เหรียญหลวงพ่อยิ้ม วัดธรรมยาน เนื้อทองคำ (หลวงพ่อวิรัช โอภาโส อดีตพระเลขาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)

เหรียญหลวงพ่อยิ้ม หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “เหรียญพระสมเด็จพุทธธรรมยาน” มีลูกศิษย์หลวงพ่อวิรัชท่านนึงสร้างมาถวายเพื่อหาเงินเข้าวัด โดยด้านหน้าสร้างเป็นรูปหลวงพ่อยิ้ม ส่วนด้านหลังเป็นยันต์ทำน้ำมนต์ของพระสารีบุตร และมีบทที่พระสวดให้พรที่เรียกว่า “มงคลจักรวาลน้อย” คือ อายุวัฑฒะโก ธะนะวัฑฒะโก สิริวัฑฒะโก ยะสะวัฑฒะโก พละวัฑฒะโก วัณณะวัฑฒะโก สุขะวัฑฒะโก ทั้งหมดคือ “ความเจริญทั้งเจ็ดประการ” รวมกันคือ น้ำมนต์ 7วัฒท์ ตามที่คนโบราณแนะนำคนที่ดวงตกให้ไปรดน้ำมนต์ 7วัด เพื่อสะเดาะห์ต่อชะตาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ก็คือ น้ำมนต์ 7วัฒท์แบบนี้

เหรียญรุ่นนี้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกที่ตึกรับแขก วัดท่าซุง เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2554 พร้อม “เหรียญหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง นั่งโซฟารับแขก” มีอยู่ด้วยกัน 5แบบ คือ

1) เนื้อทองคำ (สร้าง3เหรียญ)
2) เนื้อเงิน
3) เนื้อชุบทองเหล็กไหลสีดำ
4) เนื้อชุบทองหนาพิเศษ
5) เนื้อชุบทองธรรมดา (แจกคนทำบุญสังฆทาน)

แบบที่1เหรียญทองคำ จะมีโค๊ตตอก2ข้างซ้ายขวาและที่หูเหรียญ ส่วนแบบที่ 2-4 สร้างประมาณ 500ชุด มีโค๊ต2ข้างซ้ายขวา ถ้าเป็นเนื้อชุบทองธรรมดามีโค๊ตตอกตัวเดียว

นำมาให้บูชาและแจกผู้ทำบุญถวายสังฆทานในงานกฐิน ปี54 เหรียญนี้เป็น 1ใน3เหรียญที่มีการจัดสร้างเนื้อทองคำ ทางวัดตั้งราคาให้ร่วมบุญเหรียญละ 20,000บาท

****************************************************************************************************

ประวัติหลวงพ่อพระปลัดวิรัช โอภาโส

พระปลัดวิรัช โอภาโส อดีตพระวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี หลังจากที่ท่านเคยใช้ชีวิตในโลกแห่งสมมุติ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกามานานกว่า 10 ปี ได้เดินทางกลับสู่ประเทศไทย และเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อหาทางเข้าสู่วิมุตติ ณ วัดท่าซุง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2524 และจนกระทั่งวันที่ 30 ตุลาคม 2535 เป็นวันที่บรรดาลูกหลานศิษยานุศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เศร้าโศกเสียใจกับการมรณภาพของท่านอย่างไม่มีวันกลับ พระปลัดวิรัชได้อยู่สนองพระคุณท่าน ด้วยการร่วมในพิธีงานมรภาพจนครบรอบ 1 ปี ในที่สุดท่านตัดสินใจออกจากวัด เพื่ออยู่ใกล้ชิดบิดามารดา และเพื่อฝึกฝนตนเอง และแสวงหาเส้นทางวิมุตติ ด้วยการรอนแรมไปยังที่ต่างๆนานกว่า 10 ปี

ภายใต้ร่มโพธิ์ทอง ร่มโพธิ์ธรรม ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ยาวนาน 12 ปี ท่านได้เป็นพระเลขาฯ ประจำตัวของหลวงพ่อฯ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส กรรมการมูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร และกรรมการโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา ท่านเป็นผู้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อฯทั้งภายในประเทศและต่างประเทศด้วยดี ตลอดมา ซึ่งทุกตำแหน่งได้สร้างความภูมิใจให้ท่านเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีสิ่งอื่นใดที่จะมีค่าเท่ากับความเมตตาที่หลวงพ่อฯมอบให้ ในที่สุดท่านได้นำประสบการณ์ที่สะสมมานานมาสร้าง วัดธรรมยานขึ้น ที่ ตำบลนาเฉลียง อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ท่านมีปฏิปทาในการทำงานเพื่อบูชาพระคุณองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และเจริญรอยตามครูบาอาจารย์ คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

เมื่อเวลามาถึง และโอกาสอำนวย วัดธรรมยานจึงได้ถือกำหนดขึ้น เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2546 จากที่ดิน 37 ไร่ จนกระทั่งปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งหมด 664 ไร่ จากพื้นที่แห้งแล้งประดุจดั่งทะเลทราย ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำใช้ในบางโอกาส ณ บัดนี้ผืนดินดังกล่าวได้ค่อยๆกลายเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เจริญงอกงามขึ้น ตามลำดับของกาลเวลาและกำลังศรัทธาของผู้แสวงบุญ อันเป็นสถานที่เหมาะแก่การหลีกเร้นใฝ่หาความสงบของจิตเพื่อก้าวไปสู่การพัฒนาหาทางดับทุกข์ในที่สุด