ผ้ายันต์-โชว์

  • ผ้ายันต์ ผ้ายันต์-โชว์

    ผ้ายันต์ธงท้าวมหาชมภู (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    หลวงพ่อท่านกล่าวถึงผ้ายันต์เขียวผ้ายันต์แดงนี้ไว้ว่า ทำขึ้นเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของทหารที่เข้าสงครามโดยเฉพาะ แต่ไม่รับรองในด้านคงกระพันชาตรี ท่านเจ้าของยันต์รับรองว่าจะไม่ตายโหง ถ้าเคราะห์ร้ายจริง ๆ จะยอมให้แค่เสียเลือดแต่กระดูกจะไม่หัก ถ้าถึงที่ตาย จะให้กลับมาตายที่บ้าน ท่านผู้รับไปจะต้องใช้ในเมื่อความจำเป็นบังคับเท่านั้น เช่น ต้องรบเพื่อป้องกันประเทศชาติ หรือป้องกันทรัพย์สมบัติ และชีวิตเมื่อถูกรุกราน ถ้านำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ผ้ายันต์นี้จะไม่ให้ผลแด่ท่านเลย

    ประโยชน์จากผ้ายันต์
    ๑. ผ้ายันต์สีแดง (ธงท่านท้าวมหาชมภู) มีไว้เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นเนื่องจากอุบัติเหตุ และโรคระบาดต่าง ๆ เช่น ไข้ป่า เป็นต้น อันตรายจะมีแด่ท่านผู้มียันต์นี้อย่างมากก็เพียงเนื้อแตก หนังแตก จะไม่มีอันตรายถึงกระดูกหัก หรือสิ้นชีวิตในระหว่างที่ ยังไม่ถึงอายุขัย

    ๒. ผ้ายันต์สีเขียว (ธงพระอินทร์) จะช่วยคุ้มครองหมู่คณะที่ร่วมปฏิบัติงานร่วมกัน ถ้าเขาเหล่านั้นต้องการให้คุ้มครอง
    อาราธนา การอาราธนาขอให้ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และครูอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา จนถึงหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และท่านเจ้าของธงเป็นที่สุด แล้วให้อธิษฐานตามที่ตนปราถนา (หมายถึงการคุ้มครอง) ไม่ใช่ขอหวย เมื่ออธิษฐานแล้วให้ปลุกด้วยคาถาปลุกของคนทั่วไปของหลวงพ่อปาน ว่าดังต่อไปนี้

    คาถาปลุก

    “อิทธิฤทธิ์ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุนี้ด้วยเถิด”

    ผ้านี้ทำเพียงหนึ่งพันชุด และแจกในวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๑๒ ซึ่งตรงกับ เดือนห้า ขึ้นห้าค่ำ วันเสาร์ เป็นวันไหว้ครู

    **********************************************

    สังเกตอักขระยันต์ทั้ง2ผืนจะคนละแบบกัน แบบผืนด้านบนจะเป็นแบบที่เราพบเห็นได้ทั่วไป แต่ส่วนผืนด้านล่างตัวอักขระยันต์จะตัวเล็กกว่า สร้างออกมาในยุคแรกๆ ไม่ค่อยมีให้เห็นกันนัก หาชมยาก

    Read more
  • ผ้ายันต์ ผ้ายันต์-โชว์

    ผ้ายันต์ธงพระแม่โพสพ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    ผ้ายันต์ธงพระแม่โพสพ หรือที่เราจะเรียกกันติดปากว่า “ผ้ายันต์ธงฟ้า” พุทธคุณใช้ป้องกันเพลี้ย กันแมลง หรือถ้าเข้าไปอยู่ในป่าก็จะไม่อดตาย

    Read more
  • ผ้ายันต์ ผ้ายันต์-โชว์

    ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม รุ่นแรก (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม รุ่นนี้หลวงพ่อทำแจกครั้งแรกพร้อมแผ่นแนบ เดิมๆจากวัด ซึ่งเป็นยันต์ที่อยู่บนยอดธงออกรบสมัยโบราณ ตำราวิชานี้เป็นตำราพระร่วงที่หลวงพ่อเราสืบทอดมาเป็นท่านสุดท้าย..ถึงแม้ท่านอื่นนำไปทำผลมากที่สุดจะแค่ 10% เท่านั้น ท่านบอกไว้

    เรื่องผ้ายันต์แดงธงมหาพิชัยสงคราม ไว้เพื่อเตือนความจำไว้ดังนี้

    ๑. ความศักดิ์สิทธิ์ ของธงมหาพิชัยสงครามมีมากมาย
    ๒. ผู้นำไปใช้ หากนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น เป็นโจร-ปล้น-ฆ่าเขา-โขโมยเขา ธงนี้ไม่คุ้มครอง ซ้ำยังให้ผลร้ายกับผู้นั้นด้วย หากถูกยิง ลูกปืนจะเข้าแสกหน้าทะลุท้ายทอยทุกราย
    ๓. ธงมหาพิชัยสงคราม ไม่ใช่ ไสยศาสตร์ แต่เป็นพุทธศาสตร์ จึงไม่เสื่อม (หากใช้ในทางที่ดี)
    ๔. เวลาทำพิธีพุทธาภิเษกนั้น ธงแดงมหาพิชัยสงคราม กับ ผ้ายันต์เกราะเพชรซึ่งมีรูปหลวงพ่อปาน และ รูปยันต์เกราะเพชรนั้น ทำเหมือนกัน มีคุณภาพเหมือนกัน ทุกประการ ใช้แทนกันได้
    ๕. เรื่องป้องกัน หรือบรรเทาอุบัติเหตุ ไฟไหม้บ้าน พายุใหญ่ หรือวาตภัย
    มีผู้เล่าให้ฟังเสมอว่ามีผลดีอย่างอัศจรรย์ ส่วนเรื่องอื่นๆ ต้องอธิษฐานขอ และผลขึ้นอยู่กับความมั่นคงของจิตของแต่ละคนด้วย

    *************************************************************

    ในสมัยนั้นผกค.มีอิทธิพลสูง ได้ยึดเทือกเขาภูพานเป็นฐานใหญ่ของเขา และยังท้าทายฝ่ายทหารว่า หากจะตีเขาได้จะต้องใช้กำลังหลายกองพล และใช้เวลาหลายเดือนจึงจะสำเร็จ พล.ต. ยุทธศิลป์ เกสรสุข (ยศในขณะนั้นปัจจุบันมียศพล.ท.) ซึ่งเป็นรองแม่ทัพ จึงนำเรื่องนี้มากราบเรียนหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านเป็นพระ จะไปรบกับเขาก็ไม่สมควร แต่ท่านก็มีวิธีช่วยเป็นกำลังใจให้กับทหารได้ดังนี้

    ๑. ท่านเดินทางไปพร้อมกับคณะ เพื่อทำพิธีบวงสรวงก่อนที่ฐานทัพของทหาร

    ๒. แจกผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม ให้กับทหารในหน่วยนั้นทุกคน (ผ้ายันต์สีแดง)

    ๓. ให้ฤกษ์แก่ฝ่ายทหาร ทั้งนี้หมายถึงให้ฤกษ์ดีว่าเป็นมงคล ไม่ได้ระบุให้เข้าไปตีกันรบกัน เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่วนเขาจะไปทำอะไรกันนั้น พระท่านต้องอุเบกขา

    ผมจำได้ว่า หลวงพ่อทำพิธีตั้งแต่เช้ามาก เพราะจากรูปถ่ายที่ นาวาตรีประชา สิกขวานิช ร.น.ถ่ายไว้ ปรากฏพุทธนิมิตเป็นฉัตร ๕ ชั้น ทอดมาตามแสงแดดครอบคลุมองค์หลวงพ่อเท่านั้น ยังทำมุมน้อยมาก (มีรูปถ่ายอยู่ที่บ้านสายลม และที่วัดท่าซุง) หลังพิธีแล้ว ฝ่ายทหารก็นำหลวงพ่อ หลวงปู่ครูบาธรรมชัย และคณะเข้าห้องยุทธการ เพื่อฟังบรรยายสรุปของฝ่ายทหาร

    เมื่อบรรยายจบ ปรากฏว่ามีนายทหารที่ฉลาด ถามได้ถามหลวงพ่อกับหลวงปู่ว่า ขณะนี้พวกผกค.เขาอยู่ที่ไหนบ้าง โดยให้ท่านเอาไม้เท้าช่วยชี้ไปในแผนที่ทหาร ปรากฏว่าท่านชี้จุดให้ทันทีทันใด โดยไม่ต้องคิดหรือต้องเสียเวลา เหล่าทหารต่างร้องอือพร้อม ๆ กันหลายคน และบอกว่าตรงจุดเป๋งเลยครับหลวงพ่อ บางคนไม่ฉลาดถามก็ถามวิธีเข้าโจมตี หลวงพ่อท่านก็ปฏิเสธเพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์

    ส่วนวิธีถามที่ฉลาดผมขอสงวนไว้ก่อนครับ จากนั้นก็คุยกันในเรื่องอื่น ๆ ผมฟังไป ๆ คงจะตื่นเต้นมาก เลยเกิดทุกข์หนัก ต้องขอตัวขอเวลานอกไปพิจารณาทุกข์ที่ห้องสุขา และผมคงจะพิจารณาทุกข์ ขณะกำลังบรรเทาทุกข์แล้วมีผล คือ เห็นอริยสัจ เพราะธรรมะของพระองค์ท่านแนะนำวิธีปฏิบัติไว้ชัดว่า ให้ปฏิบัติ ตลอดเวลาทุกเวลา ทุกโอกาส ทุกสถานที่ และทุกอิริยาบถ คือ เป็นอกาลิโก

    ผมก็ปฏิบัติตามท่านอย่างเพลิดเพลิน พอจบภารกิจส่วนตัวของผมแล้ว ก็ออกมารีบเดินเข้าห้องยุทธการ ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคนเดียว ชักใจไม่ดีรีบวิ่งออกมาข้างนอก ก็ปรากฏว่ารถหลวงพ่อและคณะหายไป ไม่พบใครสักคนเลย หันรีหันขวางอยู่ บังเอิญมีนายทหารท่านหนึ่งท่านจำผมได้ เห็นผมจึงถามว่าคุณมากับหลวงพ่อใช่ไหม ผมก็ตอบว่าใช่ครับ

    ทหารผู้นั้นก็บอกว่าหลวงพ่อกับคณะไปนานแล้ว คุณไปอยู่ที่ไหนมา ก็ตอบไปว่าอยู่ในห้องน้ำครับ ท้องมันไม่ค่อยดี ขณะนั้นผมเองรู้สึกเง็งไปหมด (ไม่ใช่งง เพราะมันเป็นความรู้สึกที่เกินกว่างง) แต่เคราะห์ยังดีที่ นายทหารท่านนั้นช่วยแก้สถานการณ์ให้ทันควัน โดยส่งรถจิ๊ปเล็ก พร้อมคนขับให้ผมกระโดดขึ้นพร้อมกับท่านรีบบึ่งตามคณะหลวงพ่อไปจนทัน การปฏิบัติธรรมของผมเป็นที่ครื้นเครงของพวกเราทุก ๆ คนที่ได้หัวเราะกันจนฉี่จะออก

    หลังจากที่หลวงพ่อและคณะได้เยี่ยมให้กำลังใจกับทหารตามหน่วยต่าง ๆ แล้วก็กลับไปกทม. และจากนั้นอีกไม่กี่วัน พล.ต.ยุทธศิลป์ ก็สั่งทหารแค่หนึ่งกองร้อยเข้าโจมตีที่มั่นของผกค.เป็นการหยั่งเชิง โดยมีตัวท่านเป็นผู้สั่งการอยู่ข้างบนเครื่องบิน ผลปรากฏว่าดีมากเกินคาดหมาย แต่มีรายงานจากวิทยุว่ามี ทหารเสียชีวิต ๑ นาย ท่านเกิดสงสัยว่ามันตายได้อย่างไร เพราะท่านมั่นใจว่า ทหารของท่านต้องไม่มีใครตาย ท่านให้แค่บาดเจ็บเท่านั้น

    จึงสั่งลงมาจากเครื่องบินให้ค้นตัวทหารที่ตายว่า พบอะไรติดตัวบ้าง โดยเฉพาะผ้ายันต์แดง ธงมหาพิชัยสงคราม ทหารก็รายงานว่าไม่พบผ้ายันต์แดงเลยในตัว ท่านรู้สึกผิดหวังมากที่เขาไม่พกเอาผ้ายันต์แดงแดงไปด้วยทั้ง ๆ ที่สั่งแล้ว เมื่อถอนตัวกลับฐานทัพ ก็สอบข้อเท็จจริงเรื่องพลทหารที่ตายว่าชื่ออะไร อยู่หน่วยไหน ทำไมจึงไม่มีผ้ายันต์สีแดง ก็พบว่าเป็นทหารที่เพิ่งย้ายกลับเข้ามาเมื่อวานนี้เอง จากหน่วยทหารราชบุรี (อ.ปากห่อ) ท่านจึงถึงบางอ้อ

    วันที่ สอง ท่านเพิ่มหน่วยจู่โจมเป็นสองกองร้อย ผลปรากฏว่ามีตาย ๒ คน และก็มีสาเหตุจากไม่มีผ้ายันต์แดงติดตัวเช่นกัน เพราะเพิ่งย้ายเข้ามาจากหน่วยอื่นความลับไม่มีในโลกทั่วทั้งกองทัพรู้ข่าวรู้อิทธิปาฏิหาริย์ของผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงครามกันหมด ผลก็คือ ทหารทุกคนที่ไม่มีผ้ายันต์ สีแดง จะไม่ยอมออกโจมตีในวันต่อไป จึงเดือดร้อนถึงท่านรองแม่ทัพ ดังนั้น เพื่อขวัญและกำลังใจของลูกน้อง ท่านรองจึงต้องบินมาหาหลวงพ่อในคืนนั้นเพื่อขอผ้ายันต์แดงไปแจกลูกน้องให้ครบทุกคน

    วันที่ ๓ ทุกคนมีขวัญและกำลังใจเต็ม ๑๐๐% ใช้กำลังเป็น ๓ กองร้อย ปรากฏผลว่าสามารถยึดฐานใหญ่และฐานย่อยของภูพานได้ทั้งหมดชนิดที่ผกค. ขวัญกระเจิงไม่ยอมสู้ด้วย เพราะวันที่ ๓ นี้ทหารทุกคนถือปืนวิ่งเข้ายึดฐานโดยไม่มีใครยอมหมอบ หรือวิ่งเข้าหาที่กำบังเหมือน ๒ วันแรก ทุกคนดาหน้าเข้ายึดเอาดื้อ ๆ โดยไม่กลัว ไม่ยอมหลบลูกปืนสักคน จึงยึดได้ด้วยเวลาอันสั้น และไม่มีใครเสียชีวิตเลย

    ผมนึกภาพเอาเองนะครับว่า หากผมเป็นผกค. ผมก็คงต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด เพราะยิงเท่าใดก็ไม่โดนตัว หรือโดนก็ไม่เข้าคงดาหน้าเข้ามาเต็มไปหมด เหมือนกับยิงทหารที่ทำจากหุ่น (เหมือนในสมัยขุนแผน ท่านเป็นแม่ทัพเสกหุ่นให้เป็นทหารรบที่ไหนก็ชนะหมด) พอหลวงพ่อท่านทราบข่าวจากท่านรองแม่ทัพ ท่านพร้อมคณะไปเยี่ยมทหารหน่วยนั้นในวันต่อมา

    หลังจากได้คุยกับทหารหน่วยพิเศษนี้แล้ว ผมพอจะสรุปผลย่อ ๆ ได้ดังนี้
    ๑. ขณะที่ฝ่าย ผกค.ยิงปืนเข้าใส่พวกเรานั้น ส่วนใหญ่บอกว่าไม่โดนแต่เฉี่ยวหรือเฉียดตัวไป รู้สึกว่าลูกปืนมันวิ่งมาเต็มไปหมด แต่ไม่ยักโดนตัว

    ๒. บางคนบอกว่า บางครั้งก็โดน แต่ไม่เข้า ไม่รู้สึกเจ็บ มีความรู้สึกคล้าย ๆ มีแมลงหรือผึ้งบินมาชนตัวเท่านั้น

    ๓. มีอยู่ ๑ ราย ที่เล่าว่าขณะที่เดินไปบ้าง วิ่งไปบ้าง ยิ่งปืนใส่ข้าศึกบ้าง รู้สึกหิวจึงเอามือล้วงมาม่า (เส้นหมี่) กินไปด้วย แต่แปลกใจว่าทำไมมาม่ามันถึงแข็งและเหนี่ยวนัก เลยคายออกมาจากปากดู ปรากฏว่ามันไม่ใช่มาม่า แต่เป็นลูกปืนที่ข้าศึกยิงมาโดนตัวแต่ไม่เข้า ลูกกระสุนแบนเหมือนถูกบี้ แล้วจึงหล่นลงไปในกระเป๋าเสื้อที่มีมาม่าอยู่

    ๔. บางคนเล่าว่า ขณะวิ่งไปยิงไปนั้น บางครั้งก็มองเห็นข้าศึกที่ซุ่มอยู่ข้างทาง แต่มันไม่ยักยิง เห็นตามันค้างคล้ายกับหุ่นหรือคนตกใจ ข้อนี้ขออนุญาตวิจารณ์ว่าคงเป็นอานุภาพของผ้ายันต์แดง ทำให้เกิดอาการ “ นะจังงัง ” ขึ้น หรือเพราะมันตกใจจริง ๆ ที่ไม่เคยเห็นคนที่ไม่ยอมหลบลูกปืน จึงมีสภาพคล้ายเห็นผี แล้วตกใจตาค้าง

    ๕. เรายึดได้ฐานใหญ่มาก จนไม่น่าเชื่อ เพราะฐานนี้มีทั้งร.พ.และเวชภัณฑ์มากมาย มีโรงพละศึกษา, สนามบาส, โรงครัวขนาดใหญ่พร้อมเสบียงกินได้เป็นปี, อาวุธมากมาย, เครื่องปั่นไฟและน้ำมัน โดยเฉพาะราวตากผ้า ท่านรองแม่ทัพบอกว่าต้องใส่รถ ๑๐ ล้อทั้งคันอาจจะขนไม่หมด แสดงว่ามันมีกำลังพลไม่ใช่น้อยเกินกว่าที่เราคาดคะเนไว้อีก และมีการทดน้ำไว้ใช้ด้วย แสดงว่าเขาอยู่มานานหลายปี

    ๖. เนื่องจากเราใช้กำลังพลน้อยแค่ ๓ กองร้อย หากจะยึดพื้นที่ไว้ก็เสี่ยงเกินไปเพราะตอนกลางคืน มันอาจหวนกลับมาใหม่ก็ได้ จึงสั่งทำลายและเผาให้หมด สำหรับผมคิดเอาเองว่าหากผมเป็นผกค. ก็ไม่ขอยอมหันหลังกลับมาตียึดคืนแน่ ๆ เพราะเข็ดไปจนตาย จะไม่ขอพบทหารผี (ทหารหุ่น) เหล่านี้อีก

    ๗. เป็นจริงตามคาดหมาย เพราะตั้งแต่ครั้งนั้นเป็นตันมา ผกค.ก็หายซ่าไปเลย

    เรื่องของหลวงพ่อท่าน ยังมีอีกมาก ยากที่ผมจะเล่าให้ฟังหมดได้ และโดยธรรมแล้ว อะไรก็ตามที่มันมากเกินไป ผลมันแทนที่จะมากตามส่วนกลับไม่ได้ผลหรือกลับเป็นผลเสีย เช่น ยาทุกชนิด หากใช้เกินขนาดล้วนเป็นโทษแก่ผู้ใช้ทั้งสิ้น ร่างกายของคนก็เช่นกัน หากส่วนใดเจริญมากไป ก็กลายเป็นมะเร็ง สมจริงตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่ตรัสไว้ใน “ปฐมเทศนา” ความว่าอย่าตึงไป (เครียดเกินไป) อย่าหย่อนไป (อยากมากเกินไป,ขี้เกียจมากไป) จะไม่มี

    ผล ให้เดินสายกลาง ผมจึงต้องขอจบเรื่องไว้อีกตอนหนึ่งเพียงแค่นี้

    แต่ก่อนจะจบขอสรุป เรื่องผ้ายันต์แดงธงมหาพิชัยสงคราม ไว้เพื่อเตือนความจำไว้ดังนี้

    ๑. ความศักดิ์สิทธิ์ ของธงมหาพิชัยสงครามมีมากมาย เขียนอีก ๒-๓ ตอนก็ไม่จบ ที่เล่าให้ฟังนี้เป็นเพียงตัวอย่างบางเรื่องเท่านั้น

    ๒.ผู้นำไปใช้ หากนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น เป็นโจร-ปล้น-ฆ่าเขา-โขโมยเขา ธงนี้ไม่คุ้มครอง ซ้ำยังให้ผลร้ายกับผู้นั้นด้วย หากถูกยิง ลูกปืนจะเข้าแสกหน้าทะลุท้ายทอยทุกราย

    ๓. ธงมหาพิชัยสงคราม ไม่ใช่ ไสยศาสตร์ แต่เป็นพุทธศาสตร์ จึงไม่เสื่อม (หากใช้ในทางที่ดี)

    ๔. เวลาทำ พิธีพุทธาภิเษกนั้น ธงแดงมหาพิชัยสงคราม กับ ผ้ายันต์เกราะเพชรซึ่งมีรูปหลวงพ่อปาน และ รูปยันต์เกราะเพชรนั้น ทำเหมือนกัน มีคุณภาพเหมือนกัน ทุกประการ ใช้แทนกันได้

    ๕. เรื่องป้องกัน หรือบรรเทาอุบัติเหตุ ไฟไหม้บ้าน พายุใหญ่ หรือวาตภัย
    มีผู้เล่าให้ฟังเสมอว่ามีผลดีอย่างอัศจรรย์ ส่วนเรื่องอื่นๆ ต้องอธิษฐานขอ และผลขึ้นอยู่กับความมั่นคงของจิตของแต่ละคนด้วย…สาธุ
    :เหตุการณ์ระหว่างปี ๒๕๑๘-๒๕๒๐ เล่าโดยพล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

    Read more
  • ๔. เครื่องราง ผ้ายันต์ ผ้ายันต์-โชว์

    ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงครามพร้อมธงชาติ 8×11นิ้ว (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    ก่อนใช้ธงมหาพิชัยสงคราม ให้อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์สืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงเป็นที่สุด แล้วปลุกด้วยคาถา “พุท ธะ สัง มิ”

    แบบเย็บติดกับธงชาติ จะมีอยู่ด้วยกัน 3ขนาด คือ
    1) ขนาดผืนใหญ่ 20×30นิ้ว
    2) ขนาดผืนกลาง 8×11นิ้ว
    3) ขนาดผืนเล็ก 4.25×7นิ้ว

    **********************************************************************

    สำหรับท่านที่ไม่ธงมหาพิชัยสงครามที่เย็บติดกับธงชาติแบบเดิมๆจากวัด แล้วหาไม่ได้..ต้องการจะทำเองบ้าง มีวิธีเย็บธงยันต์มหาพิชัยสงครามกับธงชาติ ดังนี้

    ให้ซื้อเข็มกับด้ายมาใหม่ (ไม่ให้ใช้ของเก่า) เวลาเย็บให้ภาวนาว่า “พุทธะสังมิ” ไปเรื่อยๆจนเย็บเสร็จ ส่วนเข็มกับด้ายเมื่อเย็บเสร็จแล้วให้เอาไปลอยน้ำ ห้ามนำเอามาใช้เย็บอย่างอื่นอีก

    วิธีใช้
    ตื่นเช้าล้างหน้าแปรงฟันแล้วไปยืนที่ระเบียงห้องหรือที่โล่ง จุดธูป 7 ดอก ตั้งนะโม 3จบ แล้วอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้าขอกราบนมัสการองค์ท้าวมหาราชทั้ง 4 และบริวารทั้งหมดของท่าน ขอบารมีท่านท้าวมหาราชทั่้ง 4 และบริวารทั้งหมดของท่าน ได้โปรดช่วยให้
    1. ข้าพเจ้าแคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งปวง
    2. ขอให้มีความคล่องตัวทุกประการ
    3. ขอให้นึกรู้ในสิ่งที่ควรรู้
    4. ขอให้ศัตรูที่คิดร้ายจงพินาศโดยฉับพลัน
    แล้ว่าบท “สัมมาสัมพุทธัสสะ พระอะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ” (พูดออกเสียง 7 จบ)
    ต่อด้วย “อิทธิ ฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุหนี้เถิด สาธุ” (คาถาของหลวงพ่อ เวลาจวนตัวคิดอะไรไม่ออก ให้ท่องคาถานี้ ท้าวมหาราชทั้ง 4และบริวาร จะเมตตาช่วยเรา)

    Read more
  • ผ้ายันต์ ผ้ายันต์-โชว์

    ผ้ายันต์ธงเขียวท่านปู่พระอินทร์ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    หลวงพ่อท่านกล่าวถึงผ้ายันต์เขียวผ้ายันต์แดงนี้ไว้ว่า ทำขึ้นเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของทหารที่เข้าสงครามโดยเฉพาะ แต่ไม่รับรองในด้านคงกระพันชาตรี ท่านเจ้าของยันต์รับรองว่าจะไม่ตายโหง ถ้าเคราะห์ร้ายจริง ๆ จะยอมให้แค่เสียเลือดแต่กระดูกจะไม่หัก ถ้าถึงที่ตาย จะให้กลับมาตายที่บ้าน ท่านผู้รับไปจะต้องใช้ในเมื่อความจำเป็นบังคับเท่านั้น เช่น ต้องรบเพื่อป้องกันประเทศชาติ หรือป้องกันทรัพย์สมบัติ และชีวิตเมื่อถูกรุกราน ถ้านำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ผ้ายันต์นี้จะไม่ให้ผลแด่ท่านเลย

    ประโยชน์จากผ้ายันต์
    ๑. ผ้ายันต์สีแดง (ธงท่านท้าวมหาชมภู) มีไว้เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นเนื่องจากอุบัติเหตุ และโรคระบาดต่าง ๆ เช่น ไข้ป่า เป็นต้น อันตรายจะมีแด่ท่านผู้มียันต์นี้อย่างมากก็เพียงเนื้อแตก หนังแตก จะไม่มีอันตรายถึงกระดูกหัก หรือสิ้นชีวิตในระหว่างที่ ยังไม่ถึงอายุขัย

    ๒. ผ้ายันต์สีเขียว (ธงพระอินทร์) จะช่วยคุ้มครองหมู่คณะที่ร่วมปฏิบัติงานร่วมกัน ถ้าเขาเหล่านั้นต้องการให้คุ้มครอง
    อาราธนา การอาราธนาขอให้ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และครูอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา จนถึงหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และท่านเจ้าของธงเป็นที่สุด แล้วให้อธิษฐานตามที่ตนปราถนา (หมายถึงการคุ้มครอง) ไม่ใช่ขอหวย เมื่ออธิษฐานแล้วให้ปลุกด้วยคาถาปลุกของคนทั่วไปของหลวงพ่อปาน ว่าดังต่อไปนี้

    คาถาปลุก

    “อิทธิฤทธิ์ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุนี้ด้วยเถิด”

    ผ้านี้ทำเพียงหนึ่งพันชุด และแจกในวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๑๒ ซึ่งตรงกับ เดือนห้า ขึ้นห้าค่ำ วันเสาร์ เป็นวันไหว้ครู

    ******************************************

    ผ้ายันต์ธงเขียวท่านปู่พระอินทร์จะมีอยู่ด้วยกัน 2พิมพ์ มีข้อแตกต่างกันตรงที่มียันต์ คล้ายตัว ย ในกรอบสามเหลี่ยมเพิ่มขึ้นมา

    Read more
  • ผ้ายันต์ ผ้ายันต์-โชว์

    ผ้ายันต์ม่วง กรมหลวงชุมพร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    ยันต์เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพร (พุทธะฤๅชา ธัมมะฤๅชา สังฆฤๅชา) ตัวผ้าเป็นสีม่วง มีขนาด 10×10ซม. อีกหนึ่งรายการธงที่หายากของหลวงพ่อ นิมนต์จากบ้านลูกศิษย์ก้นกุฎิ

    Read more
  • ๔. เครื่องราง ผ้ายันต์ ผ้ายันต์-โชว์ พระยอดนิยม

    รวมผ้ายันต์-ธงยันต์ แบบต่างๆ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    รวบรวมผ้ายันต์-ธงยันต์ แบบต่างๆ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เมตตาสร้างเอาไว้ให้ลูกหลาน ประกอบไปด้วย

    1) ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงครามเย็บติดกับธงชาติ (เดิมๆจากวัด ขนาดเล็กสุด)
    2) ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม ผืนใหญ่-ผืนเล็ก
    3) ผ้ายันต์ยันต์เกราะเพชร รุ่นแรก
    4) ผ้ายันต์ยันต์เกราะเพชรหลวงปู่ปาน รุ่น1 (สีดำ) – รุ่น2 (สีแดง)
    5) ผ้ายันต์ธงแดง ปี2508 (สร้างสมัยหลวงพ่ออยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า)
    6) ผ้ายันต์ธงเขียวท่านปู่พระอินทร์ 2แบบ
    7) ผ้ายันต์ธงท้าวมหาชมภู 2แบบ
    8) ผ้ายันต์ธงฟ้าพระแม่โพสพ
    9) ผ้ายันต์ม่วง กรมหลวงชุมพร
    10) ผ้ายันต์ธงเหลืองค้าขาย (ทั้ง2แบบ)
    11) ผ้ายันต์ท่านท้าวมหาพรหม (ยันต์กันเพลี้ย)

    Read more
  • ผ้ายันต์ ผ้ายันต์-โชว์

    เสื้อยันต์เกราะเพชร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

    เสื้อยันต์เกราะเพชรผ่านพิธีพุทธาภิเษกในพิธีชาตรี ซึ่งถือว่าเป็นพิธีใหญ่มากๆ พุทธคุณเด่นมากด้านของฤทธิ์ เรื่องทางบู๊ตีรำฟันแทงและการป้องกันตัวทุกอย่าง

    ด้านหน้าของเสื้อยันต์ประกอบด้วย ยันต์ธงมหาพิชัยสงคราม 2ฝั่งซ้าย-ขวา ซึ่งเป็นยันต์ที่อยู่บนยอดธงออกรบสมัยโบราณ ตำราวิชานี้เป็นตำราพระร่วงที่หลวงพ่อเราสืบทอดมาเป็นท่านสุดท้าย..ถึงแม้ท่านอื่นนำไปทำผลมากที่สุดจะแค่ 10% เท่านั้น..ท่านบอกไว้ ส่วนด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชรหลวงพ่อปาน

    หลวงพ่อท่านสร้างไม่มากนัก ผู้ใดได้ครอบครองเสมือนเป็นนักรบกู้ชาติเมื่อสมัยก่อน เราจะเห็นลูกศิษย์นำมาใส่กันในวันเข้าพรรษา ฉลองพระเจ้าพรหมมหาราช โดยเดินวนรอบอนุสาวรีย์ 3รอบ เพื่อเป็นการระลึกถึงครั้งกู้เอกราชสมัยโยนก..พระเจ้าพรหมมหาราชทรงช้างประกายแก้ว

    Read more