พระคำข้าว รุ่น2 (ถุงเดิมๆจากวัด) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

ชุดพระคำข้าว 10องค์ และ 5องค์ ในถุงเดิมๆของวัดตั้งแต่สมัยหลวงพ่อ สำหรับชุด10องค์ ต้องทำบุญถวายสังฆทานกับหลวงพ่อถังละ 1,000บาท ส่วนชุด5องค์ต้องทำบุญถวายสังฆทานกับหลวงพ่อถังละ 500บาท ก็จะได้รับแจกพระคำข้าวในถุงกับมือหลวงพ่อท่านเอง

*************************************

จำนวนการสร้างพระคำข้าวแบบคร่าวๆ

พระคำข้าวรุ่น 1 พุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2533 จำนวนทั้งสิ้น 100,000 องค์

พระคำข้าวรุ่น 2 พุทธาภิเษก 2 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 29 ธันวาคม 2533 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2534 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,000,000 องค์

************************************************

ประวัติพระคำข้าว มหาลาภ

หลวงพ่อได้เล่าความอัศจรรย์ของพระคำข้าว สมัยที่ท่าน ยังอยู่ กับหลวงพ่อปานไว้ดังนี้…
เมื่อสมัยหลวงพ่อ(ปาน)ยังทรงชีวิตอยู่ ท่านทำพระไว้องค์หนึ่ง เสกข้าว ๓ เดือนนี่ปรากฏว่า คำไหนอร่อยมากคำนั้นไม่กินเอาออกเก็บ สำหรับที่ฉันนี่ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า คำแรกยังไม่ต้องกินกับข้าวที่ดีที่สุดผสมก่อน เสกเก็บนะ ก็ทำจริง ๆ ๔ เดือน ไปไหนก็ทำ หมายความว่าบังเอิญจะมาที่นี่ ก่อนจะกินก็ต้องทำเก็บไว้เหมือนกัน เพราะคำว่า ๓ เดือน ๓ เดือน นี่จะขาด สักวันหนึ่งไม่ได้เลย แล้วก็ผลจริง ๆ ที่เคยปรากฎนะ ที่หลวงพ่อปาน ท่านทำ ใช่ไหมทำแล้วก็ทำเป็นผงผสมไว้แล้วก็สร้างเป็นพระพุทธรูปไว้บูชาที่พระสวดมนต์ เวลาหลวงพ่อท่านไม่อยู่คนไม่ค่อยเอากับข้าวไปให้กิน ฉันก็ไป บูชาพระองค์นั้น ขอหม้อใหญ่ ๆ มาเรื่อยนี่เป็นเรื่องจริง ๆ นะ มาอีกวันหนึ่ง เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก คือว่าหลวงพ่อ ไป เขาวงพระจันทร์ อีตาโปร่งแก เป็นเจ้าของโรงงานต่อเรือยนต์นะ แกก็นำแกงมา ๓ หม้อใหญ่ ใหญ่มาก ปรากฏพอมาถึงหน้าวัด ฉันบูชาตอนกลางคืนนี่นะ ฉันอดนะ กับข้าวไม่ค่อย มีกิน หลวงพ่อไม่อยู่เราก็อาศัยพระพุทธรูป ตาโปร่งมาถึงพอมาถึงจอด เรือ ปั๊บ ถามว่าหลวงพ่อ อยู่ไหม เขาบอกไม่อยู่ไปเขาวงพระจันทร์ แกถอยหลัง เรือออกเลยแหมหม้อต้มใหญ่ ๆ จะให้หลวงพ่อปานฉันองค์เดียว ใบจักรหัก มันไม่มีตอนะ ใบจักรหัก ฉันเลยหม่ำซะ ๓ หม้อเลย ใบจักรหักเรา ก็ไม่ช่วยต่อ เรื่องของแก พอหลวงพ่อปานกลับมา ตาโปร่งก็มา เล่าให้ฟัง บอกว่า ผมเอาอาหารมาถวาย นึกว่าหลวงพ่อยังอยู่ พอหลวงพ่อไม่อยู่ พระบอกว่า หลวงพ่อไม่อยู่ ผมเลยถอนหลังกลับเอาอาหารกลับบ้าน แต่ใบจักร ไม่รู้ฟันอะไรหัก หลวงพ่อปานบอกที่นั่นมันไม่มีตอ หน้าวัดไม่มีตอ แกก็ถามทำไมจึงหัก ท่านก็เลยบอกว่า แกคลายศัทธาใบจักรก็หัก ในเมื่อ มาถึงวัดแล้ว แกไปทำไมไอ้คนจะเป็นมหาเศรษฐี ถอยหลัง ไม่ต้องการ มหาเศรษฐีมีที่ไหน อ้อเทวดาช่วยนะ ช่วยใครรู้ไหม ช่วยฉัน โอ้โฮหม่ำซะ ไม่มี ดีใจกินแกงใบจักรหัก

 

เกร็ดความรู้ที่หลวงพ่อพูดถึงเกี่ยวกับพระคำข้าว
คัดลอกจากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๙
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

อันดับแรกที่เราจะทำอะไรทั้งหมด ตื่นขึ้นมาใหม่ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน นึกถึงด้วยความเคารพ เพื่อหวังพระนิพพานก็ตาม นึกถึงเพื่อขอลาภสักการะก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้าเหมือนกัน อันดับแรกนะ อย่างมี พระคำข้าว- พระคำข้าวน่ะ หนักไปในทางลาภสักการะ อย่างอื่นก็มีหมด แต่ลาภน่ะหนักมาก และก็หยิบขึ้นมาพนมมือ สาธุ ว่า นะโม ตัสสะ ใช่ไหม ว่านะโมตัสสะ ด้วยความเคารพ และอธิฐานว่า วันนี้ต้องการ…(ลาภอย่างไร)

เป็นอันว่าเราอยากจะให้ค้าขายดี ทำราชการดี เมตตาปราณี อะไรก็ตามเถอะ ก็อย่าลืมว่าเวลานั้นเรานึกถึงพระพุทธเจ้า เราขอบารมีจากท่าน อย่างนี้ถือว่าเป็น ฌาน ในพุทธานุสติกรรมฐาน ถ้านึกถึงทุกวันน่ะ ถ้าถึงเวลาแล้วต้องทำอย่างนั้นทุกวัน ถ้าไม่ทำแล้วไม่สบายใจ นั่นเป็นฌานในพุทธานุสติ เป็นของง่าย ๆ เพราะวันนี้ท่านบอกให้พูดง่าย ๆ ใช้วิธีง่าย ๆ นะ ก็ว่าตามท่าน

…ทีนี้เมื่อเมื่อบรรดาท่านพุทธ บริษัท นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้ว อย่าลืมพระที่คอ นี่คือพระพุทธเจ้า อย่างพระคำข้าว เป็นพระพุทธชินราช อย่าลืมน่ะ คือก็เหมือนกับพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งนั่นแหละ เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าท่าน และเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าท่านก็มาทำ อันนี้ไม่ได้โฆษณานะ พูดให้ฟัง คือเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าทุกองค์เสด็จมาหมด องค์ปฐมเป็นประธาน อยู่ข้างบนใช่ไหม และ องค์ปัจจุบันคุมฉัน ท่านปล่อยกระแสจิตพุ่งสว่างเป็นลำพุ่งมาที่ใจฉัน แล้วบอกเธอนั่งนิ่งๆ อย่าคิดถึงเรื่องอะไรทั้งหมด ห้ามดูอะไรทั้งหมด ให้ทรงอารมณ์เฉยๆ ๑๐ นาที ก็ทำตามท่าน แล้วท่านก็สั่งว่า ให้ว่าอิติปิโสฯ หลัง ๑๐ นาทีแล้ว ท่านบอกดูได้พุ่งใจไปที่ของได้ พอพุ่งใจไปที่ของ ที่เห็นเป็นลำ ไม่เห็นของที่ปลุกเลย แสงพระพุทธเจ้ากลบหมด หนามาก พระคำข้าว เด่นทางมหาลาภ มีรูปพระพุทธชินราช (พระพุทธกัสสป) ด้านหน้าและด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ

หลวงพ่อเคยบอกว่า สมเด็จองค์ปฐม ได้ให้พระพุทธกัสสป-พระพุทธทีปังกร คุมเรื่องลาภ

คัดลอกจากหนังสือธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๑๔๕ หน้า ๖๓

…”สมเด็จองค์ปฐมก็มา และพระพุทธกัสสปก็มา สมเด็จพระพุทธทีปังกรก็มา…สมเด็จองค์ ปฐมท่านบอกว่า เรื่องลาภนะ สมเด็จพระพุทธกัสสป หนักที่สุด และรองลงมาคล้ายคลึงกันคือ สมเด็จพระพุทธทีปังกร ก็เลยถามท่านว่า “พระพุทธเจ้ามีบารมีเต็มเหมือนกัน ทำไมแตกต่างกันเรื่องลาภ” ท่านบอกว่า “สุดแล้วแต่การเริ่มต้น คู่อันไหนแรงกว่ากัน”…ท่านบอก “ให้พระพุทธกัสสปคุมเพราะลาภมาก” สมเด็จองค์ปฐมบอกว่า…”ลีลาต่างกันนิดหนึ่ง…

…สมเด็จพระพุทธทีปังกร : มีกำลังแข็งมากสู้แรงมาก

…พระพุทธกัสสป : ท่านนิ่มนวลในทางลาภมหาศาล

…แต่ลาภมหาศาลทั้งคู่ : ท่านก็เลยบอกว่าเป็นหน้าที่ของทั้ง ๒ องค์

***********************************************

เพื่อความคล่องตัวในด้านการเงิน ใช้ท่องกับคาถาเงินล้านครับ การเงินจะคล่องตัว

คาถาเงินล้าน

(ตั้ง นะโม ๓ จบ )

สัมปจิตฉามิ
นาสังสิโม
พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน )
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
มิเตภาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา
วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ
( บูชา ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)