านมาบูรณะวัดท่าซุงนี้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ครองราชย์ได้ปีที่ ๙ ปี ท่านมาถึงวัดท่าซุงเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๓๓๒)
ในวิหารนี้มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่หลายองค์ส่วนมากจะปั้นเป็นพระพุทธรูปทรงสมัยอยุธยาเป็นเกศหนามขนุนทั้งสิ้น ต่อมาพระพุทธรูปบางองค์รวมทั้งหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ถูกพวกมิจฉาชีพตัดเอาเศียรพระไป และมีคนมาปั้นเศียรพระต่อให้แต่ก็ไม่สวยงามเท่าไรนัก โดยปั้นเป็นหน้าคนฟันเหยิน ตาโปน หมุ่นมวยผม
ดังนั้น เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๓ ผู้บูรณะได้กราบขออนุญาตจากพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อมหาวีระ ถาวโร หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เจ้าอาวาสวัดท่าซุงในสมัยนั้น) ซ่อมแซมพระพุทธรูปทั้งหมดที่ชำรุด รวมทั้งขอปั้นปูนทับอค์หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ด้วย หลวงพ่อท่านอนุญาต และได้กล่าวอีกว่า พระพุทธรูปองค์นี้ เมื่อปั้นเสร็จให้ทำป้ายชื่อติดเอาไว้ พ่อให้ชื่อท่านว่า “หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์” ต่อไปในภายภาคหน้าจะมีคนขึ้นกับท่านมาก และนี่ก็คือประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ตามที่ได้กล่าวมาจนถึงทุกวันนี้…
สิ่งที่ผู้คนนิยมมาทำบุญแลขอพระกับหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์มากทีเห็นก็คงจะเป็นการถวายผ้าสไบห่มองค์พระ โดยจะมีหลวงพี่องค์หนึ่งท่านนำสวดถวายและขอพรให้ เรียกว่าแบบละเอียดเลยก็ว่าได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนเยอะขนาดไหน ถ้าคนเยอะเกินไปท่านจะไม่อธิบายมาก แนะนำให้ไปวันธรรมดาคนน้อยๆท่านจะเล่าสาระดีๆให้เกี่ยวกับหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ให้ฟังอย่างละเอียด
ฉะนั้นถ้าใครได้อ่านและปรารถนาที่จะได้ชมบารมีของท่านก็ขอเชิญสักการะได้ที่วิหารหลวงปู่ใหญ่ อยู่คู่กับโบสถ์เก่า วัดท่าซุง ท่านเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก บางท่านได้อธิษฐานจิตขอพรจากท่าน และได้สมความปรารถนาก็มีหลายราย ดังนั้นท่านใดที่สนใจจะเข้าชมบารมีหรืออธิษฐานจิตขอพรจากท่านก็เชิญได้ตามที่ปรารถนา ถ้าไม่เกินวิสัยก็ขอให้โชคดี สมความปรารถนาทุกผู้คน
คาถาบูชาหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์
ตั้ง นะโม 3 จบ
อิติ สุคะโต นะโมพุทธายะ พุทธบูชา วันทามิ
ให้ว่าคาถานี้วันละ 9 จบ เป็นอย่างน้อย บูชาทุกวัน จัดเป็น “พุทธานุสสติ” และเป็นการเสริมบุญบารมี ความเป็นศิริมงคลแก่ตัวผู้สวดได้เป็นอย่างดี..
-
พระบูชา10นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระบูชาสมเด็จองค์ปฐมองค์นี้ ประดับเพชรบางส่วน มีหน้าตัก 10นิ้วเต็ม พุทธลักษณะผสมผสานระหว่างรุ่นหลังแดง กับรุ่น2สร้างโรงงานที่ตอกหมายเลข ที่ซุ้มและที่ฐานองค์พระไม่มีตอกอะไร ส่วนแผ่นป้าย “สมเด็จองค์ปฐม” และ “วัดท่าซุ่ง จ.อุทัยทานี” ที่ติดทั้งสองฝั่งก็เป็นแผ่นป้ายยุคแรก โดยเฉพาะแผ่น “วัดท่าซุ่ง” เป็นแผ่นที่ติดของรุ่นแรก หลังแดง (มีไม้เอก ซุ่ง)
เป็นรุ่นที่ยังหาที่มาที่ไปของรุ่นไม่แน่ชัด แต่ส่วนตัวมองว่ารุ่นนี้สร้างในสมัยหลวงพ่อ โรงหล่อพระปฐมของช่างเสริฐน่าจะเป็นคนสร้าง (ในช่วงที่ทางวัดสั่งรุ่น2ที่ตอกมายเลขอีกโรงหล่อนึง) แล้วนำแผ่นป้าย “วัดท่าซุ่ง” ที่เหลือจากรุ่นแรกหลังแดง มาใส่กับรุ่นนี้ด้วย
และอีกประเด็นที่เชื่อว่ารุ่นนี้สร้างในสมัยหลวงพ่อ คือ หลวงพ่ออนันต์ท่านสร้างพระบูชาที่ออกมาใหม่ ขนาดองค์ใหญ่จะมีขนาด 9นิ้ว -9นิ้วกว่าๆ จะไม่สร้างเต็ม10นิ้วเทียบวัดรอยเท้าครูบาอาจารย์ และก็เจอพระรุ่นนี้ที่บ้านศิษย์รุ่นเก่าๆที่ยืนยันว่าบูชามาจากวัดในสมัยหลวงพ่อ
-
พระบูชา พระพุทธ พระบูชาพระพุทธ-โชว์
พระบูชา10นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม ตอกโค๊ต A (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระบูชาสมเด็จองค์ปฐมองค์นี้ผมบูชามาจากที่วัดท่าซุงโดยตรง เมื่อราวๆปี36ตอนไปวัดครั้งแรก ตอนนั้นเพิ่งจะเริ่มรู้จักหลวงพ่อ ยังไม่ได้เก็บสะสมหรือศึกษาพระหลวงพ่อเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าองค์ไหนรุ่นไหน ตั้งใจนิมนต์ท่านเป็นพระประธานประจำบ้าน พระเจ้าหน้าที่หยิบองค์ไหนมาให้ ก็องค์นั้น ตอนนั้นทำบุญ 9,000บาท ประดับเพชรบางส่วน
พอมาเริ่มที่จะศึกษาและสะสมพระหลวงพ่อ ก็ลองมาดูองค์ของตนเองที่บูชามา งงมากๆว่าองค์นี้มีหน้าตัก 10นิ้วเต็ม พุทธลักษณะพิมพ์คล้ายคลึงกับรุ่น2ที่ตอกหมายเลข แต่เป็นคนละพิมพ์กัน ตอกโค๊ดเป็นตัว “A” ที่ยอดซุ้ม และที่ฐานด้านหลังไม่ได้ตอกอะไร (ถ้าเป็นรุ่นตอกหมายเลขก็จะตอกเป็นตัวเลขอารบิคที่ส่วนโค้งข้างพระกรรณและที่ฐาน) ส่วนแผ่นป้าย “สมเด็จองค์ปฐม” และ “วัดท่าซุ่ง จ.อุทัยธานี” ที่ติดทั้งสองฝั่งก็เป็นแผ่นป้ายยุคแรก โดยเฉพาะแผ่น “วัดท่าซุ่ง” เป็นแผ่นที่ติดของรุ่นแรก หลังแดง (มีไม้เอก ซุ่ง)
สรุป ตอนนี้ศึกษาพระหลวงพ่อแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นไหนกันแน่ แต่มีข้อสังเกตุอยู่ว่า หลวงพ่อจะสร้างองค์พระหน้าตัก10นิ้วเต็ม (พอมาในยุคหลวงพ่ออนันต์ท่านจะสร้างหน้าตัก9นิ้วกว่าๆ เพื่อไม่ให้เป็นการวัดรอยเท้า ตีเสมอครูบาอาจารย์ที่ทางพระท่านถือกันมาก) และแผ่นป้ายที่ติด ตอก “วัดท่าซุ่ง” (มีไม้เอก) เป็นแผ่นป้ายของรุ่นหลังแดงที่สร้างโดยช่างเสริฐ แต่รุ่น2ตอกหมายเลขจะสร้างที่โรงงาน ซึ่งสร้างกันคนละที่ จึงเป็นไปได้ว่า พระพิมพ์นี้สร้างในช่วงที่ทางวัดให้โรงงานสร้าง ส่วนช่างเสริฐก็สร้างพิมพ์นี้ขึ้นมาใหม่ ก็ทำของท่านไป แล้วเอาแผ่นป้ายที่เหลือจากรุ่นหลังแดงมาติด พระมีจำนวนน้อย แทบจะไม่มีให้เห็นเลย
แต่จะเป็นรุ่นไหนก็ชั่ง องค์นี้รักมากมาย นิมนต์ท่านเป็นพระประธานประจำบ้านตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันนี้ สาธุ _/|\_
-
พระบูชา พระพุทธ พระบูชาพระพุทธ-โชว์
พระบูชา10นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม รุ่น1 หลังแดง (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อดำริให้สร้างเมื่อราวๆปี2535 เททองหล่อที่วัดโดยช่างประเสริฐ สร้างได้ประมาณ 500องค์ ลูกศิษย์จองกันหมด ช่างสร้างกันไม่ทัน หลวงพ่อจึงสั่งให้ไปหล่อที่โรงงานเพื่อเพิ่มความรวดเร็วขึ้น
รุ่นนี้ถือเป็นพระบูชาสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก มีทั้งขนาด10นิ้ว และ5นิ้ว พุทธลักษณะองค์พระจะหล่อหนามีน้ำหนักมาก ดูล่ำอิ่มเอม เม็ดพระศกจะใหญ่ และเมื่อนับพระศกจากตรงกลางหน้าผากขึ้นไปจรดเปลวพระเพลิงจะได้9เม็ด ซุ้มเรือนแก้วจะหนาและแนบชิดกับองค์พระ ใต้ฐานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนด้านหลังจะไม่ตอกหมายเลขกับกับ แผ่นป้ายที่ติดมีทั้งที่เขียนว่า “วัดท่าซุง” และ “วัดท่าซุ่ง” ถือเป็นจักรพรรดิ์แห่งพระบูชาอันดับหนึ่งของวัดท่าซุง
**************************************************
คำสอนสมเด็จองค์ปฐมบรมครู (สมเด็จพระพุทธสิขีทศพล ที่ 1)
หลวงพ่อได้เมตตา สรุปใจความสั้นๆ ตามที่ท่านเทศน์ไว้ดังนี้…..
“ท่านทั้งหลาย การหลบหลีก ไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรก เป็นต้น เป็นของไม่ยาก
1. ขอทุกท่าน จงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้(ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหมในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพานแล้ว ตั้งใจไปพระนิพพานโดยเฉพาะ เท่านี้ทุกท่านจะหนีอบายภูมิพ้น และไปพระนิพพานได้ในที่สุด”หมายเหตุ : เทศน์ที่ ”เทวสภา” วันที่ 8 สิงหาคม 2535 เวลา 8.00 น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน เมตตาเล่าให้ลูกหลานฟัง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2535 เวลา 21.00 น.
*****************************************************
-
๑. พระบูชา พระบูชา พระพุทธ พระยอดนิยม
พระบูชา10นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม รุ่น1 หลังแดง (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อดำริให้สร้างเมื่อราวๆปี2535 เททองหล่อที่วัดโดยช่างประเสริฐ สร้างได้ประมาณ 500องค์ ลูกศิษย์จองกันหมด ช่างสร้างกันไม่ทัน หลวงพ่อจึงสั่งให้ไปหล่อที่โรงงานเพื่อเพิ่มความรวดเร็วขึ้น
รุ่นนี้ถือเป็นพระบูชาสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก มีทั้งขนาด10นิ้ว และ5นิ้ว พุทธลักษณะองค์พระจะหล่อหนามีน้ำหนักมาก ดูล่ำอิ่มเอม เม็ดพระศกจะใหญ่ และเมื่อนับพระศกจากตรงกลางหน้าผากขึ้นไปจรดเปลวพระเพลิงจะได้9เม็ด ซุ้มเรือนแก้วจะหนาและแนบชิดกับองค์พระ ใต้ฐานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนด้านหลังจะไม่ตอกหมายเลขกับกับ แผ่นป้ายที่ติดมีทั้งที่เขียนว่า “วัดท่าซุง” และ “วัดท่าซุ่ง” ถือเป็นจักรพรรดิ์แห่งพระบูชาอันดับหนึ่งของวัดท่าซุง
*************************************************
คำสอนสมเด็จองค์ปฐมบรมครู (สมเด็จพระพุทธสิขีทศพล ที่ 1)
หลวงพ่อได้เมตตา สรุปใจความสั้นๆ ตามที่ท่านเทศน์ไว้ดังนี้…..
“ท่านทั้งหลาย การหลบหลีก ไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรก เป็นต้น เป็นของไม่ยาก
1. ขอทุกท่าน จงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้(ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหมในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพานแล้ว ตั้งใจไปพระนิพพานโดยเฉพาะ เท่านี้ทุกท่านจะหนีอบายภูมิพ้น และไปพระนิพพานได้ในที่สุด”หมายเหตุ : เทศน์ที่ ”เทวสภา” วันที่ 8 สิงหาคม 2535 เวลา 8.00 น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน เมตตาเล่าให้ลูกหลานฟัง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2535 เวลา 21.00 น.
******************************************************
-
พระบูชา10นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 ตอกหมายเลข (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อดำริให้สร้างเมื่อปี2535 เพราะสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก (หลังแดง) ที่เททองหล่อที่วัด สร้างได้ประมาณ 500องค์ ช่างสร้างกันไม่ทันลูกศิษย์ที่จองกันจำนวนมาก หลวงพ่อจึงสั่งให้ไปหล่อที่โรงงานเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว โดยมี2โรงงานที่ร่วมกันหล่อ คือ โรงงานของช่างประเสริฐ กับ โรงงานของช่างเล็กบัง
รุ่นนี้สร้างประมาณสามพันกว่าองค์ มีทั้งขนาด10นิ้ว และ5นิ้ว พุทธลักษณะองค์พระจะหล่อบางกว่ารุ่นแรก ซุ้มเรือนแก้วก็จะบางมีช่องห่างจากองค์พระพอประมาณ ส่วนด้านหลังจะตอกหมายเลขกำกับที่ส่วนโค้งซุ้มเรือนแก้วกับที่ฐานองค์พระตรงกัน นับพระศกจากตรงกลางหน้าผากขึ้นไปจรดเปลวพระเพลิงจะได้11เม็ด
สำหรับองค์พระขนาดหน้าตัก10นิ้วจะมีตัวตอกหมายเลขอยู่ด้วยกัน2แบบ คือ เป็นตัวเลขตอกขนาดใหญ่และตัวเลขตอกขนาดเล็ก (องค์นี้ตัวเลขตอกขนาดเล็ก)
สำหรับพระบูชาสมเด็จองค์ปฐมถือเป็นจักรพรรดิ์แห่งพระบูชา ใครมีครอบครองย่อมเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว
-
พระบูชา10นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 ตอกหมายเลข (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อดำริให้สร้างเมื่อปี2535 เพราะสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก (หลังแดง) ที่เททองหล่อที่วัด สร้างได้ประมาณ 500องค์ ช่างสร้างกันไม่ทันลูกศิษย์ที่จองกันจำนวนมาก หลวงพ่อจึงสั่งให้ไปหล่อที่โรงงานเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว โดยมี2โรงงานที่ร่วมกันหล่อ คือ โรงงานของช่างประเสริฐ กับ โรงงานของช่างเล็กบัง
รุ่นนี้สร้างประมาณสามพันกว่าองค์ มีทั้งขนาด10นิ้ว และ5นิ้ว พุทธลักษณะองค์พระจะหล่อบางกว่ารุ่นแรก ซุ้มเรือนแก้วก็จะบางมีช่องห่างจากองค์พระพอประมาณ ส่วนด้านหลังจะตอกหมายเลขกำกับที่ส่วนโค้งซุ้มเรือนแก้วกับที่ฐานองค์พระตรงกัน นับพระศกจากตรงกลางหน้าผากขึ้นไปจรดเปลวพระเพลิงจะได้11เม็ด
สำหรับองค์พระขนาดหน้าตัก10นิ้วจะมีตัวตอกหมายเลขอยู่ด้วยกัน2แบบ คือ เป็นตัวเลขตอกขนาดใหญ่และตัวเลขตอกขนาดเล็ก (มีรูปภาพให้ประกอบ)
สำหรับพระบูชาสมเด็จองค์ปฐมถือเป็นจักรพรรดิ์แห่งพระบูชา ใครมีครอบครองย่อมเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว
-
พระบูชา3นิ้ว พระแก้วใส (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
ขนาดเล็กกระทัดรัด นิมนต์ไปได้ทุกที่ หลวงพ่อท่านสร้าง…พุทธคุณเต็มเปี่ยมไม่ว่าพระจะองค์เล็กหรือองค์ใหญ่ ผิวขนาดนี้…เก่าทันยุคหลวงพ่อ
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
สำหรับพระบูชา 5นิ้ว พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ที่ออกในนามวัดท่าซุง จัดสร้างขึ้นมาทั้งหมด เท่าที่ได้ศึกษามา จะมีอยู่ด้วยกัน 7รุ่น (10พิมพ์) จำแนกแต่ละรุ่นได้ตามนี้
1) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พิมพ์ก่อนรุ่นแรก มีอยู่ด้วยกัน 2พิมพ์ (รุ่นนี้ลูกศิษย์สร้างถวาย)
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พิมพ์ก่อนรุ่นแรก พิมพ์ที่ 1 องค์พระจะดูอวบอิ่มกว่าพิมพ์ที่2
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พิมพ์ก่อนรุ่นแรก พิมพ์ที่22) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่1 (ทางวัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก)
3) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่2
4) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่3 มีอยู่ด้วยกัน 2พิมพ์
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่3 พิมพ์ที่1 ฐานบัวเล็ก
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่3 พิมพ์ที่2 ฐานบัวใหญ่ (ฐานบนทาสีแดง)5) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่4
6) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่5 มีอยู่ด้วยกัน 2พิมพ์
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่5 พิมพ์ที่1
– พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่5 พิมพ์ที่2 ฐานสูง7) พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นที่6
ขอแถมเพิ่มเติม รุ่นเลียนแบบ
–พระปัจเจกพระพุทธเจ้า รุ่นแรก เลียนแบบ
*******************************
พระปัจเจกพระพุทธเจ้า (จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญญาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 4)
ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านต้องบำเพ็ญบารมีนานไหมครับ จึงจะตรัสรู้ได้….?
หลวงพ่อ : พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ท่านบำเพ็ญบารมี…เท่ากับพระอัครสาวก คือ 2 อสงไขยกับแสนกัป
ผู้ถาม : ท่านตรัสรู้เองใช่ไหมครับ…..?
หลวงพ่อ : ใช้ ลงคำว่า พุทธเจ้า ต้องตรัสรู้เอง คือไม่ต้องรับคำสอนจากคนอื่น
ผู้ถาม : มีเฉพาะตอนที่มีพระพุทธเจ้าใช่ไหมครับ….?
หลวงพ่อ : เจ๊ง…พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อวางจากพระพุทธเจ้า ไม่ใช้มีพร้อมพระพุทธเจ้า อย่างศาสนานี้สิ้นไป ในช่วงว่างก่อนจะถึงพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้มีพระปัจเจกพระพุทธเจ้า
สมัยพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเวลานั้นไม่มีสาวก ก็มีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าทั้งหมด เพราะปัจเจกพุทธเจ้าไม่ได้บรรลุเพียงองค์เดียวอย่างพระพุทธเจ้า ก็มีได้เป็นหมื่นเป็นแสน แต่พระพุทธเจ้าจะต้องมีองค์เดียว มีซ้อนไม่ได้
ผู้ถาม : แล้วทำไมพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเมื่อท่านตรัสรู้แล้วจึงไม่สอนเหมือนกับพระพุทธเจ้าครับ….?
หลวงพ่อ : เกิดทันรึ…รู้เหรอว่าท่านไม่สอน เคยพบหรือเปล่า….?
ผู้ถาม : ?….?….?
หลวงพ่อ : ท่านสอน จะว่าไม่สอนเลยนั้นไม่ใช่ แต่ว่าไม่สอนถึงอริยสัจ ถ้าไปศึกษากับท่าน ท่านก็สอนแค่อภิญญาโลกีย์ ส่วนที่ตัดเข้าถึงมรรคผลนั้นเป็นเรื่องของบุคคลนั้นเอง
ปัจเจก เขาแปลว่า รู้เฉพาะตน ความจริง คำว่า “เฉพาะ” ก็มีเฉพาะส่วนที่เป็นอริยสัจเท่านั้นเองนะผู้ถาม : ถ้าอย่างนั้นพระปัจเจกพระพุทธเจ้าก็รู้หมดทุกอย่างใช่ไหมครับ….?
หลวงพ่อ : รู้หมด….พระสัมมาสัมพุทธเจ้าซิ รู้ไม่หมด
ผู้ถาม : อ้าว…ทำไมยังงั้นล่ะครับ
หลวงพ่อ : ถ้าถามปัญหาพระพุทธเจ้า ท่านรู้ทุกอย่าง รู้ไม่หมดสักที พระปัจเจกพระพุทธเจ้าถามไปถามมาหมด นี่เขา เรียกว่า รู้หมด
ผู้ถาม : อ๋อ…แหมศัพท์ภาษาไทยนี่ไม่รู้เรื่อง อยู่ห่างวัดเป็นอย่างนี้
หลวงพ่อ : เป็นอันว่าพระปัจเจกพระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอนใคร เพราะไม่ใช้หน้าที่ของท่าน ฉะนั้นพระถ้าเข้าถึงจุดหมายปลายทาง ท่านจะรู้หน้าที่ของท่าน อย่างพระที่ยังไม่เป็นอรหันต์ เป็นหมอดู เป็นหมอรักษาโรค เราใช้ได้ทุกอย่าง ท่านจะทำให้ทุกอย่าง พอถึงอรหันต์ปั๊บ ท่านรู้เลยว่า ท่านเกิดมานี่เพื่อทำกิจอะไร…..อย่างอื่นที่ไม่ใช่ของท่าน ท่านจะไม่ทำ จะงดหมด ท่านทำเฉพาะกิจ พระปัจเจกพุทธเจ้าก็เหมือนกัน ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า พิมพ์ก่อนรุ่นแรก-พิมพ์ที่1 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
พระรุ่นนี้มีลูกศิษย์สร้างถวายให้หลวงพ่อ เป็นพิมพ์แรกก่อนที่ทางวัดจะสร้างรุ่นแรกอย่างเป็นทางการในนามวัดออกมา สำหรับพิมพ์ก่อนรุ่นแรกนั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 2พิมพ์ คือ
-พิมพ์ที่1 พิมพ์ใหญ่ องค์พระจะดูอวบอิ่มสมบูรณ์
-พิมพ์ที่2 พิมพ์เล็ก
สำหรับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า พิมพ์ก่อนรุ่นแรก องค์นี้เป็นพิมพ์ที่1 องค์พระจะดูอวบอิ่มกว่าพิมพ์ที่2 สร้างด้วยทองเหลือง ตรงปลายพระเกตุมี2แฉกซึ่งเป็นเอกลักษณ์พุทธลักษณะของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ด้านหน้าที่ฐานเขียนว่า “พระปัจเจกพุทธเจ้า” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “พระสุธรรมยานเถร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง”
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า พิมพ์ก่อนรุ่นแรก-พิมพ์ที่2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
พระรุ่นนี้มีลูกศิษย์สร้างถวายให้หลวงพ่อ เป็นพิมพ์แรกก่อนที่ทางวัดจะสร้างรุ่นแรกอย่างเป็นทางการในนามวัดออกมา สำหรับพิมพ์ก่อนรุ่นแรกนั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 2พิมพ์ คือ
-พิมพ์ที่1 พิมพ์ใหญ่ องค์พระจะดูอวบอิ่มสมบูรณ์
-พิมพ์ที่2 พิมพ์เล็ก
สำหรับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า พิมพ์ก่อนรุ่นแรก องค์นี้เป็นพิมพ์ที่2 องค์พระสร้างด้วยทองเหลือง ตรงปลายพระเกตุมี2แฉกซึ่งเป็นเอกลักษณ์พุทธลักษณะของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ส่วนใหญ่พระรุ่นนี้จะอยู่กับลูกศิษย์ยุคแรกๆ ไม่ค่อยเห็นมากนัก ที่ฐานด้านหน้าฝั่งซ้ายเขียนว่า “พระปัจเจก” ที่ฝั่งขวาเขียนว่า “พุทธเจ้า” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “พระสุธรรมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง พ.ศ.๒๕๓๒”
องค์นี้สภาพสวยมาก ยังอยู่ในห่อพลาสติกเดิมๆจากวัด มีป้ายราคาให้บูชาในสมัยนั้น ร่วมทำบุญองค์ละ 500บาท
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่น1 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
รุ่นนี้ถือว่าเป็นพระบูชาพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่นแรก ที่ทางวัดจัดสร้างขึ้น องค์พระที่ฐานเป็นกลีบบัวเล็ก สร้างเป็นเนื้อกะไหล่ทอง ตรงปลายพระเกตุมี2แฉกซึ่งเป็นเอกลักษณ์พุทธลักษณะของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ด้านหน้าที่ฐานมียันต์อุ สลักอยู่ด้านซ้ายขวา และเขียนว่า “พระปัจเจกพุทธเจ้า” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “พระสุธรรมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)”
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่น2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่นที่2นี้ ทางวัดยังคงใช้บล็อคพิมพ์ของพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่นแรกมาใช้ (แค่สลักเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่) องค์พระที่ฐานเป็นกลีบบัวเล็ก สร้างเป็นเนื้อกะไหล่ทอง ตรงปลายพระเกตุมี2แฉกซึ่งเป็นเอกลักษณ์พุทธลักษณะของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ด้านหน้าที่ฐานมียันต์อุ สลักอยู่ด้านซ้ายขวา และเขียนว่า “พระปัจเจกพุทธเจ้า” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “รุ่น.๒ พระสุธรรมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)”
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่น3 พิมพ์ที่1 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่นที่3นี้ จะมี2พิมพ์ คือ
– พิมพ์ที่1 จะเป็นพิมพ์เดียวกับรุ่นแรกและรุ่นที่2
– พิมพ์ที่2 พิมพ์ฐานกลีบบัวใหญ่ (ฐานแดง) ซึ่งทางวัดแกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่
ซึ่งองค์นี้เป็น พิมพ์ที่1 ใช้พิมพ์เดียวกับรุ่นแรกและรุ่นที่2 (แค่สลักเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่) องค์พระสร้างเป็นเนื้อกะไหล่ทอง ตรงปลายพระเกตุมี2แฉกซึ่งเป็นเอกลักษณ์พุทธลักษณะของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ด้านหน้าที่ฐานมียันต์อุ สลักอยู่ด้านซ้ายขวา และเขียนว่า “พระปัจเจกพุทธเจ้า” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) รุ่นที่ ๓”
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่น3 พิมพ์ที่2ฐานบัวใหญ่ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่นที่3นี้ จะมี2พิมพ์ คือ
– พิมพ์ที่1 จะเป็นพิมพ์เดียวกับรุ่นแรกและรุ่นที่2
– พิมพ์ที่2 พิมพ์ฐานกลีบบัวใหญ่ (ฐานแดง) ซึ่งทางวัดแกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่
ซึ่งองค์นี้เป็น พิมพ์ที่2 (พิมพ์ฐานบัวใหญ่) โดยทำที่ฐานเป็นกลีบบัวใหญ่ องค์พระสร้างเป็นเนื้อกะไหล่ทอง ตรงปลายพระเกตุมี2แฉกซึ่งเป็นเอกลักษณ์พุทธลักษณะของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ด้านหน้าที่ฐานมียันต์อุ สลักอยู่ด้านซ้ายขวา และเขียนว่า “พระปัจเจกพุทธเจ้า” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) รุ่นที่ ๓”
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่น4 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่นที่4นี้ ทางวัดยังคงใช้บล็อคพิมพ์ของพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่นที่3 พิมพ์ที่2 มาใช้ (แค่สลักเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่ และไม่ได้ทาสีแดงที่ฐานด้านบน) องค์พระที่ฐานเป็นกลีบบัวใหญ่ สร้างเป็นเนื้อกะไหล่ทอง ตรงปลายพระเกตุมี2แฉกซึ่งเป็นเอกลักษณ์พุทธลักษณะของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ด้านหน้าที่ฐานมียันต์อุ สลักอยู่ด้านซ้ายขวา และเขียนว่า “พระปัจเจกพุทธเจ้า” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) รุ่นที่ ๔”
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่น5 พิมพ์ที่1 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่นที่5นี้ จะมี2พิมพ์ คือ
-พิมพ์ที่1 ทางวัดนำบล็อคพิมพ์ของรุ่นที่4มาตกแต่งพิมพ์ใหม่ โดยเปลี่ยนลายที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าให้ยาวขึ้น และนำสติ๊กเกอร์รูปหลวงพ่อมาติด
-พิมพ์ที่2 พิมพ์บัวใหญ่ฐานสูง ทางวัดแก้ฐานใหม่ให้สูงและหนาขึ้น พร้อมติดสติ๊กเกอร์รูปหลวงพ่อที่ผ้าทิพย์ด้านหน้า
ซึ่งองค์นี้เป็นพิมพ์ที่1 สร้างเป็นเนื้อกะไหล่ทอง ตรงปลายพระเกตุมี2แฉกซึ่งเป็นเอกลักษณ์พุทธลักษณะของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ด้านหน้าที่ฐานมียันต์อุ สลักอยู่ด้านซ้ายขวา และเขียนว่า “พระปัจเจกพุทธเจ้า” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) รุ่นที่ ๕”
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่น5 พิมพ์ที่2ฐานสูง (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่นที่5นี้ จะมี2พิมพ์ คือ
-พิมพ์ที่1 ทางวัดนำบล็อคพิมพ์ของรุ่นที่4มาตกแต่งพิมพ์ใหม่ โดยเปลี่ยนลายที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าให้ยาวขึ้น และนำสติ๊กเกอร์รูปหลวงพ่อมาติด
-พิมพ์ที่2 พิมพ์บัวใหญ่ฐานสูง ทางวัดแก้ฐานใหม่ให้สูงและหนาขึ้น พร้อมติดสติ๊กเกอร์รูปหลวงพ่อที่ผ้าทิพย์ด้านหน้า
ซึ่งองค์นี้เป็นพิมพ์ที่2 องค์พระสร้างเป็นเนื้อกะไหล่ทอง ตรงปลายพระเกตุมี2แฉกซึ่งเป็นเอกลักษณ์พุทธลักษณะของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ด้านหน้าที่ฐานมียันต์อุ สลักอยู่ด้านซ้ายขวา และเขียนว่า “พระปัจเจกพุทธเจ้า” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) รุ่นที่ ๕”
-
พระบูชา5นิ้ว พระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่น6 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระปัจเจกพุทธเจ้าคือใคร ท่านก็คือพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง บำเพ็ญบารมีเท่ากับพระอัครสาวก คือ 2อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพระพุทธเจ้าจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อว่างจากพระพุทธเจ้า อย่างเช่นตอนศาสนานี้สิ้นเมื่อครบ5,000ปี ในช่วงว่างก่อนจะถึงยุคพระศรีอาริย์ ในช่วงนี้จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้จำนวนมาก (ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ที่แต่ละยุคสมัยจะมีเพียงพระองค์เดียว) เวลานี้ก็จะไม่มีสาวก ท่านตรัสรู้แต่ท่านไม่ได้เผยแพร่พระศาสนา ท่านจะสอนเฉพาะผู้ไปศึกษากับท่านเท่านั้น ท่านสอนแค่อภิญญาโลกีย์ ไม่ได้สอนถึงอริยสัจเพื่อเข้าถึงมรรคผล พูดง่ายๆก็คือ ท่านสอนเรื่องสวรรค์ เรื่องพรหม แต่เรื่องนิพพานท่านไม่สอน กิจของท่านมีเท่านี้ ท่านไม่สอนเกิน
สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่นที่6นี้ ทางวัดยังคงใช้บล็อคพิมพ์ของพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่นที่5 พิมพ์ที่2 มาใช้ (แค่สลักเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่) ที่ฐานเป็นกลีบบัวใหญ่และมีสติ๊กเกอร์รูปหลวงพ่อติดอยู่ที่ฐานด้านหน้า องค์พระสร้างเป็นเนื้อกะไหล่ทอง ตรงปลายพระเกตุมี2แฉกซึ่งเป็นเอกลักษณ์พุทธลักษณะของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ด้านหน้าที่ฐานมียันต์อุ สลักอยู่ด้านซ้ายขวา และเขียนว่า “พระปัจเจกพุทธเจ้า” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) รุ่นที่ ๖”
ปล.ขออนุญาตเจ้าของพระ นำรูปมาลงเพื่อการศึกษานะครับ
-
พระบูชา5นิ้ว พระมงคลบพิตร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระบูชาพระมงคลบพิตร สร้างเนื่องในงานฉลองสมณศักดิ์พระเดชพระคุณหลวงพ่อ รับตำแหน่ง “พระสุธรรมยานเถระ” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ องค์พระสร้างด้วยกะไหล่ทองทั้งองค์ มีทั้งขนาด 5นิ้ว และ 9นิ้ว (ขนาด 9นิ้ว องค์พระแยกเป็น 2ชิ้น ถอดองค์พระออกจากฐานได้)เป็นพระบูชาที่หายากมากๆอีกองค์หนึ่งของวัดท่าซุง
-
พระบูชา5นิ้ว พระวิสุทธิเทพ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษกหลายครั้ง สร้างครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2530 บนฐานด้านหน้าเขียนว่า “พระวิสุทธิเทพ”
ปล.พระรุ่นนี้ยุคแรกๆในรุ่นที่ทันหลวงพ่อ ปลายชฎาจะแหลมขึ้นไป (จะไม่มีตุ่มคล้ายดอกบัวตรงปลาย)
-
พระบูชา5นิ้ว พระแก้วทรงเครื่อง “ทรงพระเจริญ” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
หลายคนไม่ทราบว่าเป็นพระที่หลวงพ่อท่านสร้างขึ้น ไม่ค่อยเห็นกันมากนัก สำหรับพระแก้วมรกตทรงเครื่อง ที่ฐานเขียนว่า “ทรงพระเจริญ” ส่วนใหญ่จะเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” จำนวนการสร้างน้อย สร้างเฉพาะกิจเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวง
องค์นี้ผิวสีน้ำผึ้งเข้ม เก่าได้ใจจริงๆ
-
พระบูชา5นิ้ว พระแก้วทรงเครื่อง (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระแก้วมรกตทรงเครื่อง ทำพิธีพุทธาภิเศกครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2528 องค์นี้ขนาดหน้าตัก 5นิ้ว ที่ฐานเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” นอกจากผิวสีเหลืองอมน้ำผึ้ง อีกจุดสักเกตหนึ่งคือ ชฏาองค์พระ จะต้องเป็นแบบเรียบๆเรียงกันขึ้นไปสามชั้น แบบนี้ถึงจะเป็นรุ่นเก่าทันยุคหลวงพ่อ
-
พระบูชา5นิ้ว พระแก้วปางมารวิชัย (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
เป็นพระสุโขทัย ปางมารวิชัย หล่อจากพลาสติกใส หน้าตัก 5-นิ้ว เป็นพระพุทธรูปรุ่นแรกๆ ที่ทางวัดทาซุงให้บูชา พระเก่าได้อายุ เมื่อเก็บไว้นานๆ ผิวองค์พระจะกลายเป็นสีเหลืองออกส้มทึบ บางท่านอาจเรียกผิวเกร็ดพระธาตุ ไม่ค่อยได้เห็นกันนัก ส่วนมากจะอยู่กับลูกศิษย์ยุคแรกๆ ถือเป็นพระหายากอีกองค์หนึ่ง นำมาให้ชมให้ศึกษากันครับ
(มีประวัติและรูปลงไว้ในหนังสือสมบัติพ่อให้ เล่มเก่า หน้า19)
-
พระบูชา พระพุทธ พระบูชาพระพุทธ-โชว์
พระบูชา5นิ้ว พระแก้วมรกตทรงเครื่อง “ทรงพระเจริญ” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
ปกติแค่พระแก้วมรกตทรงเครื่อง ที่ฐานเขียนว่า “ทรงพระเจริญ” เนื้อเรซิ่นใสก็หายากอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” จำนวนการสร้างน้อย สร้างเฉพาะกิจเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวง แต่องค์นี้เนื้อสีเขียว ยิ่งหายากมากๆ
องค์นี้รับนิมนต์มาจากอดีตพระลูกวัดท่าซุงท่านหนึ่งที่บวชในสมัยนั้น ท่านบอกกล่าวมาว่า หลังจากที่โรงงานพระจัดส่งพระรุ่นนี้ที่อยู่ในกล่องให้หลวงพ่อ ก็นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก พอเสร็จจากพิธีพุทธาภิเษกก็นำออกให้บูชา แต่พอพบว่ามีเนื้อสีเขียวปนมาด้วย หลวงพ่อจึงสั่งให้เก็บเนื้อสีเขียวส่งคืนโรงงานเพราะทางโรงงานจัดส่งมาให้ผิด แต่อดีตพระลูกวัดท่านนี้เห็นว่าผ่านพิธีพุทธาภิเษกแล้วจึงไม่ส่งคืน เก็บไว้บูชาต่อไป จึงเป็นรุ่นที่หายากมากๆ น่าจะมีไม่กี่องค์ แบบว่าไม่เคยเห็นที่ไหน ที่พระเกตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเดิมๆจากวัด
-
พระบูชา5นิ้ว พระแก้วสุโขทัย รุ่น1 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
หลวงพ่อสร้างครั้งแรกเมื่อราวๆปีพ.ศ.252x บนฐานด้านหน้าจะไม่มีข้อความอะไร พอรุ่นต่อมาจะเขียน “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” และ “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” ในรุ่นต่อๆไป ทางวัดจัดสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้ร่วมบุญบูชากันอยู่
สำหรับพระแก้วพิมพ์สุโขทัย ขนาดหน้าตัก 5นิ้ว พอจะจำแนกเป็นรุ่นเป็นพิมพ์ได้ (ตามที่ผมได้ตามเก็บสะสมและศึกษามา) ดังนี้
1) ในยุคแรก รุ่น1 คือ พิมพ์นี้ ที่ฐานด้านหน้าจะไม่เขียนข้อความอะไร เปลวเพลิงบนยอดเกศจะสั้น
2) ในยุคที่ 2 … ลักษณะองค์พระจะมีลักษณะคล้ายๆกับรุ่นแรก เปลวเพลิงบนยอดเกศจะสั้นเหมือนกัน และที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปานวัดบางนมโค วัดท่าซุง อ. เมือง จ.อุทัยธานี”
3) ในยุคที่ 3 … ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบัน ที่ฐานด้านหน้าจะเขียนคำว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” (โดยไม่มีคำว่า อ.เมือง) และใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำเงิน มีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
4) ในยุคที่ 4 …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบันเหมือนๆกับรุ่น3 แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีแดง มีทั้งฐานทึบปิดทองและฐานใสเหมือนองค์พระ และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
5) รุ่นต่อๆมา …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นที่4 เหมือนๆรุ่นปัจจุบัน แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ถือเป็นยุคสุดท้าย มีทั้งฐานทึบปิดทองและฐานใสเหมือนองค์พระ และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว ซึ่งพระในยุคสุดท้ายนี้มีทั้งที่ท่านหลวงพ่อและไม่ทัน เพราะอยู่ในช่วงคราบเกี่ยวที่หลวงพ่อใกล้ที่จะมรณะภาพ และหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ก็ยังใช้พิมพ์นี้สร้างต่อๆไป จึงอาจจะจำแนกแยกแยะได้ยาก ให้พิจารณาผิวองค์พระ เน้นแบบสีเหลืองอมน้ำผึ้งเข้มๆไว้ก่อน จะได้พิจารณาว่าทันหลวงพ่อแบบสบายใจปล.ภายหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ทางวัดก็จัดสร้างพระแก้วใส 5นิ้ว พิมพ์สุโขทัย ออกมาให้บูชาอยู่เรื่อยๆ ที่ใต้ฐานก็มีทั้งที่บุกำมะหยี่สีแดง และบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ต้องพิจารณาที่องค์พระเป็นสำคัญด้วย ว่าดูเก่าและมีอายุตามธรรมชาติขนาดไหน การเก็บรักษา-การบูชาในห้องพระที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงก็มีส่วนสำคัญในการทำให้องค์พระแปรเปลี่ยนสภาพ
(ข้อมูลนี้ถ้าผิดพลาดต้องกราบขออภัยด้วย แต่เท่าที่ได้เก็บสะสมมา พอจะระบุรุ่นที่สร้างก่อน-หลัง จำแนกรุ่นต่างๆตามที่กล่าวมา)
***********************************************************
สำหรับพระองค์นี้ จัดสร้างเป็นรุ่นแรก เปลวพระเพลิงสั้น และไม่มีป้ายชื่อติดที่ฐานด้านหน้า ผิวสีน้ำผึ้งเก่าตามธรรมชาติทันยุค
-
พระบูชา5นิ้ว พระแก้วสุโขทัย รุ่น2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
หลวงพ่อสร้างครั้งแรกเมื่อราวๆปีพ.ศ.252x บนฐานด้านหน้าจะไม่มีข้อความอะไร พอรุ่นต่อมาจะเขียน “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” และ “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” ในรุ่นต่อๆไป ทางวัดจัดสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้ร่วมบุญบูชากันอยู่
สำหรับพระแก้วพิมพ์สุโขทัย ขนาดหน้าตัก 5นิ้ว พอจะจำแนกเป็นรุ่นเป็นพิมพ์ได้ (ตามที่ผมได้ตามเก็บสะสมและศึกษามา) ดังนี้
1) ในยุคแรก รุ่น1 คือ พิมพ์นี้ ที่ฐานด้านหน้าจะไม่เขียนข้อความอะไร เปลวเพลิงบนยอดเกศจะสั้น
2) ในยุคที่ 2 … ลักษณะองค์พระจะมีลักษณะคล้ายๆกับรุ่นแรก เปลวเพลิงบนยอดเกศจะสั้นเหมือนกัน และที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปานวัดบางนมโค วัดท่าซุง อ. เมือง จ.อุทัยธานี”
3) ในยุคที่ 3 … ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบัน ที่ฐานด้านหน้าจะเขียนคำว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” (โดยไม่มีคำว่า อ.เมือง) และใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำเงิน มีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
4) ในยุคที่ 4 …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบันเหมือนๆกับรุ่น3 แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีแดง มีทั้งฐานทึบปิดทองและฐานใสเหมือนองค์พระ และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
5) รุ่นต่อๆมา …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นที่4 เหมือนๆรุ่นปัจจุบัน แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ถือเป็นยุคสุดท้าย มีทั้งฐานทึบปิดทองและฐานใสเหมือนองค์พระ และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว ซึ่งพระในยุคสุดท้ายนี้มีทั้งที่ท่านหลวงพ่อและไม่ทัน เพราะอยู่ในช่วงคราบเกี่ยวที่หลวงพ่อใกล้ที่จะมรณะภาพ และหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ก็ยังใช้พิมพ์นี้สร้างต่อๆไป จึงอาจจะจำแนกแยกแยะได้ยาก ให้พิจารณาผิวองค์พระ เน้นแบบสีเหลืองอมน้ำผึ้งเข้มๆไว้ก่อน จะได้พิจารณาว่าทันหลวงพ่อแบบสบายใจปล.ภายหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ทางวัดก็จัดสร้างพระแก้วใส 5นิ้ว พิมพ์สุโขทัย ออกมาให้บูชาอยู่เรื่อยๆ ที่ใต้ฐานก็มีทั้งที่บุกำมะหยี่สีแดง และบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ต้องพิจารณาที่องค์พระเป็นสำคัญด้วย ว่าดูเก่าและมีอายุตามธรรมชาติขนาดไหน การเก็บรักษา-การบูชาในห้องพระที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงก็มีส่วนสำคัญในการทำให้องค์พระแปรเปลี่ยนสภาพ
(ข้อมูลนี้ถ้าผิดพลาดต้องกราบขออภัยด้วย แต่เท่าที่ได้เก็บสะสมมา พอจะระบุรุ่นที่สร้างก่อน-หลัง จำแนกรุ่นต่างๆตามที่กล่าวมา)
***********************************************************
สำหรับพระองค์นี้ จัดสร้างในยุคที่2 เปลวพระเพลิงสั้น ป้ายติดมี “…… อ.เมือง ….” ผิวสีน้ำผึ้งเก่าตามธรรมชาติทันยุค
-
พระบูชา5นิ้ว พระแก้วสุโขทัย ใต้ฐานกำมะหยี่สีน้ำตาล (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
หลวงพ่อสร้างครั้งแรกเมื่อราวๆปีพ.ศ.252x บนฐานด้านหน้าจะไม่มีข้อความอะไร พอรุ่นต่อมาจะเขียน “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” และ “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” ในรุ่นต่อๆไป ทางวัดจัดสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้ร่วมบุญบูชากันอยู่
สำหรับพระแก้วพิมพ์สุโขทัย ขนาดหน้าตัก 5นิ้ว พอจะจำแนกเป็นรุ่นเป็นพิมพ์ได้ (ตามที่ผมได้ตามเก็บสะสมและศึกษามา) ดังนี้
1) ในยุคแรก รุ่น1 คือ พิมพ์นี้ ที่ฐานด้านหน้าจะไม่เขียนข้อความอะไร เปลวเพลิงบนยอดเกศจะสั้น
2) ในยุคที่ 2 … ลักษณะองค์พระจะมีลักษณะคล้ายๆกับรุ่นแรก เปลวเพลิงบนยอดเกศจะสั้นเหมือนกัน และที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปานวัดบางนมโค วัดท่าซุง อ. เมือง จ.อุทัยธานี”
3) ในยุคที่ 3 … ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบัน ที่ฐานด้านหน้าจะเขียนคำว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” (โดยไม่มีคำว่า อ.เมือง) และใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำเงิน มีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
4) ในยุคที่ 4 …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบันเหมือนๆกับรุ่น3 แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีแดง มีทั้งฐานทึบปิดทองและฐานใสเหมือนองค์พระ และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
5) รุ่นต่อๆมา …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นที่4 เหมือนๆรุ่นปัจจุบัน แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ถือเป็นยุคสุดท้าย มีทั้งฐานทึบปิดทองและฐานใสเหมือนองค์พระ และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว ซึ่งพระในยุคสุดท้ายนี้มีทั้งที่ท่านหลวงพ่อและไม่ทัน เพราะอยู่ในช่วงคราบเกี่ยวที่หลวงพ่อใกล้ที่จะมรณะภาพ และหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ก็ยังใช้พิมพ์นี้สร้างต่อๆไป จึงอาจจะจำแนกแยกแยะได้ยาก ให้พิจารณาผิวองค์พระ เน้นแบบสีเหลืองอมน้ำผึ้งเข้มๆไว้ก่อน จะได้พิจารณาว่าทันหลวงพ่อแบบสบายใจปล.ภายหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ทางวัดก็จัดสร้างพระแก้วใส 5นิ้ว พิมพ์สุโขทัย ออกมาให้บูชาอยู่เรื่อยๆ ที่ใต้ฐานก็มีทั้งที่บุกำมะหยี่สีแดง และบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ต้องพิจารณาที่องค์พระเป็นสำคัญด้วย ว่าดูเก่าและมีอายุตามธรรมชาติขนาดไหน การเก็บรักษา-การบูชาในห้องพระที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงก็มีส่วนสำคัญในการทำให้องค์พระแปรเปลี่ยนสภาพ
(ข้อมูลนี้ถ้าผิดพลาดต้องกราบขออภัยด้วย แต่เท่าที่ได้เก็บสะสมมา พอจะระบุรุ่นที่สร้างก่อน-หลัง จำแนกรุ่นต่างๆตามที่กล่าวมา)
***********************************************************
สำหรับพระองค์นี้ จัดสร้างในยุคสุดท้าย ผิวสีน้ำผึ้งเก่าตามธรรมชาติ ทันในยุคหลวงพ่อ
-
พระบูชา5นิ้ว พระแก้วสุโขทัย ใต้ฐานกำมะหยี่สีน้ำเงิน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
หลวงพ่อสร้างครั้งแรกเมื่อราวๆปีพ.ศ.252x บนฐานด้านหน้าจะไม่มีข้อความอะไร พอรุ่นต่อมาจะเขียน “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” และ “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” ในรุ่นต่อๆไป ทางวัดจัดสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้ร่วมบุญบูชากันอยู่
สำหรับพระแก้วพิมพ์สุโขทัย ขนาดหน้าตัก 5นิ้ว พอจะจำแนกเป็นรุ่นเป็นพิมพ์ได้ (ตามที่ผมได้ตามเก็บสะสมและศึกษามา) ดังนี้
1) ในยุคแรก รุ่น1 คือ พิมพ์นี้ ที่ฐานด้านหน้าจะไม่เขียนข้อความอะไร เปลวเพลิงบนยอดเกศจะสั้น
2) ในยุคที่ 2 … ลักษณะองค์พระจะมีลักษณะคล้ายๆกับรุ่นแรก เปลวเพลิงบนยอดเกศจะสั้นเหมือนกัน และที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปานวัดบางนมโค วัดท่าซุง อ. เมือง จ.อุทัยธานี”
3) ในยุคที่ 3 … ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบัน ที่ฐานด้านหน้าจะเขียนคำว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” (โดยไม่มีคำว่า อ.เมือง) และใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำเงิน มีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
4) ในยุคที่ 4 …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบันเหมือนๆกับรุ่น3 แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีแดง มีทั้งฐานทึบปิดทองและฐานใสเหมือนองค์พระ และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
5) รุ่นต่อๆมา …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นที่4 เหมือนๆรุ่นปัจจุบัน แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ถือเป็นยุคสุดท้าย มีทั้งฐานทึบปิดทองและฐานใสเหมือนองค์พระ และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว ซึ่งพระในยุคสุดท้ายนี้มีทั้งที่ท่านหลวงพ่อและไม่ทัน เพราะอยู่ในช่วงคราบเกี่ยวที่หลวงพ่อใกล้ที่จะมรณะภาพ และหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ก็ยังใช้พิมพ์นี้สร้างต่อๆไป จึงอาจจะจำแนกแยกแยะได้ยาก ให้พิจารณาผิวองค์พระ เน้นแบบสีเหลืองอมน้ำผึ้งเข้มๆไว้ก่อน จะได้พิจารณาว่าทันหลวงพ่อแบบสบายใจปล.ภายหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ทางวัดก็จัดสร้างพระแก้วใส 5นิ้ว พิมพ์สุโขทัย ออกมาให้บูชาอยู่เรื่อยๆ ที่ใต้ฐานก็มีทั้งที่บุกำมะหยี่สีแดง และบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ต้องพิจารณาที่องค์พระเป็นสำคัญด้วย ว่าดูเก่าและมีอายุตามธรรมชาติขนาดไหน การเก็บรักษา-การบูชาในห้องพระที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงก็มีส่วนสำคัญในการทำให้องค์พระแปรเปลี่ยนสภาพ
(ข้อมูลนี้ถ้าผิดพลาดต้องกราบขออภัยด้วย แต่เท่าที่ได้เก็บสะสมมา พอจะระบุรุ่นที่สร้างก่อน-หลัง จำแนกรุ่นต่างๆตามที่กล่าวมา)
***********************************************************
สำหรับพระองค์นี้ จัดสร้างในยุคที่3 ใต้ฐานบุกำมะหยี่สีน้ำเงิน ผิวสีน้ำผึ้งเก่าตามธรรมชาติ
-
พระบูชา5นิ้ว พระแก้วสุโขทัย ใต้ฐานกำมะหยี่สีแดง (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
หลวงพ่อสร้างครั้งแรกเมื่อราวๆปีพ.ศ.252x บนฐานด้านหน้าจะไม่มีข้อความอะไร พอรุ่นต่อมาจะเขียน “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” และ “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” ในรุ่นต่อๆไป ทางวัดจัดสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้ร่วมบุญบูชากันอยู่
สำหรับพระแก้วพิมพ์สุโขทัย ขนาดหน้าตัก 5นิ้ว พอจะจำแนกเป็นรุ่นเป็นพิมพ์ได้ (ตามที่ผมได้ตามเก็บสะสมและศึกษามา) ดังนี้
1) ในยุคแรก รุ่น1 คือ พิมพ์นี้ ที่ฐานด้านหน้าจะไม่เขียนข้อความอะไร เปลวเพลิงบนยอดเกศจะสั้น
2) ในยุคที่ 2 … ลักษณะองค์พระจะมีลักษณะคล้ายๆกับรุ่นแรก เปลวเพลิงบนยอดเกศจะสั้นเหมือนกัน และที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปานวัดบางนมโค วัดท่าซุง อ. เมือง จ.อุทัยธานี”
3) ในยุคที่ 3 … ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบัน ที่ฐานด้านหน้าจะเขียนคำว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” (โดยไม่มีคำว่า อ.เมือง) และใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำเงิน มีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
4) ในยุคที่ 4 …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบันเหมือนๆกับรุ่น3 แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีแดง มีทั้งฐานทึบปิดทองและฐานใสเหมือนองค์พระ และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
5) รุ่นต่อๆมา …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นที่4 เหมือนๆรุ่นปัจจุบัน แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ถือเป็นยุคสุดท้าย มีทั้งฐานทึบปิดทองและฐานใสเหมือนองค์พระ และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว ซึ่งพระในยุคสุดท้ายนี้มีทั้งที่ท่านหลวงพ่อและไม่ทัน เพราะอยู่ในช่วงคราบเกี่ยวที่หลวงพ่อใกล้ที่จะมรณะภาพ และหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ก็ยังใช้พิมพ์นี้สร้างต่อๆไป จึงอาจจะจำแนกแยกแยะได้ยาก ให้พิจารณาผิวองค์พระ เน้นแบบสีเหลืองอมน้ำผึ้งเข้มๆไว้ก่อน จะได้พิจารณาว่าทันหลวงพ่อแบบสบายใจปล.ภายหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ทางวัดก็จัดสร้างพระแก้วใส 5นิ้ว พิมพ์สุโขทัย ออกมาให้บูชาอยู่เรื่อยๆ ที่ใต้ฐานก็มีทั้งที่บุกำมะหยี่สีแดง และบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ต้องพิจารณาที่องค์พระเป็นสำคัญด้วย ว่าดูเก่าและมีอายุตามธรรมชาติขนาดไหน การเก็บรักษา-การบูชาในห้องพระที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงก็มีส่วนสำคัญในการทำให้องค์พระแปรเปลี่ยนสภาพ
(ข้อมูลนี้ถ้าผิดพลาดต้องกราบขออภัยด้วย แต่เท่าที่ได้เก็บสะสมมา พอจะระบุรุ่นที่สร้างก่อน-หลัง จำแนกรุ่นต่างๆตามที่กล่าวมา)
***********************************************************
สำหรับพระองค์นี้ จัดสร้างในยุคที่4 ผิวสีน้ำผึ้งเก่าตามธรรมชาติ ทันในยุคหลวงพ่อ
-
พระบูชา5นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
สำหรับพระสมเด็จองค์ปฐมองค์นี้ ถ้าดูผ่านๆจะมองเหมือนรุ่นใหม่ที่หลวงพ่ออนันต์จัดสร้าง แต่ถ้าพิจารณาในรายละเอียดขององค์พระแล้ว จะเห็นได้ว่าพิมพ์นี้เป็นพิมพ์ของรุ่น2 (รุ่นที่หลวงพ่อสั่งสร้างที่โรงงาน ตอกหมายเลข) ตัวหมายเลขที่ตอกที่ฐาน แผ่นป้ายชื่อที่ติดทั้งสองข้าง และรูปแบบการหล่อใต้ฐานก็มีลักษณะเดียวกันกับรุ่น2 จะแตกต่างกันตรงซุ้มเรือนแก้ว ซึ่งองค์นี้จะมีลักษณะหนาใหญ่แบบเดียวกับที่ใส่ในพระพุทธชินราชและไม่มีหมายเลขตอก (แต่ถ้าเป็นรุ่น2เดิมๆ จะมีลักษณะซุ้มที่บางกว่าและมีหมายเลขตอกที่ด้านข้างส่วนโค้งข้างเศียรพระ)
เคยได้มีโอกาสสอบถามกับลูกศิษย์หลวงพ่อรุ่นเก่า เค้าก็บอกว่าที่บ้านเค้าก็มีแบบนี้เหมือนกัน มีทั้งขนาด 5นิ้ว และ10นิ้ว ซึ่งรับมาเดิมๆจากวัด ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ว่า ซุ้มเดิมๆที่ทางโรงงานส่งมอบให้กับทางวัด (ซึ่งบาง) เกิดการชำรุดเสียหาย ทางโรงงานไม่มีสำรอง ก็นำรุ่นที่ใส่ได้ส่งมอบมาแก้ไขให้แทน ฉนั้นการพิจารณาก็ควรพิจารณาที่องค์พระเป็นจุดสำคัญ -
พระบูชา พระพุทธ พระบูชาพระพุทธ-โชว์
พระบูชา5นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม รุ่น1 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อดำริให้สร้างเมื่อราวปลายปี2534ถึงต้นปี2535 เททองหล่อที่วัดโดยช่างประเสริฐ สร้างได้ประมาณ 500องค์ ลูกศิษย์จองกันหมด ช่างสร้างกันไม่ทัน หลวงพ่อจึงสั่งให้ไปหล่อที่โรงงานเพื่อเพิ่มความรวดเร็วขึ้น
รุ่นนี้ถือเป็นพระบูชาสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก มีทั้งขนาด5นิ้ว และ10นิ้ว พุทธลักษณะองค์พระจะหล่อหนา ดูล่ำอิ่มเอม ซุ้มเรือนแก้วจะหนาและแนบชิดกับองค์พระ ใต้ฐานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนด้านหลังจะไม่ตอกหมายเลขกับกับ หายาก นำมาให้ชมเพื่อศึกษากันครับ
*********************************************
คำสอนสมเด็จองค์ปฐมบรมครู (สมเด็จพระพุทธสิขีทศพล ที่ 1)
หลวงพ่อได้เมตตา สรุปใจความสั้นๆ ตามที่ท่านเทศน์ไว้ดังนี้…..
“ท่านทั้งหลาย การหลบหลีก ไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรก เป็นต้น เป็นของไม่ยาก
1. ขอทุกท่าน จงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้(ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหมในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพานแล้ว ตั้งใจไปพระนิพพานโดยเฉพาะ เท่านี้ทุกท่านจะหนีอบายภูมิพ้น และไปพระนิพพานได้ในที่สุด”หมายเหตุ : เทศน์ที่ ”เทวสภา” วันที่ 8 สิงหาคม 2535 เวลา 8.00 น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน เมตตาเล่าให้ลูกหลานฟัง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2535 เวลา 21.00 น.
***********************************************
-
พระบูชา5นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อดำริให้สร้างเมื่อปี2535 เพราะพระบูชาสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก (ไม่ตอกหมายเลข) ที่เททองหล่อกันที่วัด…ช่างหล่อสร้างกันไม่ทัน ไม่พอกับความต้องการของลูกศิษย์ที่สั่งจอง หลวงพ่อจึงสั่งให้ไปหล่อที่โรงงานเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว รุ่นนี้สร้างประมาณสามพันกว่าองค์ มีทั้งขนาด5นิ้ว และ10นิ้ว พุทธลักษณะองค์พระจะหล่อบาง ซุ้มเรือนแก้วก็จะบางห่างจากองค์พระ ส่วนด้านหลังจะตอกหมายเลขกับกับที่ส่วนโค้งซุ้มเรือนแก้วกับที่ฐานองค์พระ
องค์พระจะมีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์ นำมาเปรียบเทียบให้ดู
-
พระบูชา5นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม รุ่น2 ตอกหมายเลข (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อดำริให้สร้างเมื่อปี2535 เพราะพระบูชาสมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก (ไม่ตอกหมายเลข) ที่เททองหล่อกันที่วัด…ช่างหล่อสร้างกันไม่ทัน ไม่พอกับความต้องการของลูกศิษย์ที่สั่งจอง หลวงพ่อจึงสั่งให้ไปหล่อที่โรงงานเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว รุ่นนี้สร้างประมาณสามพันกว่าองค์ มีทั้งขนาด5นิ้ว และ10นิ้ว พุทธลักษณะองค์พระจะหล่อบาง ซุ้มเรือนแก้วก็จะบางห่างจากองค์พระ ส่วนด้านหลังจะตอกหมายเลขกับกับที่ส่วนโค้งซุ้มเรือนแก้วกับที่ฐานองค์พระ
-
พระบูชา พระพุทธ พระบูชาพระพุทธ-โชว์
พระบูชา5นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม รุ่นพิเศษ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระบูชาสมเด็จองค์ปฐม พิมพ์นี้ไม่มีให้บูชาที่วัดเหมือนรุ่นแรกหรือรุ่นตอกหมายเลขที่สร้างที่โรงงานครับ แต่เป็นรุ่นที่ช่างประเสริฐ (ช่างผู้หล่อสมเด็จองค์ปฐมองค์พระประธานที่วัดท่าซุง) หล่อสร้างขึ้นเพื่อถวายให้หลวงพ่อเป็นต้นแบบ ก่อนที่จะตกแต่งพิมพ์สร้างรุ่นแรกที่หล่อกันที่วัดในคราวต่อมา มีอยู่ไม่กี่องค์ หลวงพ่อท่านจะมอบให้กับลูกศิษย์ใกล้ชิดที่ช่วยงานที่วัด
รูปแบบการหล่อจะหล่อหนา ศิลป์การหล่อแบบโบราณ ใต้ฐานฝั่งพระบรมสารีริกธาตุและเทียนชัย แผ่นป้ายที่ติดก็เป็น “วัดท่าซุ่ง” แบบเดียวกับรุ่นแรก หายากมากๆ หาชมที่ไหนไม่ได้แล้ว
-
พระบูชา5นิ้ว หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่เก่าแก่ อยู่ในวิหารหลวงปู่ใหญ่มาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ (หลวงปู่ใหญ่ท่านมาบูรณะวัดท่าซุงนี้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ครองราชย์ได้ปีที่ ๙ ปี ท่านมาถึงวัดท่าซุงเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๓๓๒)
ในวิหารนี้มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่หลายองค์ส่วนมากจะปั้นเป็นพระพุทธรูปทรงสมัยอยุธยาเป็นเกศหนามขนุนทั้งสิ้น ต่อมาพระพุทธรูปบางองค์รวมทั้งหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ถูกพวกมิจฉาชีพตัดเอาเศียรพระไป และมีคนมาปั้นเศียรพระต่อให้แต่ก็ไม่สวยงามเท่าไรนัก โดยปั้นเป็นหน้าคนฟันเหยิน ตาโปน หมุ่นมวยผม
ดังนั้น เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๓ ผู้บูรณะได้กราบขออนุญาตจากพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อมหาวีระ ถาวโร หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เจ้าอาวาสวัดท่าซุงในสมัยนั้น) ซ่อมแซมพระพุทธรูปทั้งหมดที่ชำรุด รวมทั้งขอปั้นปูนทับอค์หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ด้วย หลวงพ่อท่านอนุญาต และได้กล่าวอีกว่า พระพุทธรูปองค์นี้ เมื่อปั้นเสร็จให้ทำป้ายชื่อติดเอาไว้ พ่อให้ชื่อท่านว่า “หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์” ต่อไปในภายภาคหน้าจะมีคนขึ้นกับท่านมาก และนี่ก็คือประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ตามที่ได้กล่าวมาจนถึงทุกวันนี้…
สิ่งที่ผู้คนนิยมมาทำบุญแลขอพระกับหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์มากทีเห็นก็คงจะเป็นการถวายผ้าสไบห่มองค์พระ โดยจะมีหลวงพี่องค์หนึ่งท่านนำสวดถวายและขอพรให้ เรียกว่าแบบละเอียดเลยก็ว่าได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนเยอะขนาดไหน ถ้าคนเยอะเกินไปท่านจะไม่อธิบายมาก แนะนำให้ไปวันธรรมดาคนน้อยๆท่านจะเล่าสาระดีๆให้เกี่ยวกับหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ให้ฟังอย่างละเอียด
ฉะนั้นถ้าใครได้อ่านและปรารถนาที่จะได้ชมบารมีของท่านก็ขอเชิญสักการะได้ที่วิหารหลวงปู่ใหญ่ อยู่คู่กับโบสถ์เก่า วัดท่าซุง ท่านเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก บางท่านได้อธิษฐานจิตขอพรจากท่าน และได้สมความปรารถนาก็มีหลายราย ดังนั้นท่านใดที่สนใจจะเข้าชมบารมีหรืออธิษฐานจิตขอพรจากท่านก็เชิญได้ตามที่ปรารถนา ถ้าไม่เกินวิสัยก็ขอให้โชคดี สมความปรารถนาทุกผู้คน
คาถาบูชาหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์
ตั้ง นะโม 3 จบ
อิติ สุคะโต นะโมพุทธายะ พุทธบูชา วันทามิ
ให้ว่าคาถานี้วันละ 9 จบ เป็นอย่างน้อย บูชาทุกวัน จัดเป็น “พุทธานุสสติ” และเป็นการเสริมบุญบารมี ความเป็นศิริมงคลแก่ตัวผู้สวดได้เป็นอย่างดี..
สำหรับพระบูชารุ่นนี้ทางวัดท่าซุงจัดสร้างเพียง 350องค์ เป็นที่ระลึกสำหรับท่านที่ได้ไปทำบุญที่วิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์
พุทธลักษณะปางมารวิชัย ที่ด้านหน้าตรงฐานพระจารว่า “หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์” และที่ด้านหลังองค์พระจารว่า “วัดท่าซุง” และมีเลขลำดับในแต่ละองค์ -
๑. พระบูชา พระบูชา พระพุทธ พระยอดนิยม
พระบูชา9นิ้ว พระมงคลบพิตร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
พระบูชาพระมงคลบพิตร สร้างเนื่องในงานฉลองสมณศักดิ์พระเดชพระคุณหลวงพ่อ รับตำแหน่ง “พระสุธรรมยานเถระ” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ องค์พระสร้างด้วยกะไหล่ทองทั้งองค์ มีทั้งขนาด 9นิ้ว และ 5นิ้ว (ขนาด 9นิ้ว องค์พระแยกเป็น 2ชิ้น ถอดองค์พระออกจากฐานได้) เป็นพระบูชาที่หายากมากๆอีกองค์หนึ่งของวัดท่าซุง
-
พระบูชา9นิ้ว พระวิสุทธิเทพ (เข้าพิธีปลุกเสก วัดท่าซุง)
พระวิสุทธิเทพ คือ รูปแทนองค์ของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ที่อยู่บนพระนิพพาน จะมีรูปลักษณ์รูปทรงแบบนี้เหมือนกันหมด ต่างกันที่ความสว่างที่ขึ้นอยู่กับการบำเพ็ญบารมีของแต่ละท่าน
รุ่นนี้สร้างโดยช่างประเสริฐ โรงหล่อพุทธปฐม จ.อุทัยธานี นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าซุง เมื่อคราวเสาร์ 5เดือน5 ปี53(ฤกษ์เศรษฐี มหามงคล) ฤกษ์นี้100ปีจะมีสักครั้ง
-
พระบูชา9นิ้ว พระแก้วทรงเครื่อง (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระแก้วมรกตทรงเครื่อง ทำพิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2528 ขนาดหน้าตัก 9นิ้ว องค์พระขนาดใหญ่แบบนี้ถือเป็นพระบูชาที่หายากอีกหนึ่งรุ่นของวัดท่าซุง องค์นี้ผิวสีเหลืองอมน้ำผึ้ง สภาพสวยๆ
-
พระบูชา พระพุทธ พระบูชาพระพุทธ-โชว์
พระบูชา9นิ้ว พระแก้วทรงเครื่อง (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระแก้วมรกตทรงเครื่อง ทำพิธีพุทธาภิเศกครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2528 ขนาดหน้าตัก 9นิ้ว องค์พระขนาดใหญ่แบบนี้ถือเป็นพระบูชาที่หายากอีกหนึ่งรุ่นของวัดท่าซุง องค์นี้ผิวสีเหลืองอมน้ำผึ้งเข้ม สภาพผิวเก่าๆตามอายุ
-
พระบูชา พระพุทธ พระบูชาพระพุทธ-โชว์
พระบูชา9นิ้ว พระแก้วปางมารวิชัย (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
เป็นพระสุโขทัย ปางมารวิชัย หล่อจากพลาสติกใส หน้าตัก 9นิ้ว เป็นพระพุทธรูปรุ่นแรกๆ ที่ทางวัดทาซุงให้บูชา พระเก่าได้อายุ เมื่อเก็บไว้นานๆ ผิวองค์พระจะกลายเป็นสีเหลืองออกส้มทึบ บางท่านอาจเรียก “ผิวเกร็ดพระธาตุ” ไม่ค่อยได้เห็นกันนัก ส่วนมากจะอยู่กับลูกศิษย์ยุคแรกๆ ถือเป็นพระหายากอีกองค์หนึ่ง นำมาให้ชมให้ศึกษากันครับ
(มีประวัติและรูปลงไว้ในหนังสือสมบัติพ่อให้ เล่มเก่า หน้า19)
-
พระบูชา9นิ้ว พระแก้วเชียงแสน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
พระบูชา 9นิ้ว พระแก้วเชียงแสน เกตุบัวตูม ถือเป็นพระแก้วใสยุคแรกๆที่หลวงพ่อได้สร้างไว้
(ขออนุญาตเจ้าของพระนำรูปมาเผยแพร่เพื่อการศึกษา)
-
พระบูชา9นิ้ว พระแก้วใส พิมพ์สุโขทัย (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
หลวงพ่อสร้างครั้งแรกเมื่อราวๆปีพ.ศ.252x บนฐานด้านหน้าจะไม่มีข้อความอะไร พอรุ่นต่อมาจะเขียน “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” และ “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” ในรุ่นต่อๆไป ทางวัดจัดสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้ร่วมบุญบูชากันอยู่
สำหรับพระแก้วพิมพ์สุโขทัย ขนาดหน้าตัก 9นิ้ว พอจะจำแนกเป็นรุ่นเป็นพิมพ์ได้ (ตามที่ผมได้ตามเก็บสะสมและศึกษามา) ดังนี้
1) ในยุคแรก รุ่น1 คือ ที่ฐานด้านหน้าจะไม่เขียนข้อความอะไร มีทั้งที่ปิดทองและไม่ปิดทอง ใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีแดง
2) ในยุคที่ 2 … คือ ที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปานวัดบางนมโค วัดท่าซุง อ. เมือง จ.อุทัยธานี” (มี อ.เมือง) มีทั้งที่ปิดทองและไม่ปิดทอง
3) ในยุคที่ 3 … คือ ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบัน ที่ฐานด้านหน้าจะเขียนคำว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” (โดยไม่มีคำว่า อ.เมือง) มีทั้งที่ปิดทองและแบบใสทั้งองค์ ใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำเงิน มีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
4) ในยุคที่ 4 …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบันเหมือนๆกับรุ่น3 แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีแดง และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
5) รุ่นต่อๆมา ….คือ พิมพ์นี้ ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นที่4 เหมือนๆรุ่นปัจจุบัน แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ถือเป็นยุคสุดท้าย ที่ฐานปิดทองและมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว ซึ่งพระในยุคสุดท้ายนี้มีทั้งที่ท่านหลวงพ่อและไม่ทัน เพราะอยู่ในช่วงคราบเกี่ยวที่หลวงพ่อใกล้ที่จะมรณะภาพ และหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ก็ยังใช้พิมพ์นี้สร้างต่อๆไป จึงอาจจะจำแนกแยกแยะได้ยาก ให้พิจารณาผิวองค์พระ เน้นแบบสีเหลืองอมน้ำผึ้งเข้มๆไว้ก่อน จะได้พิจารณาว่าทันหลวงพ่อแบบสบายใจปล.ภายหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ทางวัดก็จัดสร้างพระแก้วใส 9นิ้ว พิมพ์สุโขทัย ออกมาให้บูชาอยู่เรื่อยๆ ที่ใต้ฐานก็มีทั้งที่บุกำมะหยี่สีแดง และบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ต้องพิจารณาที่องค์พระเป็นสำคัญด้วย ว่าดูเก่าและมีอายุตามธรรมชาติขนาดไหน การเก็บรักษา-การบูชาในห้องพระที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงก็มีส่วนสำคัญในการทำให้องค์พระแปรเปลี่ยนสภาพ
(ข้อมูลนี้ถ้าผิดพลาดต้องกราบขออภัยด้วย แต่เท่าที่ได้เก็บสะสมมา พอจะระบุรุ่นที่สร้างก่อน-หลัง จำแนกรุ่นต่างๆตามที่กล่าวมา)
***********************************************************
พระบูชาพระแก้วสุโขทัย ปางสมาธิ ฐานปิดทอง หลวงพ่อท่านพุทธาภิเษกหลายครั้ง ครั้งแรกทำเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2527 ที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” ผิวสีน้ำผึ้งเข้มตามธรรมชาติ เก่าตามอายุ
-
พระบูชา9นิ้ว พระแก้วใส พิมพ์สุโขทัย รุ่น1 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
หลวงพ่อสร้างครั้งแรกเมื่อราวๆปีพ.ศ.252x บนฐานด้านหน้าจะไม่มีข้อความอะไร พอรุ่นต่อมาจะเขียน “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” และ “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” ในรุ่นต่อๆไป ทางวัดจัดสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้ร่วมบุญบูชากันอยู่
สำหรับพระแก้วพิมพ์สุโขทัย ขนาดหน้าตัก 9นิ้ว พอจะจำแนกเป็นรุ่นเป็นพิมพ์ได้ (ตามที่ผมได้ตามเก็บสะสมและศึกษามา) ดังนี้
1) ในยุคแรก รุ่น1 คือ พิมพ์นี้ ที่ฐานด้านหน้าจะไม่เขียนข้อความอะไร มีทั้งที่ปิดทองและไม่ปิดทอง ใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีแดง
2) ในยุคที่ 2 … คือ ที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปานวัดบางนมโค วัดท่าซุง อ. เมือง จ.อุทัยธานี” (มี อ.เมือง) มีทั้งที่ปิดทองและไม่ปิดทอง
3) ในยุคที่ 3 … ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบัน ที่ฐานด้านหน้าจะเขียนคำว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” (โดยไม่มีคำว่า อ.เมือง) มีทั้งที่ปิดทองและแบบใสทั้งองค์ ใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำเงิน มีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
4) ในยุคที่ 4 …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบันเหมือนๆกับรุ่น3 แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีแดง และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
5) รุ่นต่อๆมา …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นที่4 เหมือนๆรุ่นปัจจุบัน แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ถือเป็นยุคสุดท้าย ที่ฐานปิดทองและมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว ซึ่งพระในยุคสุดท้ายนี้มีทั้งที่ท่านหลวงพ่อและไม่ทัน เพราะอยู่ในช่วงคราบเกี่ยวที่หลวงพ่อใกล้ที่จะมรณะภาพ และหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ก็ยังใช้พิมพ์นี้สร้างต่อๆไป จึงอาจจะจำแนกแยกแยะได้ยาก ให้พิจารณาผิวองค์พระ เน้นแบบสีเหลืองอมน้ำผึ้งเข้มๆไว้ก่อน จะได้พิจารณาว่าทันหลวงพ่อแบบสบายใจปล.ภายหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ทางวัดก็จัดสร้างพระแก้วใส 9นิ้ว พิมพ์สุโขทัย ออกมาให้บูชาอยู่เรื่อยๆ ที่ใต้ฐานก็มีทั้งที่บุกำมะหยี่สีแดง และบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ต้องพิจารณาที่องค์พระเป็นสำคัญด้วย ว่าดูเก่าและมีอายุตามธรรมชาติขนาดไหน การเก็บรักษา-การบูชาในห้องพระที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงก็มีส่วนสำคัญในการทำให้องค์พระแปรเปลี่ยนสภาพ
(ข้อมูลนี้ถ้าผิดพลาดต้องกราบขออภัยด้วย แต่เท่าที่ได้เก็บสะสมมา พอจะระบุรุ่นที่สร้างก่อน-หลัง จำแนกรุ่นต่างๆตามที่กล่าวมา)
***********************************************************
พระบูชา 9นิ้ว พระแก้วใสองค์นี้สร้างเป็นรุ่นแรก ผิวสีน้ำผึ้งเข้มตามธรรมชาติ เก่าตามอายุ
-
พระบูชา9นิ้ว พระแก้วใส พิมพ์สุโขทัย รุ่น2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปลุกเสก)
หลวงพ่อสร้างครั้งแรกเมื่อราวๆปีพ.ศ.252x บนฐานด้านหน้าจะไม่มีข้อความอะไร พอรุ่นต่อมาจะเขียน “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” และ “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” ในรุ่นต่อๆไป ทางวัดจัดสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้ร่วมบุญบูชากันอยู่
สำหรับพระแก้วพิมพ์สุโขทัย ขนาดหน้าตัก 9นิ้ว พอจะจำแนกเป็นรุ่นเป็นพิมพ์ได้ (ตามที่ผมได้ตามเก็บสะสมและศึกษามา) ดังนี้
1) ในยุคแรก รุ่น1 คือ ที่ฐานด้านหน้าจะไม่เขียนข้อความอะไร มีทั้งที่ปิดทองและไม่ปิดทอง ใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีแดง
2) ในยุคที่ 2 … พิมพ์นี้ ที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปานวัดบางนมโค วัดท่าซุง อ. เมือง จ.อุทัยธานี” (มี อ.เมือง) มีทั้งที่ปิดทองและไม่ปิดทองที่ฐาน
3) ในยุคที่ 3 … ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบัน ที่ฐานด้านหน้าจะเขียนคำว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี” (โดยไม่มีคำว่า อ.เมือง) มีทั้งที่ปิดทองและแบบใสทั้งองค์ ใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำเงิน มีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
4) ในยุคที่ 4 …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นปัจจุบันเหมือนๆกับรุ่น3 แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีแดง และมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว
5) รุ่นต่อๆมา …. ลักษณะองค์พระจะเป็นพิมพ์คล้ายรุ่นที่4 เหมือนๆรุ่นปัจจุบัน แตกต่างตรงใต้ฐานด้านล่างจะบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ถือเป็นยุคสุดท้าย ที่ฐานปิดทองและมีทั้งที่ติดลูกแก้วและไม่ติดลูกแก้ว ซึ่งพระในยุคสุดท้ายนี้มีทั้งที่ท่านหลวงพ่อและไม่ทัน เพราะอยู่ในช่วงคราบเกี่ยวที่หลวงพ่อใกล้ที่จะมรณะภาพ และหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ก็ยังใช้พิมพ์นี้สร้างต่อๆไป จึงอาจจะจำแนกแยกแยะได้ยาก ให้พิจารณาผิวองค์พระ เน้นแบบสีเหลืองอมน้ำผึ้งเข้มๆไว้ก่อน จะได้พิจารณาว่าทันหลวงพ่อแบบสบายใจปล.ภายหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว ทางวัดก็จัดสร้างพระแก้วใส 9นิ้ว พิมพ์สุโขทัย ออกมาให้บูชาอยู่เรื่อยๆ ที่ใต้ฐานก็มีทั้งที่บุกำมะหยี่สีแดง และบุกำมะหยี่สีน้ำตาล ต้องพิจารณาที่องค์พระเป็นสำคัญด้วย ว่าดูเก่าและมีอายุตามธรรมชาติขนาดไหน การเก็บรักษา-การบูชาในห้องพระที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงก็มีส่วนสำคัญในการทำให้องค์พระแปรเปลี่ยนสภาพ
(ข้อมูลนี้ถ้าผิดพลาดต้องกราบขออภัยด้วย แต่เท่าที่ได้เก็บสะสมมา พอจะระบุรุ่นที่สร้างก่อน-หลัง จำแนกรุ่นต่างๆตามที่กล่าวมา)
***********************************************************
พระบูชา 9นิ้ว พระแก้วใสองค์นี้สร้างในยุคที่2 ที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า “ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี” ผิวสีน้ำผึ้งเข้มตามธรรมชาติ เก่าตามอายุ
(ขออนุญาตเจ้าของพระนำรูปมาลงเพื่อการศึกษานะครับ)
-
พระบูชา9นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
สมเด็จองค์ปฐม ประดับเพชรด้านหน้าเต็ม สวยสดงดงามไปอีกแบบ รุ่นนี้เป็นรุ่นหลัง ตอกโค๊ตหมายเลขตรงปลายยอดซุ้มเรือนแก้วและที่ฐานพระด้านล่าง หน้าตัก 9นิ้ว ไม่ทันหลวงพ่อ แต่พุทธคุณยังคงเต็มเปี่ยม
-
พระบูชา9นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม ปางกายมนุษย์ “พระพุทธสันติธรรม” (พิมพ์สร้างถวาย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
ท่าน พล.ท.สมศักดิ์ เผ่านาค ได้สร้างพระหน้าตัก 9นิ้ว นามว่า “พระพุทธสันติธรรม” จำนวน 100องค์ พร้อมกับบัตรหมายเลขประจำองค์พระ (หมายเลข ๑-๒๕๓๑-๑๙๗ ถึงหมายเลข ๑-๒๕๓๑-๒๙๖) มาถวายให้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพื่อไว้สำหรับผาติกรรมถวายสังฆทานที่บ้าน พล.อ.อ.อาทร โรจนวิภาค และในปัจจุบันพระพุทธสันติธรรมก็ยังใช้เป็นพระรับสังฆทานอยู่
และภายหลังจากนั้น ทางวัดได้นำ พระพุทธสันติธรรม ขนาด 9นิ้ว ที่มีลูกศิษย์สร้างถวาย นำมาออกจำหน่ายในราคาตอนนั้น ร่วมบุญองค์ละ 3,000บาท ซึ่งเป็นพระคนละชุดกับที่ พล.ท.สมศักดิ์ เผ่านาค สร้างถวายหลวงพ่อ แต่เป็นพิมพ์พระลักษณะแบบเดียวกัน แตกต่างกันที่ตัวหนังสือใต้ฐานด้านหน้า รุ่นที่ พล.ท.สมศักดิ์ เผ่านาค สร้างถวายจะเขียนว่า “อนัตตา พระพุทธสันติธรรม เมตตา” ด้านหลังมีสลักหมายเลขกำกับ ทำเป็นผิวกะไหล่ทอง ส่วนรุ่นที่สร้างในภายหลังจะเขียน “พระพุทธสันติธรรม” อย่างเดียว และพระชุดหลังนี้จะไม่มีการสลักหรือตอกหมายเลขอะไรกำกับไว้ที่ด้านหลังองค์พระ ผิวองค์พระเป็นแบบปิดทอง สร้างขึ้นมาเฉพาะถวายที่วัดท่าซุง มีจำนวนไม่มากนัก หลวงพ่อก็บอกว่า นี่ก็สมเด็จองค์ปฐม เป็นปางกายมนุษย์
หมายเหตุ: พระบูชา 9นิ้ว พระพุทธสันติธรรม นั้น ทางวัดสันติธรรม จ.เชียงใหม่ โดยหลวงปู่สิม พุทธาจาโร ก็ได้สร้างขึ้นมาเช่นเดียวกัน โดยพิมพ์พระจะเป็นลักษณะเดียวกันกับแบบของวัดท่าซุง ซึ่งเข้าใจว่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อได้นำพิมพ์พระพุทธสันติธรรม ของวัดสันติธรรมมาสร้างถวาย แต่พระของทางวัดสันติธรรมจะตอกหมายเลขกำกับไว้ที่ด้านหลังบนแท่นฐานองค์พระด้านขวามือ ซึ่งจะต่างกับของวัดท่าซุงที่ไม่มีหมายเลขตอกกำกับไว้เลย
-
พระบูชา9นิ้ว สมเด็จองค์ปฐม ปางกายมนุษย์ “พระพุทธสันติธรรม” (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
ท่าน พล.ท.สมศักดิ์ เผ่านาค ได้สร้างพระหน้าตัก 9นิ้ว นามว่า “พระพุทธสันติธรรม” จำนวน 100องค์ พร้อมกับบัตรหมายเลขประจำองค์พระ (หมายเลข ๑-๒๕๓๑-๑๙๗ ถึงหมายเลข ๑-๒๕๓๑-๒๙๖) มาถวายให้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพื่อไว้สำหรับผาติกรรมถวายสังฆทานที่บ้าน พล.อ.อ.อาทร โรจนวิภาค และในปัจจุบันพระพุทธสันติธรรมก็ยังใช้เป็นพระรับสังฆทานอยู่
และภายหลังจากนั้น ทางวัดได้นำ พระพุทธสันติธรรม ขนาด 9นิ้ว ที่มีลูกศิษย์สร้างถวาย นำมาออกจำหน่ายในราคาตอนนั้น ร่วมบุญองค์ละ 3,000บาท ซึ่งเป็นพระคนละชุดกับที่ พล.ท.สมศักดิ์ เผ่านาค สร้างถวายหลวงพ่อ แต่เป็นพิมพ์พระลักษณะแบบเดียวกัน แตกต่างกันที่ตัวหนังสือใต้ฐานด้านหน้า รุ่นที่ พล.ท.สมศักดิ์ เผ่านาค สร้างถวายจะเขียนว่า “อนัตตา พระพุทธสันติธรรม เมตตา” ด้านหลังมีสลักหมายเลขกำกับ ทำเป็นผิวกะไหล่ทอง ส่วนรุ่นที่สร้างในภายหลังจะเขียน “พระพุทธสันติธรรม” อย่างเดียว และพระชุดหลังนี้จะไม่มีการสลักหรือตอกหมายเลขอะไรกำกับไว้ที่ด้านหลังองค์พระ ผิวองค์พระเป็นแบบปิดทอง สร้างขึ้นมาเฉพาะถวายที่วัดท่าซุง มีจำนวนไม่มากนัก หลวงพ่อก็บอกว่า นี่ก็สมเด็จองค์ปฐม เป็นปางกายมนุษย์
หมายเหตุ: พระบูชา 9นิ้ว พระพุทธสันติธรรม นั้น ทางวัดสันติธรรม จ.เชียงใหม่ โดยหลวงปู่สิม พุทธาจาโร ก็ได้สร้างขึ้นมาเช่นเดียวกัน โดยพิมพ์พระจะเป็นลักษณะเดียวกันกับแบบของวัดท่าซุง ซึ่งเข้าใจว่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อได้นำพิมพ์พระพุทธสันติธรรม ของวัดสันติธรรมมาสร้างถวาย แต่พระของทางวัดสันติธรรมจะตอกหมายเลขกำกับไว้ที่ด้านหลังบนแท่นฐานองค์พระด้านขวามือ ซึ่งจะต่างกับของวัดท่าซุงที่ไม่มีหมายเลขตอกกำกับไว้เลย