พระกริ่งเรซิ่น รุ่นฉลองเจดีย์ วัดธรรมยาน (หลวงพ่อวิรัช โอภาโส อดีตพระเลขาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)

พระกริ่งเรซิ่น (ไม่บรรจุกริ่ง) รุ่นฉลองเจดีย์ วัดธรรมยาน พระรุ่นนี้มีประวัติการสร้างชัดเจน ถือเป็นพระรุ่นแรกๆของทางวัดที่ลูกศิษย์หลวงพ่อวิรัช โอภาโส จัดสร้างมาถวาย เนื่องในงานฉลองเจดีย์พระธาตุแก้วเกศรานาเฉลียง ณ วัดธรรมยาน โดยพระส่วนมากจะถูกบรรจุอยู่ใต้เจดีย์เกือบทั้งหมด บางส่วนเล็กน้อยที่แจกให้กับพระลูกวัดและคนที่ช่วยงานวัดในขณะนั้น งานพิธียิ่งใหญ่ ตั้งบายศรี16ทิศ ฉลองสมโภชน์ 7วัน 7คืน พุทธคุณมากเหนือคำบรรยาย

****************************************************************************************************

ประวัติหลวงพ่อพระปลัดวิรัช โอภาโส

พระปลัดวิรัช โอภาโส อดีตพระวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี หลังจากที่ท่านเคยใช้ชีวิตในโลกแห่งสมมุติ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกามานานกว่า 10 ปี ได้เดินทางกลับสู่ประเทศไทย และเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อหาทางเข้าสู่วิมุตติ ณ วัดท่าซุง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2524 และจนกระทั่งวันที่ 30 ตุลาคม 2535 เป็นวันที่บรรดาลูกหลานศิษยานุศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เศร้าโศกเสียใจกับการมรณภาพของท่านอย่างไม่มีวันกลับ พระปลัดวิรัชได้อยู่สนองพระคุณท่าน ด้วยการร่วมในพิธีงานมรภาพจนครบรอบ 1 ปี ในที่สุดท่านตัดสินใจออกจากวัด เพื่ออยู่ใกล้ชิดบิดามารดา และเพื่อฝึกฝนตนเอง และแสวงหาเส้นทางวิมุตติ ด้วยการรอนแรมไปยังที่ต่างๆนานกว่า 10 ปี

ภายใต้ร่มโพธิ์ทอง ร่มโพธิ์ธรรม ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ยาวนาน 12 ปี ท่านได้เป็นพระเลขาฯ ประจำตัวของหลวงพ่อฯ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส กรรมการมูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร และกรรมการโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา ท่านเป็นผู้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อฯทั้งภายในประเทศและต่างประเทศด้วยดี ตลอดมา ซึ่งทุกตำแหน่งได้สร้างความภูมิใจให้ท่านเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีสิ่งอื่นใดที่จะมีค่าเท่ากับความเมตตาที่หลวงพ่อฯมอบให้ ในที่สุดท่านได้นำประสบการณ์ที่สะสมมานานมาสร้าง วัดธรรมยานขึ้น ที่ ตำบลนาเฉลียง อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ท่านมีปฏิปทาในการทำงานเพื่อบูชาพระคุณองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และเจริญรอยตามครูบาอาจารย์ คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

เมื่อเวลามาถึง และโอกาสอำนวย วัดธรรมยานจึงได้ถือกำหนดขึ้น เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2546 จากที่ดิน 37 ไร่ จนกระทั่งปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งหมด 664 ไร่ จากพื้นที่แห้งแล้งประดุจดั่งทะเลทราย ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำใช้ในบางโอกาส ณ บัดนี้ผืนดินดังกล่าวได้ค่อยๆกลายเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เจริญงอกงามขึ้น ตามลำดับของกาลเวลาและกำลังศรัทธาของผู้แสวงบุญ อันเป็นสถานที่เหมาะแก่การหลีกเร้นใฝ่หาความสงบของจิตเพื่อก้าวไปสู่การพัฒนาหาทางดับทุกข์ในที่สุด