จัดสร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับนั่งบนฐานผ้าทิพย์ โดยถอดแบบจากองค์หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์องค์จริงที่วิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดท่าซุง ด้านหน้ามีข้อความเขียนว่า “สมเด็จพระปทุมมุตระ” ด้านหลังเป็นยันต์ นะล้อม ด้านบนเขียนว่า “วัดท่าซุง” ด้านล้างเขียนว่า “หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์” ใต้ฐานตอกโค๊ดระฆัง และพิเศษสำหรับเนื้อทองคำ จะตอกโค๊ดรูปดอกบัว กำกับ เพื่อใช้ในการพิจารณาแยกเนื้อกับรุ่นอื่นๆ

เข้าพิธีพุทธาภิเษกเมื่อ วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2557 ภายในพระอุโบสถ วัดท่าซุง
จำนวนการจัดสร้าง
1. รูปหล่อหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ชุดทองคำ ประกอบด้วย เนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อนวโลหะ จัดสร้างทั้งสิ้น 230 ชุด (ตามเจ้าภาพสั่งจอง) ทำบุญชุดละ 25,000 บาท
2. รูปหล่อหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เนื้อเงินแท้ (จัดสร้างตามเจ้าภาพสั่งจอง) ทำบุญองค์ละ 1,000 บาท
3. รูปหล่อหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เนื้อนวโลหะ ทำบุญองค์ละ 400 บาท
4. รูปหล่อหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เนื้อทองเหลืองชุบทอง ทำบุญองค์ละ 300 บาท
5. รูปหล่อหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เนื้อทองเหลือง ทำบุญองค์ละ 300 บาท

****************************************************
คาถาบูชาหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์

ตั้ง นะโม 3 จบ

“อิติ สุคะโต นะโมพุทธายะ พุทธบูชา วันทามิ”

ให้ว่าคาถานี้วันละ 9 จบ เป็นอย่างน้อย บูชาทุกวัน จัดเป็น “พุทธานุสสติ” และเป็นการเสริมบุญบารมี ความเป็นศิริมงคลแก่ตัวผู้สวดได้เป็นอย่างดี

********************************************************************************************************

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์

หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่เก่าแก่ อยู่ในวิหารหลวงปู่ใหญ่มาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ (หลวงปู่ใหญ่ท่านมาบูรณะวัดท่าซุงนี้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ครองราชย์ได้ปีที่ ๙ ปี ท่านมาถึงวัดท่าซุงเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๓๓๒)

ในวิหารนี้มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่หลายองค์ส่วนมากจะปั้นเป็นพระพุทธรูปทรงสมัยอยุธยาเป็นเกศหนามขนุนทั้งสิ้น ต่อมาพระพุทธรูปบางองค์รวมทั้งหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ถูกพวกมิจฉาชีพตัดเอาเศียรพระไป และมีคนมาปั้นเศียรพระต่อให้แต่ก็ไม่สวยงามเท่าไรนัก โดยปั้นเป็นหน้าคนฟันเหยิน ตาโปน หมุ่นมวยผม

ดังนั้น เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๓ ผู้บูรณะได้กราบขออนุญาตจากพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อมหาวีระ ถาวโร หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เจ้าอาวาสวัดท่าซุงในสมัยนั้น) ซ่อมแซมพระพุทธรูปทั้งหมดที่ชำรุด รวมทั้งขอปั้นปูนทับอค์หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ด้วย หลวงพ่อท่านอนุญาต และได้กล่าวอีกว่า พระพุทธรูปองค์นี้ เมื่อปั้นเสร็จให้ทำป้ายชื่อติดเอาไว้ พ่อให้ชื่อท่านว่า “หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์” ต่อไปในภายภาคหน้าจะมีคนขึ้นกับท่านมาก และนี่ก็คือประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ตามที่ได้กล่าวมาจนถึงทุกวันนี้…

สิ่งที่ผู้คนนิยมมาทำบุญแลขอพระกับหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์มากทีเห็นก็คงจะเป็นการถวายผ้าสไบห่มองค์พระ โดยจะมีหลวงพี่องค์หนึ่งท่านนำสวดถวายและขอพรให้ เรียกว่าแบบละเอียดเลยก็ว่าได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนเยอะขนาดไหน ถ้าคนเยอะเกินไปท่านจะไม่อธิบายมาก แนะนำให้ไปวันธรรมดาคนน้อยๆท่านจะเล่าสาระดีๆให้เกี่ยวกับหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ให้ฟังอย่างละเอียด

ฉะนั้นถ้าใครได้อ่านและปรารถนาที่จะได้ชมบารมีของท่านก็ขอเชิญสักการะได้ที่วิหารหลวงปู่ใหญ่ อยู่คู่กับโบสถ์เก่า วัดท่าซุง ท่านเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก บางท่านได้อธิษฐานจิตขอพรจากท่าน และได้สมความปรารถนาก็มีหลายราย ดังนั้นท่านใดที่สนใจจะเข้าชมบารมีหรืออธิษฐานจิตขอพรจากท่านก็เชิญได้ตามที่ปรารถนา ถ้าไม่เกินวิสัยก็ขอให้โชคดี สมความปรารถนาทุกผู้คน